ที่ดิน ถือเป็นอสังหาริมทรัพย์ประเภทหนึ่งที่มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจ ไม่เพียงจะเป็นพื้นที่สำหรับก่อสร้างที่อยู่อาศัยเท่านั้น แต่มันยังเป็น 1 ใน 4 ของปัจจัยการผลิตที่สำคัญในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งประกอบไปด้วย ที่ดิน ทุน แรงงาน ผู้ประกอบการ ถ้าหากไม่มีที่ดินธุรกิจก็จะไม่สามารถก่อตั้งขึ้นได้ เพราะอย่างน้อยก็ต้องมีสำนักงานไว้สำหรับประชุม ติดต่องาน นอกจากประโยชน์ด้านการใช้สอยแล้ว ที่ดิน ยังถูกมองเป็นสินทรัพย์เพื่อการลงทุนอีกรูปแบบหนึ่ง ที่สามารถสร้างรายได้ สร้างผลตอบแทนให้แก่ผู้ที่ครอบครองได้ ซึ่งวันนี้ TerraBKK Research จะพาไปมองในมุมที่ว่า “ที่ดินเป็นสินทรัพย์เพื่อการลงทุน” เราจะมีช่องทางการพัฒนาที่ดินเพื่อสร้างรายได้จากทรัพย์สินที่เรามีอยู่ได้อย่างไร

รายได้จากผลตอบแทนจากอสังหาริมทรัพย์ คือ ส่วนต่างมูลค่าสินทรัพย์ (Capital Gain) + เงินปันผลหรือผลตอบแทนจากการปล่อยเช่าอสังหาริมทรัพย์

1. เพิ่มรายได้จากการปล่อยเช่าอสังหาริมทรัพย์ ช่องทางนี้เราเชื่อว่าหลายคนจะรู้จักกันดีอยู่แล้วและหลายคนก็ใช้การปล่อยเช่าเป็นช่องทางในการสร้างรายได้ ขอเพียงแค่มีที่ดินหรือส่วนควบของที่ดิน เช่น บ้าน ทาวน์เฮ้าส์ หอพัก อยู่ในทำเลที่ดีก็จะมีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้อย่างมีประสิทธิผล

2. สร้างกระแสเงินสด อสังหาริมทรัพย์ประเภท บ้านและที่ดิน เป็นสินทรัพย์ประเภทเดียวที่สามารถกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินได้ในสัดส่วน ที่มาก ระยะเวลาในการผ่อนชำระยาวนาน อีกทั้งการวางเงินดาวน์อยู่ในระดับต่ำและดอกเบี้ยต่ำด้วย เราจะเห็นว่า สถาบันการเงินเอื้อประโยชน์ให้กับอสังหาริมทรัพย์อย่างมาก ถ้าหากเราสามารถบริหารสัดส่วนเงินดาวน์ อัตราการผ่อนต่อเดือน ให้หักลบกับรายรับที่เข้ามาแล้วมีกระแสเงินสดเป็นบวกก็จะทำให้การลงทุนมี กระแสเงินสดเพิ่มขึ้นและเป็นอีกช่องทางในการสร้างรายได้ที่ดีอีกทางหนึ่ง

3. ช่วยประหยัดภาษี การเป็นเจ้าของบ้านและที่ดิน สามารถนำดอกเบี้ยเงินกู้มาลดหย่อนภาษีได้ซึ่งถือเป็นผลตอบแทนในอีกรูปแบบหนึ่ง โดยกฎหมายกำหนดว่า “ค่าดอกเบี้ยเงินกู้ยืมเพื่อที่อยู่อาศัย ให้ได้รับลดหย่อนและยกเว้นได้ตามที่จ่ายจริง แต่รวมกันไม่เกิน 100,000 บาท” เราจะเห็นว่า อสังหาริมทรัพย์เป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่ภาครัฐฯให้การอุดหนุนเรามักจะเห็นมาตรการทางด้านภาษีเข้ามาด้วย

4. ผลจากเงินเฟ้อช่วยเพิ่มผลตอบแทน ปัญหาอย่างหนึ่งของการถือเงินสดไว้เฉยๆ โดยไม่นำไปลงทุน คือ มูลค่าของเงินที่เราถือไว้จะหดหายลงไป แต่ถ้าหากนำมาลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ จะได้ประโยชน์ทางอ้อมจากการเพิ่มสูงขึ้นของเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นในระบบเศรษฐกิจส่งผลให้ราคาของอสังหาริมทรัพย์สูงขึ้นโดยปกติปีละประมาณ 3-7% ต่อปี และอีกแรงหนึ่ง คือ อัตราค่าเช่า ก็จะปรับสูงขึ้นตามเงินเฟ้อด้วยเช่นกัน เห็นได้จากสัญญาเช่าส่วนใหญ่จะทำเป็นรายปี และก็มักจะพบการปรับค่าเช่าเพิ่มสูงขึ้นอยู่บ่อยๆ

5. การเพิ่มขึ้นของมูลค่าตามเวลา เมื่อเวลาผ่านไปความเจริญก็แผ่ขยายไปยังหัวเมืองต่างๆ มากขึ้น และยิ่งไปกว่านั้นถ้าหากทำเลนั้นมีความเจริญ มีการพัฒนา อาคารสำนักงาน ศูนย์การค้า โรงพยาบาล และสิ่งอำนวยความสะดวก ก็จะยังผลักดันให้ผู้คนเข้าไปพักอาศัยในย่านนั้นมากขึ้น ส่งผลให้ปริมาณที่ดินลดลง ราคาที่ดินรวมถึงอสังหาริมทรัพย์ปรับตัวสูงขึ้น

6. แปลงอสังหาเป็นหลักทรัพย์เพื่อการลงทุนผ่านกองทุนอสังหาริมทรัพย์ หรือจำนวก Private Fund ต่างๆ ปัจจุบันเรามีตลาดรองเพื่อรองรับการซื้อขายกองทุนอสังหาริมทรัพย์ (Property Fund) ทำให้การลงทุนผ่านกองทุนประเภทนี้สามารถทำได้ง่ายมากขึ้น และช่วยเสริมสร้างสภาพคล่องให้แก่อสังหาริมทรัพย์มากขึ้นด้วย จากเดิมที่สภาพคล่องของอสังหาริมทรัพย์อยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ

7. ปรับปรุงทรัพย์สินให้เหมาะกับระยะเวลาให้เหมาะสม ถ้าหากคุณมีบ้านหลังเก่า หรือมีที่ดินเปล่าที่ไม่ได้รับการดูแล ถ้าเรานำบ้านของเรามีทำการปรับปรุง ตกแต่ง ให้มีความสวยงาม ทันสมัย ดูสะอาดตา ก็จะช่วยให้สามารถเพิ่มมูลค่าของที่อยู่อาศัยนั้นให้เพิ่มสูงขึ้นได้ ตัวอย่างการปรับปรุง ได้แก่ ทาสี ปลูกต้นไม้ ปรับปรุงห้องน้ำให้ดูสะอาด เปลี่ยนกระเบื้อง รวมถึงเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์ให้ดูใหม่เสมอ ไม่เพียงเท่านั้นการปรับปรุงบ้านต้องปรับนอกบ้านด้วย เช่น รั้ว ประตู สนามหญ้า โรงรถ เป็นต้น เพียงเท่านี้ก็ทำให้บ้านดูน่าอยู่ช่วยเพิ่มมูลค่าขึ้นมาได้ ส่วนผู้ที่ปล่อยเช่าก็สามารถเก็บค่าเช่าเพิ่มขึ้นและอัตราการเช่าก็จะดีขึ้นได้เช่นกัน

8. สภาพแวดล้อมต้องดี ก่อนที่จะตัดสินใจลงทุนในอสังหาริมทรัพย์สิ่งหนึ่งที่หลายคนลืมพิจารณา คือ สภาพแวดล้อมรอบข้างอสังหาริมทรัพย์ที่เราสนใจ เช่น เพื่อนบ้าน ชุมชนบริเวณนั้นเป็นอย่างไร คุณภาพคนดีหรือไม่ เป็นชุมชนแออัดหรือไม่ ถ้าหากทำเลที่สภาพแวดล้อมยังไม่เอื้ออาจจะต้องรอจนกว่าสภาวะแวดล้อมเปลี่ยนไปก่อน เพราะถ้าฝืนซื้อลงทุนไปมูลค่าก็อาจจะไม่ได้เพิ่มสูงขึ้นมาก มิหนำซ้ำอาจจะลดลงด้วยซ้ำจากสภาพแวดล้อมที่เสื่อมโทรมลงไป แต่ถ้าหากมีเงินทุนมากอาจจะซื้อยกแปลงแล้วนำไปพัฒนาต่อเองให้มีสภาพแวดล้อมที่ดีให้คุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยดี ก็จะทำให้ราคาสามารถเพิ่มสูงขึ้นได้

9. เพิ่มช่องทางรายได้ให้กับอสังหาริมทรัพย์ ถ้าเรามีอสังหาริมทรัพย์ประเภทคอนโดมิเนียม โรงแรม หอพัก อพาร์ทเม้นท์ช่องทางรายได้อาจจะไม่ได้มาจากการปล่อยห้องเท่านั้น สามารถมาจากการให้บริการ ซักอบรีด บริการที่จอดรถรายเดือน บริการแม่บ้านทำควสามสะอาด ตู้ซักผ้าหยอดเหรียญ บริการน้ำดื่ม เป็นต้น

นี่คือ 9 ช่องทางเพิ่มรายได้จากการพัฒนาที่ดิน ที่ทาง TerraBKK Research นำมาฝากเพื่อเป็นแนวทางการเพิ่มรายได้และเร่งการสร้างผลตอบแทนให้กับอสังหาริมทรัพย์ของคุณ

บทความโดย : TerraBKK เคล็ดลับการลงทุน TerraBKK ค้นหาบ้านดี คุ้มค่า ราคาถูก