สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 14 พฤษภาคม 2558 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,212.60-1,218.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,250 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 250 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,000 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFM15 อยู่ที่ 19,390 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 240 บาทจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,150 บาท (หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.32 น.ของวันที่ 14/05/15) แนวโน้มวันที่ 15 พฤษภาคม 2558 กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดค้าปลีกพื้นฐานหรือยอดค้าปลีกที่ไม่รวมรถยนต์, น้ำมันเบนซิน, วัสดุก่อสร้าง และ บริการอาหารไม่มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นและต่ำกว่าคาดการณ์ นอกจากนี้ราคานำเข้าของสหรัฐยังลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 10 ติดต่อกันในเดือนเมษายน ตัวเลขดังกล่าวสร้างความผิดหวังและอาจส่งผลให้มีการปรับลดตัวเลขคาดการณ์อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐสำหรับปีนี้ กระแสคาดการณ์ดังกล่าวกดดันดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินเคลื่อนตัวใกล้จุดต่ำสุดรอบ 3 เดือน หลังจากทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐอ่อนแอเกินคาด ขณะที่นักลงทุนบางรายตั้งข้อสงสัยว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะสามารถปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ได้หรือไม่
ทั้งนี้ ราคาทองคำตลาดต่างประเทศพุ่งขึ้นไปแตะจุดสูงสุดรอบ 5 สัปดาห์ หลังจากมีการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว ซึ่งข้อมูลที่ย่ำแย่ของสหรัฐสกัดกั้นความต้องการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงโดยนักลงทุนรอดูท่าทีอยู่นอกตลาดหุ้นสหรัฐเพื่อรอการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจต่อไปในช่วงท้ายฤดูประกาศผลประกอบการได้เพิ่มความน่าสนใจต่อตลาดทองคำมากขึ้น อย่างไรก็ตาม อัตราการขยายตัวของการลงทุนของจีนชะลอตัวลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบหลายปี และข้อมูลเศรษฐกิจในเดือนเมษายน โดยเฉพาะตัวเลขการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรในส่วนของอสังหาริมทรัพย์ออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ โดยอยู่ในอัตราต่ำสุดตั้งแต่เดือนธันวาคม 2000 ประเด็นนี้ได้ชะลอแรงซื้อที่เข้ามายังตลาดทองคำและสร้างแรงขายเมื่อราคามีการปรับตัวขึ้น ทั้งนี้ ประเมินว่า การเคลื่อนไหวของราคาทองคำจะมีแนวรับบริเวณ 1,208 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากโซนนี้ไม่สามารถรับอยู่ ราคาทองคำมีแนวโน้มที่จะอ่อนตัวลงมาสู่แนวรับถัดไปในบริเวณ 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากยืนอยู่ราคาทองคำจะดีดตัวกลับไปในโซน 1,220-1,225 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยนักลงทุนควรเน้นไปที่การลงทุนระยะสั้น กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า ราคาทองคำเคลื่อนไหวในลักษณะความผันผวนของราคาและการแกว่งตัวของราคาอาจลดลงจากช่วงที่ผ่านมา นักลงทุนสามารถลงทุนระยะสั้นโดยเข้าซื้อหากราคาย่อตัวไม่หลุดแนวรับบริเวณ 1,208 หรือ 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยไม่แนะนำให้เข้าซื้อทั้งหมดบริเวณแนวรับใดแนวรับหนึ่ง ควรเหลือเงินทุนเพื่อซื้อเฉลี่ยหากราคาหลุดแนวรับแรกซึ่งราคาอาจจะปรับตัวลงไปบริเวณแนวรับถัดไป และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้นบริเวณแนวต้าน 1,220 หรือ 1,225 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่สามารถผ่านไปได้อาจเห็นการย่อตัวของราคาทองคำอีกครั้ง เบื้องต้นวายแอลจียังมองว่าการลงทุนยังเน้นการลงทุนระยะสั้น เพราะแม้ว่าราคาทองคำจะดีดตัวขึ้นได้บ้าง ก็ยังคงมีแรงขายทองคำออกมาเช่นกัน ซึ่งนักลงทุนควรตั้งจุดตัดขาดทุนเพื่อควบคุมความเสี่ยง ทองคำแท่ง (96.50%) แนวรับ 1,208 (19,120บาท) 1,200 (19,000บาท) 1,190 (18,840บาท) แนวต้าน 1,220 (19,320บาท) 1,225 (19,400บาท) 1,236 (19,570บาท) GOLD FUTURES (GFM15) แนวรับ 1,208 (19,280บาท) 1,200 (19,150บาท) 1,190 (18,990บาท) แนวต้าน 1,220 (19,470บาท) 1,225 (19,550บาท) 1,236 (19,730บาท) ขอขอบคุณข้อมูลจาก : acnews.net