คนที่เป็นแฟนซีรีส์เกาหลี หรือเคยไปท่องเที่ยวในกรุงโซลมาก่อน น่าจะคุ้นชื่อ "ชองดัมดง" ซึ่งเป็นย่านสุดหรูที่มีเพียงมหาเศรษฐีทรงอิทธิพลเท่านั้น จะสามารถจับจองเป็นเจ้าของได้


สำหรับคนเกาหลีใต้แล้ว ที่ดินไม่ได้เป็นเพียงทรัพย์สินที่เงินสามารถซื้อได้เท่านั้น แต่ยังบ่งบอกถึงอำนาจและสถานะทางสังคมได้อีกด้วย โดยเฉพาะ ที่ดินผืนที่มีความต้องการสูงและมีมูลค่า อย่างย่านถนนชองดัม หรือ "ชองดัมดง" ทางตอนใต้ของกรุงโซล เมื่อปี 2510 ชองดัมดง ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของกรุงโซล แต่เป็นส่วนหนึ่งของจังหวังคยองกีที่อยู่ข้างเคียง ซึ่งสมัยนั้นยังเต็มไปด้วยสวนผลไม้และพื้นที่ทางการเกษตร ไม่มีสภาพของความเป็นเมืองอย่างในปัจจุบัน กระทั่งปี 2518 ชองดัมดง เริ่มกลายสภาพเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของมหาเศรษฐีรุ่นใหม่ มีการปลูกสร้างอาคารขนาดใหญ่หลายแห่งในเวลาไล่เลี่ยกัน ส่งผลให้ที่ดินแถบนี้เปลี่ยนแปลงไปแบบพลิกฝ่ามือ และแผ่ขยายเป็นแหล่งอสังหาริมทรัพย์ริมแม่น้ำฮัน ราคาแพงในอีก 20 ปีถัดมา จากการสำรวจ ล่าสุดของสำนักข่าวโคเรียน เฮอรัลด์ ของเกาหลีใต้ พบว่า ผู้ที่เป็นเจ้าของที่ดินในย่านนี้ นอกจากจะต้องร่ำรวยและมีกิจการที่ประสบความสำเร็จแล้ว ยังมักเป็นลูกหลานคนดังที่ต้องการต่อยอดสถานะความมั่งคั่งของตระกูล สามารถแบ่งเป็น 4 กลุ่มใหญ่ๆ ดังนี้ กลุ่มห้างสรรพสินค้าชินเซเก เป็นกิจการขนาดใหญ่ภายในครอบครัว ที่นำโดยนายหญิงของตระกูลอย่าง "อี มยอง ฮี" ที่มีชื่อเป็นเจ้าของที่ดินในชองดัมดงถึง 5 แปลง รวมพื้นที่ 2,051.5 ตารางเมตร คิดเป็นมูลค่าประเมินกว่า 48,700 ล้านวอน หรือ 1,450 ล้านบาท ขณะที่ ลูกชายลูกสาวของเธอ ต่างก็มีชื่อเป็นเจ้าของในที่ดินแถบนี้เช่นกัน รวมที่ดินของสมาชิกครอบครัวกลุ่มชินเซเกในชองดัมดงทั้งหมด 14 แปลง มูลค่ากว่า 187,800 ล้านวอน หรือ 5,600 ล้านบาทเลยทีเดียว ส่วนกลุ่มบริษัทซัมซอง หรือที่คุ้นหูคนไทยในชื่อซัมซุง ก็เป็นเจ้าของที่ดินชองดัมดง ทั้งในนามของ "อี กอน ฮี" เจ้าของใหญ่ และในนามบริษัทในเครือต่างๆ รวมอย่างน้อย 11 แปลง มูลค่ากว่า 226,200 ล้านวอน หรือ 6,700 ล้านบาท ขณะที่ แอลจี (LG) ภายใต้การบริหารของ "คู จี อึน" ลูกสาวคนเล็กของเจ้าสัว "คู จา ฮัก" ก็ถือครองที่ดินแปลงตรงข้ามกับโบสถ์คาทอลิกชองดัม ร่วมกับพี่สาว โดยคาดว่าน่าจะมีมูลค่าราว 20,000 ล้านวอน หรือเกือบ 600 ล้านบาท ปิดท้ายที่กลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ระดับรองลงมา เช่น จีเอส-คาลเท็กซ์ และอามอร์-แปซิฟิก ที่ต่างฝ่ายต่างมีผู้บริหารถือครองที่ดินจำนวนมาก โดยคิดเป็นมูลค่าอย่างน้อย 9,200 ล้านวอน หรือ 270 ล้านบาท และ 37,200 ล้านวอน หรือ 1,100 ล้านบาท ตามลำดับ

ขอบคุณข้อมูลจาก : voicetv

สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารอสังหาริมทรัพย์ เพิ่มเติมได้ที่ : www.TerraBKK.com

Facebook : TerraBKK Facebook

Google+ : TerraBKK Google+

Twitter : TerraBKK Twitter