จีดีพี 4% โจทย์ที่ท้าทายรัฐบาล คสช.

จ่ายหนี้จำนำข้าวกว่า 9 หมื่นล้านบาทให้ชาวนา เป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะเร่งด่วน งานแรกของ คสช. หลังเข้าบริหารประเทศไม่ถึงสัปดาห์ จากนั้น ประกาศโรดแมปผลักดันเศรษฐกิจ เร่งส่งเสริมการลงทุนต่างประเทศ และการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน

จากนั้นออกสารพัดมาตรการ ทั้งต่ออายุมาตรการภาษี , เร่งเบิกจ่ายงบลงทุนและโครงการที่ยังค้างท่อ , เดินหน้าแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งรถไฟทางคู่ รถไฟฟ้าในเมือง , เร่งจัดทำงบประมาณปี 2558 ภายในเวลากว่า 6 เดือน มาตรการเหล่านี้น่าจะพยุงจีดีพี ให้เติบโตไม่ต่ำกว่าร้อยละ 2 แต่เมื่อเศรษฐกิจโลกสะดุด ฉุดการส่งออกร่วงหนัก ล่าสุด 11 เดือนแรกยังติดลบร้อยละ 0.42 ทั้งปี จึงอาจเห็นตัวเลขติดลบ ส่วนภาคท่องเที่ยวยังถูกกระทบจากวิกฤตการเมือง , กำลังซื้อชะลอจากหนี้ครัวเรือนสะสมสูง ในขณะที่เงินอัดฉีดจากรัฐลงสู่ระบบขับเคลื่อนไม่เต็มที่ ทำให้เป้าหมายจีดีพี จากร้อยละ 2 โน้มต่ำกว่าร้อยละ 1 ล่าสุด หอการค้าไทย และแบงก์ชาติ หั่นเป้าหมายจีดีพี เหลือร้อยละ 0.8 ปีหน้า(58) ลดเหลือร้อยละ 4 หลังแรงส่งจากจีดีพีไตรมาส 4 ปีนี้ ยังไม่มากพอ ปี 2558 เศรษฐกิจไทย จะขยายตัวร้อยละ 4-5 ตามที่หลายฝ่ายวิเคราะห์หรือไม่ ขึ้นอยู่หลายปัจจัย โดยเฉพาะแรงขับเคลื่อนหลักที่มาจากภาคท่องเที่ยว , การส่งออกกลับสู่ภาวะปกติ และการลงทุนภาครัฐเดินได้ตามแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ จากปัจจัยเสี่ยงที่ยังปกคลุมเศรษฐกิจไทย ทั้งหนี้ครัวเรือนในระดับสูง และการฟื้นตัวของศรษฐกิจโลก นับเป็นโจทย์ที่ท้าทายรัฐบาล คสช. ความหวังฟื้นเศรษฐกิจสู่การเติบโตอย่างสมดุล และเป็นไปตามศักยภาพ นาทีนี้ คงต้องพึ่งการเบิกจ่ายงบลงทุนในช่วงครึ่งปีหลัง 2557 ว่าแรงส่งจะมากพอผลักดันตัวเลขในปีหน้า(58) ให้ไปสู่เป้าหมายได้แค่ไหน หากการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณปี 2558 มีประสิทธิภาพ การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่จะมีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบ 6 หมื่น 8 พันล้านบาท และนโยบายกระตุ้นการใช้จ่ายภาคครัวเรือนได้ผล ก็น่าจะเป็นผลบวกทำให้เศรษฐกิจปีหน้า เติบโตตามที่คาดหมาย