นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้กล่าวในการเปิดงานสัมมนา และปาฐกถาพิเศษ ในงานสัมมนาวิชาการประจำปี Energy Symposium 2022 ว่า ในวันพรุ่งนี้ (13 ก.ย.) คาดว่ากระทรวงการคลังจะเสนอมาตรการต่ออายุลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลที่กำลังจะหมดอายุต่อไปอีก ส่วนมาตรการช่วยเหลือค่าไฟฟ้ากับกลุ่มเปราะบาง ผู้มีรายได้น้อย วงเงิน 8 พันล้านบาท กระทรวงมหาดไทยจะนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุม ครม. โดยใช้งบกลางรายการสำรองจ่ายกรณีฉุกเฉิน และจำเป็นในปีงบประมาณ 2565 และ 2566 เพื่อช่วยเหลือกลุ่มเป้าหมาย 

ขณะที่สถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากความตึงเครียดวิกฤตรัสเซีย-ยูเครน ทำให้ตลาดกังวลต่ออุปทานน้ำมันในตลาดโลกนั้น กระทรวงพลังงาน ได้ติดตามสถานการณ์พลังงานอย่างใกล้ชิดเพื่อบริหารจัดการพลังงานในช่วงของสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครน และในช่วงเปลี่ยนผ่านด้านการจัดหาพลังงานเพื่อให้เกิดความต่อเนื่อง

โดยรัฐบาลมีความพยายามในการแก้ไขปัญหา ด้านราคาน้ำมันที่สูงมากไปนั้นมีการใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงช่วยในการอุดหนุน รวมทั้งการลดภาษีสรรพสามิตเป็นการชั่วคราว ส่วนด้านราคาค่าไฟฟ้า ได้บริหารจัดหาเชื้อเพลิงอื่นที่มีต้นทุนถูกกว่าก๊าซมาผลิตไฟฟ้า ประคองค่าเอฟทีให้ปรับขึ้นไม่เกินกรอบที่ประกาศไว้ก่อนหน้านี้ เพื่อให้เกิดผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมและประชาชนน้อยที่สุด

สำหรับการปรับตัวและความอยู่รอดของภาคอุตสาหกรรมไทย ต่อวิกฤตพลังงานโลกนั้น จำเป็นต้องยกระดับประสิทธิภาพการผลิตและนวัตกรรมด้วยการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันและการพัฒนาอย่างยั่งยืนทั้งในภาคอุตสาหกรรม ต้องเปลี่ยนผ่านจากระบบเศรษฐกิจที่มุ่งเน้น การค้า การส่งออก การลงทุนแบบ offline เพียงอย่างเดียว ไปสู่รูปแบบธุรกิจใหม่ หรือ new business model ที่ผสมผสานรูปแบบ online เพิ่มมากขึ้น เน้นอุตสาหกรรมที่ใช้นวัตกรรมนำการผลิตเพื่อสร้างห่วงโซ่แห่งคุณค่า เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของตลาด โดยมีการใช้นวัตกรรมเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และมุ่งสู่ความเป็นเลิศในระดับภูมิภาคและระดับโลกต่อไป