พฤกษา แถลงผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2564 กวาดยอดขาย 6,940 ล้านบาท มีรายได้   6,888 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 606 ล้านบาท  ศึกษาแนวโน้ม พร้อมเกาะกระแสเทรนด์โลก มุ่งสร้างสรรค์ที่อยู่อาศัยที่รองรับการใช้ชีวิตของคนไทยทั้งในวันนี้ และวันข้างหน้า ดึงโรงพยาบาลวิมุตร่วมสร้างสรรค์ชุมชนน่าอยู่ ผลักดันการสร้างและรักษาสุขภาพที่ดีของคนในชุมชนทั้งในและแวดล้อมโครงการพฤกษา

นาย ปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภาพรวมอสังหาฯในช่วงไตรมาส 2/64 น่าจะดีขึ้นจากปีก่อน แม้ว่าการแพร่ระบาดของโควิด รอบ3 จะมีผลโดยรวมต่อเศรษฐกิจของประเทศ ทำให้คนส่วนใหญ่ชะลอการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะบ้านระดับราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาทที่ได้รับผลกระทบหนัก ส่วนบ้านระดับราคา 3-15 ล้านบาท มีแนวโน้มเติบโตได้ดีในช่วงนี้ ขณะที่บ้านหรูตลาดยังคงชะลอตัว

ส่วนยอด Walk in เยี่ยมชมโครงการ ในช่วงโควิดรอบ 3 ยอมรับว่าลดลงจากช่วงเวลาปกติ ซึ่งลูกค้าส่วนหนึ่งก็หันไปค้นหาข้อมูลโครงการผ่านระบบออนไลน์กันมากขึ้น โดยเฉพาะบ้าน-คอนโดฯ โครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่ ที่มีการอัดแคมเปญที่น่าสนใจ ซึ่งก็เป็นวิธีการทำการตลาดที่ได้ผลดีในช่วงนี้ โดยพบว่ามีลูกค้าค้นหาบ้าน-คอนโดฯ ของพฤกษา เติบโตถึง 30%

"สินค้าขายดีในช่วงนี้ คือ ทาวน์เฮ้าส์ ราคา 2-3 ล้านบาท, บ้านเดี่ยว ราคา 5-15 ล้านบาท และคอนโดฯ ราคา 2-5 ล้านบาท จากกลุ่มลูกค้าเรียลดีมานด์"

ทั้งนี้กำลังซื้อที่ลดลง และการเข้าถึงสินเชื่อได้ยาก ยังคงเป็นปัญหาใหญ่ต่อธุรกิจอสังหาฯ บริษัทฯคาดหวังว่าหลังสถานการณ์โควิดคลี่คลาย รัฐฯจะเอื้อเปิดช่องให้ชาวต่างชาติสามารถเข้ามาซื้อสังหาฯ ได้หลากหลายมากขึ้น ก็จะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้ตลาดอสังหาฯกลับมาฟื้นตัวได้อีกครั้ง ปัจจุบันสัดส่วน รายได้ของ บริษัทฯ มาจากสินค้ากลุ่ม ทาวน์เฮ้าส์ 40%, คอนโดฯ 30% และบ้านเดี่ยว 20%

 

 

 

 

สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2564  “บริษัทฯ สามารถทำยอดขายได้ 6,940  ล้านบาท เติบโต 14% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ทำรายได้ที่ 6,888 ล้านบาท สูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้ 7% และมีกำไรสุทธิ 606 ล้านบาท โดยสัดส่วนของยอดขายที่ได้มาจากทาวน์เฮาส์ 51% บ้านเดี่ยว 29% คอนโดมิเนียม 20% 

และมีโครงการที่เปิดตัวในไตรมาส 1 ที่ผ่านมาทั้งสิ้น 5 โครงการ มูลค่ารวมทั้งสิ้น 1,915 ล้านบาท ประกอบด้วย ทาวน์เฮาส์ 4 โครงการ บ้านเดี่ยว 1 โครงการ ทั้งนี้ยังคงแผนเปิดโครงการใหม่ในปีนี้ตามเดิมที่ 29 โครงการ มูลค่ารวม 26,630 ล้านบาท

 

 

            และด้วยบิซิเนสโมเดล (Business Model) ใหม่ของพฤกษาที่เน้นการพัฒนาโครงการให้โดนใจกลุ่มเป้าหมายในแต่ละเซ็กเม้นต์ ทำให้โครงการที่เปิดใหม่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เช่น บ้านพฤกษา ลาดกระบัง-ฉลองกรุง และ เดอะ แพลนท์ ซิตี้ ดอนเมือง-พหลโยธิน  ซึ่งสามารถทำอัตราการขาย ณสิ้นเดือนเม.ย.ได้สูงถึง 83% และ 93% ตามลำดับ

            ประกอบกับกลยุทธ์ด้านราคาและโปรโมชั่นที่จัดต่อเนื่อง ส่งผลให้สามารถลดสินค้าคงค้าง (Inventory) ลงไปได้ 41% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา คงเหลือมูลค่า 11,731 ล้านบาท    ล่าสุดแคมเปญส่งเสริมการขาย “พฤกษา คุ้ม จบทุกดีล” ที่เริ่มตั้งแต่ต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา ช่วยเร่งยอดขายและยอดโอนสำหรับบ้านพร้อมอยู่  ราว 1 เดือน สามารถสร้างยอดขายไปได้ 1,058 ยูนิต มูลค่า 2,155 ล้านบาท

 

            ด้านแผนการดำเนินงานในช่วงปีที่เหลือ พฤกษาได้มีการศึกษาเทรนด์ของโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา และเร็วขึ้นกว่าที่เคย ในฐานะผู้นำในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของไทย จึงใช้ความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัย ในการเตรียมความพร้อมให้กับผู้บริโภคสามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงของโลกล่วงหน้า

โดยจับ 3 แกนหลักของเทรนด์โลกที่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของผู้คนในวันนี้และอนาคต ได้แก่ 

1. เทรนด์การใส่ใจด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี (Health & Wellness Redefined) โดยจะดึงความเชี่ยวชาญด้านการดูแลสุขภาพจากโรงพยาบาลวิมุตเข้ามาเติมเต็มในส่วนนี้ ใส่ใจดูแลสุขภาพของลูกบ้านพฤกษาได้อย่างครบวงจร

2. เทรนด์ไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนแปลงไป (Lifestyle Disruption)  ยกตัวอย่างเช่น แนวโน้มการทำงานจากบ้านที่เพิ่มสูงขึ้น การให้ความสำคัญกับการใช้พื้นที่ในบ้าน การใช้เทคโนโลยีเกี่ยวกับการเชื่อมโยงข้อมูลต่างๆ หรือ Internet of Things (IoT) ผนวกในใช้ในชีวิตประจำวัน

 3. เทรนด์รักษ์โลกและการสร้างความยั่งยืน เพราะพฤกษาเชื่อว่าการมีบ้านเป็นการลงทุนทั้งชีวิต ไม่ใช่แค่เพื่อการใช้ชีวิตในวันนี้ แต่ต้องถูกคิดเพื่อชีวิตในวันพรุ่งนี้ด้วย ซึ่งเป็นที่มาของทิศทางในการดำเนินธุรกิจที่เปลี่ยนไปของแบรนด์ ภายใต้แนวคิด พฤกษา ใส่ใจเพื่อทั้งชีวิต “Tomorrow. Reimagined.” ซึ่งถือเป็นการให้คำมั่นสัญญาว่า พฤกษาไม่หยุดที่จะคิดสร้างสรรค์ พัฒนาสินค้าและบริการเพื่อตอบสนองการใช้ชีวิตของลูกค้าทั้งในวันนี้และวันข้างหน้า