ในขณะนี้คงปฎิเสธไม่ได้ว่า เรื่อง มลภาวะทางสิ่งแวดล้อม เป็นเรื่องที่หลายๆ ฝ่ายให้ความสำคัญ และมีการนำประเด็นเรื่อง มลภาวะ มาประกอบในแนวทางการดำเนินงานและจัดการ เพื่อให้ส่งผลกระทบต่อมลภาวะน้อยที่สุดหรือเป็นศูนย์ได้ยิ่งดี การสร้างอาคารสิ่งปลูกสร้างในตอนนี้นั้น เรื่องปริมาณการปลดปล่อยคาร์บอนนั้นเป็นเรื่องที่ต้องมีการใส่ใจและพิจารณากันในทุกกระบวนการเริ่มตั้งแต่การออกแบบกันเลยทีเดียว จึงก่อให้เกิดเป็นแนวคิดในการออกแบบอาคาร ให้มี Carbon Impact น้อยที่สุด ในบทความ Impact by Design 2020 ของทางบริษัท Gensler ก็ได้มีการเสนอแนวคิดในการออกแบบอาคารเพื่อ ลด Carbon Impact ไว้ ห้าแนวคิดด้วยกัน

            [1] Reuse นำกลับมาใช้ใหม่

                  ถ้ากระบวนการก่อสร้างตึกนั้นทำให้เกิดการปลดปล่อยคาร์บอน  แนวคิดแรกสุดของการ ลด Carbon Impact คือ การนำอาคารที่มีอยู่แล้ว กลับมาใช้ใหม่ เพราะจะช่วยลด การปลดปล่อยคาร์บอน ที่มาจากกระบวนการก่อสร้างต่างๆ ลงได้ โดยเฉพาะการทุบทิ้งอาคาร ซึ่งทำให้เกิดเศษซากมากมาย การนำอาคารที่มีอยู่แล้วมาใช้ใหม่สามารถยืดอายุการใช้งานของตัวอาคารออกไปได้อีก และยังคงรักษาความหมายทางประวัติศาสตร์ ของตัวตึกเอาไว้ต่อไป ตัวอย่างของไอเดียนี้ ก็เช่น อาคาร 888 North Douglas ใน El Segundo มลรัฐ  California ที่มีการนำเอาโกดังสินค้าและตัวโรงงาน มาปรับปรุงให้เป็น อาคารสำนักงาน โดยที่ยังรักษาโครงสร้างเดิมเอาไว้

           

            ที่มา 888doughlas.com

                  [2] Size and Shape

            ในการออกแบบอาคารนั้น ขนาด และ รูปร่างก็มีผลต่อ Carbon Impact เช่นกัน การออกแบบอาคารที่เหมาะสมนั้น นอกจากจะลด Carbon Impact ได้แล้วนั้น ยังสามารถลดค่าใช้จ่าย และเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานของอาคารได้ อีกด้วย อย่างเช่นการหันหน้าตึกไปทางทิศใต้ แทยที่จะเป็นทิศตะวันตก ก็สามารถลดความร้อนในตัวตึกลงได้ถึง 20% ทำให้ลดค่าใช้จ่ายอื่นๆ จากการก่อสร้างลงได้อีก ตัวอย่างหนึ่งคือ อาคารสำนักงานใหญ่ของกาแฟยี่ห้อ Britt ในประเทศ Costa Rica ที่มีการออกแบบหลังคาเพื่อให้แผงพลังงานแสงอาทิตย์สามารถผลิตพลังงานได้เต็มที่ และ ยังก่อให้เกิดร่มเงาลดแสงแดดที่เข้ามาในตัวอาคาร มีการออกแบบตัวอาคารให้แคบเพื่อเพิ่มการระบายอากาศโดยธรรมชาติ และ ปลูกต้นไม้ท้องถิ่นและออกแบบระบบน้ำให้ลดการใช้น้ำลงได้ถึง 78%

ที่มา Morpho Travel Retail

            [3] Materials

            ในส่วนของวัสดุที่ใช้นั้น ส่วนมากการปลดปล่อยคาร์บอนจะเกิดในกระบวนการผลิตวัสดุ เช่นจากการแปรรูป และ การขนส่ง วัสดุอย่างซีเมนต์นั้นเป็นส่วนหนึ่งของการปลดปล่อยคาร์บอนถึง 10% ของโลก ส่วนวัสดุอย่างไม้นั้น เป็นวัสดุที่มี การปลดปล่อยคาร์บอนที่น้อยมาก เพราะไม้มีความสามารถในการดูดซึมก๊าซคาร์บอนได้ออกไซด์ และกักเก็บคาร์บอนได้ การใช้วัสดุที่มาจากการรีไซเคิลก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการลด Carbon Impact จากการใช้วัสดุ ตัวอย่างก็เช่นอาคาร ศูนย์กลางของชุมชนบนเกาะ Chira ในประเทศ Costa Rica ที่ออกแบบหลังคาให้กักเก็บน้ำฝนได้ ตัวหลังคาทำจากวัสดุรีไซเคิลจากกล่องกระดาษ ใช้หน้าต่างที่ทำจากขวดพลาสติคที่ถูกรีไซเคิล โครงสร้างตัวอาคารทำจากไม้ที่หาได้ในท้องถิ่น

                   

ที่มา ticotimes.net

            [4] Water

            น้ำนั้นเป็นส่วนสำคัญมากในการใช้ชีวิต แต่ในหลายๆ พื้นที่บนโลกนั้นก็เผชิญกับภาวะขาดแคลนน้ำ การออกแบบอาคารให้ใช้น้ำน้อยและมีระบบไหลเวียนของน้ำก็เป็นประเด็นที่สำคัญในการออกแบบอาคารเพื่อลด Carbon Impact โดยตัวอาคารสามารถออกแบบระบบหมุนเวียนของน้ำ ให้สามารถกักเก็บน้ำฝนได้ และนำน้ำที่ผ่านการใช้แล้วจากอ่างล้างมือ จากเครื่องจักร เครื่องซักผ้า มาบำบัดใช้ในการรดน้ำต้นไม้ หรือ ใช้ชำระล้างสิ่งสกปรกในห้องน้ำ

           

ที่มา Gensler.com

                  [5] Energy

            แนวคิดสุดท้าย ก็เป็นเรื่องของการใช้พลังงาน ซึ่งก็เน้นการออกแบบให้ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น มีการติดตั้งแผงพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อผลิตไฟฟ้าไว้ใช้ในตัวตึก มีระบบเก็บสะสมพลังงาน ออกแบบให้หน้าต่างมีม่านเพื่อปรับระดับแสงที่เข้ามาในตัวตึก ใช้เพดานสูงในตัวล้อบบี้ เพื่อให้มีแสงเพียงพอกับการทำงาน เป็นต้น

ที่มา Adobe.com

                  นี่ก็เป็นแนวคิดการออกแบบอาคารเพื่อลด Carbon Impact ซึ่งสอดรับกับการรณรงค์ลดมลภาวะให้กับโลกของเรา แต่การลดมลภาวะนั้นก็ต้องอาศัยทุกๆ ฝ่าย บุคลากรหลากหลายสาขาอาชีพ ที่ต้องร่วมมือกันและมีแนวคิดไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อลดปริมาณการปลดปล่อยคาร์บอนให้เหลือน้อยที่สุด และใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดให้เกิดประโยชน์สูงสุด