ชุติพงษ์ วิชัยดิษฐ  

ดีไซน์เปลี่ยนชีวิต…คิดใหม่เรื่องบ้าน  

 

“อิฐแต่ละก้อน ต้นไม้ ไอเดีย สเปซ ทุกอย่างคือ ความพอดี ความลงตัว สถาปัตยกรรมที่ดีไม่ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนก็ยังทรงคุณค่าเสมอ”  ชุติพงษ์ วิชัยดิษฐ  สถาปนิก นักออกแบบ ที่มีความฝันและความเชื่อที่ต้องการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์  เผยนิยามคำว่า “บ้าน” อย่างน่าสนใจ 

คำว่าบ้านสำหรับเขามีความหมายง่ายๆ คือที่อยู่อาศัย ที่พักพิง เป็น space ที่สร้างความอบอุ่นให้แก่ผู้อยู่อาศัย เป็นที่ที่ทำให้ผู้อยู่อาศัยอยู่แล้วเป็นตัวของตัวเองมากที่สุด จะเป็นอะไร ลักษณะไหนก็ได้ ไม่มีรูปแบบ หรือกรอบที่ตายตัว คุณภาพของ space สำคัญกว่ารูปแบบและอยู่เหนือคำจำกัดความของสไตล์ใดๆ 

 

ชุติพงษ์ วิชัยดิษฐ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ริมทราย จำกัด ผู้พัฒนา โครงการ เทพา คอร์ทยาร์ด เออร์เบิร์น โฮม (Dhepa Courtyard Urban Home) ได้เห็นมุมมองที่จะสร้างความแตกต่างบนทำเลย่านถนนรามคำแหง แห่งนี้ นับตั้งแต่ก้าวแรกที่ได้เห็น 

“ที่ดินแปลงนี้มีความร่มรื่นมากตั้งแต่วันแรกที่ได้เห็น เหมาะที่จะทำที่อยู่อาศัย และด้วยตำแหน่งของที่ดินแปลงนี้ที่ตั้งอยู่ระหว่างเขตในเมือง และนอกเมือง การเลือกลักษณะการใช้สอยของ ‘บ้าน’ ที่เหมาะสมกับการอยู่อาศัย ณ location นี้ จึงเป็นสิ่งแรกที่เราให้ความสำคัญ”

 ดังนั้น เลือกที่จะพัฒนาที่ดินแปลงนี้ให้เป็นบ้าน แบบทาวน์โฮม ต้องมีความทันสมัยแบบที่อยู่อาศัยในเมือง ในขณะเดียวกันต้องมีความสะดวกสบายและมี ฟังก์ชั่น ครบแบบบ้านเดี่ยวนอกเมือง และที่สำคัญให้ความสำคัญกับสัดส่วนของพื้นที่สีเขียวที่พอดี และมากพอต่อการใช้งานที่ต้องมีความเป็นส่วนตัวด้วย ปัจจัยทั้งหมดนี้คือหัวใจของการพัฒนาโครงการนี้ขึ้นมาบนพื้นฐานของความพอดี และสมดุล ทุกอย่างต้องเกิดประโยชน์มากพอที่จะใช้งานได้จริง และต้องไม่มากไปจนกลายมาเป็นภาระในภายหลัง

 

จุดเริ่มต้นจากสถาปัตยกรรม นำไปสู่การรังสรรเพื่อความแตกต่าง

ชุติพงษ์  กล่าวถึงจุดเริ่มต้น และการสร้างสรรค์ผลงานที่อยู่อาศัย ที่ไม่ใช่แค่การก่อสร้างแต่ได้ผสมผสานแนวคิด ศิลปะ และความตั้งใจลงไปในนั้น  แรงบันดาลใจในการใช้ “สถาปัตยกรรม” เป็นเครื่องมือหลักในการพัฒนาโครงการฯ กลายเป็นจุดเด่นที่สร้างความแตกต่างจากที่อยู่อาศัยในตลาดตอนนี้ 

“ผมเป็นสถาปนิกที่มีความฝัน มีความตั้งใจ มีความรักที่จะพัฒนาที่ดิน พัฒนาในรูปแบบบนความเชื่อที่ว่าสถาปัตยกรรมมันกินได้ และสร้างที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพได้ เพราะเราตั้งต้นจากการมีวิชาชีพที่เป็นสถาปนิก เราจึง ‘มอง’ การพัฒนาโครงการในครั้งนี้ แบบสถาปนิก ‘ให้คุณค่า’ กับทุกสิ่งในแบบที่สถาปนิกให้ และเลือกที่จะ ‘ตัดสินใจ’ ทำอะไรจากมุมมองของสถาปนิก”

    “เราไม่ได้ตั้งต้นจากธุรกิจ ไม่ได้มาจากการคำนวณว่าที่ดินแปลงนี้ทำอะไรได้ผลตอบแทนคุ้มค่าที่สุดเป็นจุดเริ่มต้น ฉะนั้นการให้คุณค่าของสิ่งของแต่ละอย่างในการพัฒนาในครั้งนี้จึงมีจุดเริ่มต้นที่ต่างกัน”

Iconic Landmark “บ้านต้นไม้” จากมุมมองของสถาปนิก ที่ให้คุณค่ากับทุกสิ่งรอบตัว และเลือกตัดสินใจในวันนั้น พัฒนามาสู่สัญลักษณ์ใหม่ของโครงการในวันนี้ 

“ผมถูกสอนมาตลอด ตามสายอาชีพที่ร่ำเรียนมา ว่าในแต่ละบริบทของที่ดินแปลงนั้นๆ จะมีคุณภาพสำคัญที่แตกต่างกัน ที่ดินแปลงนี้มีต้นไม้ใหญ่อยู่หลายกลุ่ม มีความร่มรื่นมากตั้งแต่ก่อนที่เราจะเข้ามาพัฒนา เราไม่เคย ‘มอง’ ต้นไม้เหล่านี้ว่าคืออุปสรรคต่อการพัฒนาที่ดินแปลงนี้เลย เรา ‘ให้คุณค่า’ มากจนเราพยายามเก็บไว้ครบทุกต้น  จะว่าไปแล้วงบประมาณที่เราใช้ไปในการรักษาต้นไม้ไว้ในโครงการนี้ สูงกว่าการหาซื้อใหม่ในขนาดที่ใหญ่กว่าเดิมและจำนวนที่มากกว่าเดิมหลายเท่า ปัจจุบันต้นไม้เป็นเสมือนสัญลักษณ์ใหม่ของโครงการนี้ไปแล้ว ทั้งๆ ที่เราแค่ ‘ตัดสินใจ’ เลือกที่จะเก็บเขาไว้ในที่ที่ปลอดภัยกว่าเท่านั้นเอง”

 

สัมผัสความร่มรื่น อบอุ่นของคำว่า “บ้าน” ตั้งแต่หน้าโครงการไปจนถึงหน้าประตู

 

“เราอยากให้คนที่เข้ามาในโครงการรู้สึกได้ว่าเขากำลังกลับบ้าน ข้างในนั้นเปรียบเสมือนบ้านหลังใหญ่หลังนึง เราจึงไม่ได้มุ่งเน้นไปที่ความอลังการของทางเข้าหมู่บ้านให้สูงและตระการตาเหมือนที่อื่นๆ แต่เราอยากให้คุณรู้สึกร่มรื่น อบอุ่นเหมือนคุณกำลังจะกลับบ้านเท่านั้นเอง เราเลือกวัสดุปูถนนแบบนี้เพื่อให้คุณขับรถช้าลง และเลือกที่จะทิ้งพื้นที่ทางเข้าของโครงการทั้งหมดนี้ไว้เพื่อเป็นสวน เป็นพื้นที่สีเขียวเพื่อปรับความรู้สึกกันสักนิดก่อนที่คุณจะเดินทางเข้าบ้านของคุณจริงๆ” 

ในรายละเอียด ตั้งแต่การกำหนดอัตราส่วนที่เหมาะสม, ระหว่างพื้นที่ขาย ต่อพื้นที่สีเขียวส่วนกลาง การกำหนดขนาดของพื้นที่ใช้สอยของแต่ละยูนิต, การวางผังของอาคารให้อยู่ในทิศที่จะรับแสงและลมธรรมชาติให้ได้มากที่สุด, ขนาดของพื้นที่ใช้สอยของแต่ละ function ภายในตัวบ้าน รวมไปถึงวัสดุตกแต่งต่างๆ ที่ใช้ในโครงการล้วนถูกออกแบบ ให้คุณค่า และถูกเลือกใช้มาโดยละเอียด จากมุมมองของสถาปนิกและนักออกแบบ

 

คุณค่าในแบบของ DHEPA ความแตกต่าง อย่างมีเอกลักษณ์

“วัสดุที่เราใช้ภายในโครงการแทบจะร้อยเปอร์เซนต์เป็นวัสดุจริง ไม่ใช่วัสดุสังเคราะห์ เราต้องการให้สีของโครงการเป็นสีของวัสดุที่เกิดขึ้นจริงตามธรรมชาติ จะนิยามกันไปยังไงก็แล้วแต่ ผมว่าของจริงยังไงก็สวยและอยู่กับเราได้อย่างธรรมชาติมากกว่าของปลอม บ้านทุกหลังไม่ได้ถูกสร้างออกมาจากโรงงานอุตสาหกรรม ฉะนั้นด้วยการใช้วัสดุธรรมชาตินี้เอง บ้านแต่ละหลังที่นี่จะมีความแตกต่างกัน ส่วนตัวผมคิดว่านี่คือความเป็นธรรมชาติ นี่คือคุณค่าในแบบของ Dhepa” 

“อิฐที่เป็นวัสดุก่อผนังธรรมดาๆ เราก็นำมาใช้ได้ในอีกแง่มุมนึงในโครงการนี้ เป็นผนังที่ทึบก็ได้ ทำให้โปร่งก็ได้ เอามาทำเป็นทางเดินก็ได้ และกลายมาเป็นจุดเด่นที่ทั้งทางเข้าโครงการและผนังที่หน้าบ้านแต่ละหลังก็ได้เช่นกัน”

สำหรับ โครงการ เทพา คอร์ทยาร์ด เออร์เบิร์น โฮม (Dhepa Courtyard Urban Home) จาก บริษัท เอเซียถือหุ้น จำกัด และ บริษัท ริมทราย จำกัด เป็นทาวน์โฮม 3 ชั้นครึ่ง บนถนนรามคำแหง 118 ออกแบบด้วยแนวคิด Urban Homes ซึ่งเน้นพื้นที่สีเขียวและความเป็นธรรมชาติภายในโครงการ ที่นอกจากจะมีพื้นที่ใช้สอยระดับบ้านเดี่ยวแล้ว ยังได้ความเป็นส่วนตัวสูง เพราะยูนิตน้อยเพียง 55 ยูนิต  บนที่ดินกว่า 7 ไร่ครึ่ง มีจุดเด่นที่มาพร้อมกับสวนหลังบ้านให้ได้ผ่อนคลายในบรรยากาศใกล้ชิดธรรมชาติ 

ส่วนของตัวอาคาร มีการจัดสรรพื้นที่ใช้สอยทุกอย่างอย่างลงตัว และเลี่ยงความร้อนจากแดดยามบ่าย ด้วยการออกแบบให้บ้านทุกหลัง รวมทั้งหัวเตียงในห้องนอน ไม่หันหน้าไปทางทิศตะวันตก และวางผังให้สอดรับกับทิศทางลม เพื่อระบายอากาศอย่างมีประสิทธิภาพ อีกหนึ่งความใส่ใจของงานออกแบบที่สามารถทำให้บ้านที่นี่ มีพื้นที่ความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น โดยการก่อกำแพงที่เชื่อมต่อระหว่างบ้านแต่ละหลังเป็น Double Wall ช่วยลดเสียงรบกวนจากข้างบ้าน และลดความร้อนภายในตัวบ้าน อีกทั้งมีการเลือกใช้วัสดุนำเข้าจากต่างประเทศ คุณภาพดี มีเอกลักษณ์ ดีไซน์สวยงาม และดูแลรักษาง่าย เต็มอิ่มกับพื้นที่ใช้สอยในบ้านแล้ว ก็ยังสามารถใช้บริการพื้นที่ส่วนกลางได้อย่างคุ้มค่า ไม่ว่าจะเป็น Welcoming Court พื้นที่สีเขียวหน้าโครงการ และ Club House พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน 

โครงการ เทพา คอร์ทยาร์ด เออร์เบิร์น โฮม (Dhepa Courtyard Urban Home) ตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพย่านรามคำแหง-กรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ ใกล้รถไฟฟ้าแห่งอนาคต 2 สาย ใกล้ย่าน New CBD และยังรายล้อมไปด้วยโรงเรียนนานาชาติและย่านธุรกิจการค้าที่มีชื่อเสียง 

ลูกค้าที่สนใจสามารถนัดหมายเข้าเยี่ยมชมโครงการหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม 063-921-6563

ยูนิตราคาพิเศษ เริ่ม 9.5 ล้านบาท