“คลัง” เสนอลดหย่อนภาษีซื้อสินค้า สูงสุด 5 หมื่นบาท/คน หวังกระตุ้นบริโภค เอกชน แนะ รมว.คลังคนใหม่ เร่งแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ

การระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวอย่างรุนแรง โดยที่ผ่านมามีความพยายามผลักดันการเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวและนักธุรกิจต่างชาติ ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเสนอคณะกรรมการศูนย์บริหารสถารการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากโควิด-19 (ศบศ.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานวันนี้ (7 ต.ค.) พิจารณาแนวทางการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง กล่าวว่า กระทรวงการคลังจะเสนอมาตรการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศเพิ่มเติม หลังจากก่อนหน้านี้มีมาตรการคนละครึ่่ง และการเติมเงินสวัสดิการเพิ่มอีกเดือนละ 500 บาทให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

โดยมาตรการที่เสนอให้ ศบศ.พิจารณาครั้งนี้จะเป็นมาตรการสนับสนุนการใช้จ่ายของผู้เสียภาษีโดยมีเป้าหมายที่ผู้มีรายได้ระดับปานกลางและรายได้ปานกลางระดับสูง (Upper middle income) ในการซื้อสินค้าและได้สิทธิลดหย่อนภาษี ในลักษณะเดียวกันกับโครงการช็อปช่วยชาติ

ทั้งนี้จะเพิ่มวงเงินในการลดหย่อนภาษีได้จากเดิมที่เคยให้สิทธิ์ในการลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 15,000 บาท เพิ่มเป็นลดหย่อนภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 50,000 บาท เพื่อจูงใจให้ประชาชนที่มีรายได้และมีกำลังซื้อไปจับจ่ายซื้อสินค้าในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้

นางสาวกัณญภัค ตันติพิพัฒนพงศ์ ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เปิดเผยว่า สำหรับนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนใหม่ นั้น สรท.ต้องการให้ดูแลและเร่งดำเนินการเรื่องมาตรการเยียวยา ฟื้นฟู และกระตุ้นเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดโควิด-19 โดยต้องการให้มีมาตรการที่สามารถช่วยเหลือได้ครบทุกระดับอย่างแท้จริง

โดยเฉพาะระดับฐานราก เพราะต้องยอมรับว่าที่ผ่านมาจะมีมาตรการช่วยเหลือออกมาแต่ยังไม่ได้ช่วยเหลือครอบคลุมได้ทุกกลุ่ม 

รวมถึงการบริหารงบประมาณที่ต้องการให้ใช้งบประมาณที่มีอยู่อย่างจำกัด เพื่อให้มาตรการที่จะออกมาเกิดประโยชน์สูงสุด โดยมองว่าหากจะกู้เงินมาใช้จ่ายเพิ่มจะช่วยฟื้นเศรษฐกิจเร็วขึ้นก็ไม่น่ากังวลที่จะกู้ และต้องการให้ลดขั้นตอนจ่ายค่าใช้จ่ายในการ ซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนของภาคส่งออก เพราะกฎหมายบางตัวค่อนข้างล้าหลัง และที่ผ่านมามีการหารือกันเรื่องนี้นานแล้ว แต่ยังไม่เห็นความเปลี่ยนแปลง

SOURCE :www.bangkokbiznews.com