แอสเซทไวส์ เสริมแกร่งรับปีแห่งความท้าทาย มุ่งพัฒนาทุกมิติให้แข็งแกร่ง เดินหน้ารุกตลาดบลูโอเชี่ยน ขยายการพัฒนาแคมปัส คอนโด เน้นการสร้างความแตกต่าง หลังกระแสการตอบรับดีอย่างต่อเนื่อง เตรียมเปิดโครงการใหม่ มูลค่ารวมกว่า 6,000 ล้านบาท ในปี 2563 ทั้งแนวราบและแนวสูง รวมถึงคอมมูนิตี้มอลล์แห่งแรก พร้อมรุกสู่โครงการมิกซ์ยูสในอนาคต

นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด เปิดเผยว่า ในปี 2562 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้เปิดตัวโครงการใหม่มูลค่ารวมกว่า 6,700 ล้านบาท เช่น โครงการ เคฟ ทาวน์ ชิฟท์, โครงการแอทโมซ แจ้งวัฒนะ, โครงการ โมดิซ คอลเลคชั่น บางโพ, โครงการ เคฟ ทียู และโครงการบ้านภูริปุรี เฟสทาวน์โฮม ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นที่น่าพอใจ รวมถึงมีโครงการที่ก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์แล้วจำนวน 5 โครงการ ได้แก่โครงการโมดิซ รัชดา 32, โครงการแอทโมซ ลาดพร้าว 71, โครงการแอทโมซ ลาดพร้าว 15, โครงการบราวน์ รัชดา-ห้วยขวาง และโครงการแกลม ซึ่งกำลังโอนกรรมสิทธิ์อย่างต่อเนื่อง

“สำหรับปี 2563 ถือเป็นปีที่ภาคธุรกิจโดยเฉพาะอสังหาริมทรัพย์เผชิญความท้าทาย แต่สำหรับแอสเซทไวส์ ถือเป็นอีกหนึ่งโอกาสสำคัญในการพลิกเกมการดำเนินธุรกิจ โดยโอกาสทางธุรกิจที่เราให้ความสำคัญ คือ การเติบโตในตลาดบลู โอเชี่ยน ด้วยการมุ่งพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมใกล้สถานศึกษา (Campus Condo) มากขึ้นผ่าน       แบรนด์ KAVE  ซึ่งมีความโดดเด่นของทำเลที่ตั้งอยู่ใกล้มหาวิทยาลัยหลัก  มีพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่สำหรับทำกิจกรรมสร้างสรรค์ต่างๆ หลากหลาย ภายใต้ระบบรักษาความปลอดภัยที่ดี  โดยที่ผ่านมาแอสเซทไวส์ได้พัฒนาโครงการในรูปแบบแคมปัส คอนโด มาแล้ว 4 โครงการ ในบริเวณมหาวิทยาลัยกรุงเทพ และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต  ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากลูกค้าที่สนใจในศักยภาพและความโดดเด่นของโครงการฯ  และสามารถพิสูจน์ถึงความสำเร็จผ่านโครงการ KAVE CONDO ตรงข้ามมหาวิทยาลัยกรุงเทพ รังสิต ที่นักศึกษาเข้าพักอาศัยเต็ม 100% และมีความต้องการเพิ่มขึ้นตลอดเวลา      

นอกจากนี้ แอสเซทไวส์ยังขยายธุรกิจสู่การทำคอมมูนิตี้  มอลล์  โดยจะเปิดคอมมูนิตี้มอลล์แห่งแรกในปีนี้ ด้านหน้าของ KAVE TOWN มหาวิทยาลัยกรุงเทพ รังสิต เพื่อส่งเสริมการใช้ชีวิตของผู้พักอาศัยในโครงการ KAVE TOWN และชุมชนโดยรอบ ตลอดจนเป็น Mini Rest Area สำหรับนักเดินทาง  และจะต่อยอดพัฒนาโครงการในรูปแบบมิกซ์ยูส (Mix-Used) อย่างต่อเนื่อง  สำหรับในด้านการคมนาคมที่เส้นทางรถไฟฟ้าสร้างเสร็จและเปิดใช้งานมากขึ้นในปีนี้ ในขณะที่ที่ดินมีราคาทรงตัว ก็เป็นโอกาสที่ดีสำหรับการขยายตัวสู่ทำเลใหม่ๆ”

ทั้งนี้ แอสเซทไวส์ได้วางโรดแมปด้วย 4 กลยุทธ์หลัก ในการดำเนินการเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน ประกอบด้วย

  1. PRODUCT DIFFERENTIATION STRATEGY การกำหนด PRODUCT SEGMENTATION ให้เหมาะสมกับทำเลและไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมาย โดยผ่านแบรนด์คอนโดมิเนียมหลัก 3 แบรนด์ คือ MODIZ เป็นคอนโด High-rise ใกล้รถไฟฟ้าและถนนสายหลักที่ตอบสนองวิถีชีวิตคนเมือง, ATMOZ เป็นโครงการคอนโดในรูปแบบรีสอร์ต พร้อมพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่, KAVE เป็นแคมปัส คอนโด พร้อมพื้นที่ส่วนกลางสำหรับกิจกรรมหลากหลาย
  2. LIFESTYLE FULFILLMENT STRATEGY การพัฒนาพื้นที่ส่วนกลางอย่างสร้างสรรค์ ด้วยแนวคิดแปลกใหม่ในทุกโครงการ เช่น KAVE CLUB เป็นพื้นที่รองรับกิจกรรม E-Sports ร่วมกับ E-Library และ Co-Working Space ปัจจุบันเปิดให้บริการแล้วที่สำนักงานขาย โครงการ KAVE TOWN รังสิต ได้รับความนิยมจากนักศึกษาที่สนใจ E-Sports มาใช้บริการอย่างคับคั่งทุกวัน ถือเป็นครั้งแรกของวงการอสังหาริมทรัพย์ไทยในการสร้างสรรค์พื้นที่เพื่อรองรับกิจกรรม E - Sports โดยเฉพาะ
  3. FINANCIAL ASSISTANCE SERVICE อำนวยความสะดวกให้ลูกค้าที่ต้องการยื่นขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินต่างๆ ให้สามารถรับบริการออนไลน์ได้อย่างรวดเร็ว ผ่านแอพพลิเคชั่นฟินพลัส (Fin Plus)
  4. HAPPINESS SHARING STRATEGY ภายใต้แนวคิด “ปันความสุข” โดยผ่านการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางและกิจกรรมในคอนโดที่ส่งเสริมการมีปฏิสัมพันธ์กันของลูกบ้าน  ทั้งยังจัดกิจกรรมหลากหลายผ่าน  ASSETWISE CLUB  ทั้งด้านสุขภาพ ท่องเที่ยว เวิร์คช็อปให้ความรู้  และเชิญชวนลูกค้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการทำกิจกรรมเพื่อสังคม (CSR) ในแนวคิดของการปันความสุข โดยการแบ่งปันสิ่งของ แรง และเวลา เพื่อส่งต่อความสุขให้แก่สังคม   ซึ่งเป็นที่มาของการที่บริษัทฯ ได้รับรางวัลยอดเยี่ยม    “การประกวดสื่อส่งเสริมคุณธรรมในองค์กร” และรางวัลป๊อบปูล่าโหวต “สื่อส่งเสริมคุณธรรมในองค์กร” ในงาน MORAL BUSINESS FORUM 2020 จากสื่อที่นำเสนอโครงการจิตอาสาปันความสุข ครั้งที่ 3 ภายใต้แนวคิด “ของรักปันสุข”

ทั้งนี้ ในปี 2562 ที่ผ่านมา บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด ยังได้รับรางวัล Gold Award สำหรับ SMEs Excellence Awards 2019 จากพลเอกประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยสมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA: Thailand Management Association) คัดเลือกจากองค์กรที่มีความโดดเด่น เป็นเลิศในด้านการบริหารจัดการองค์กรโดยรวม และดำเนินธุรกิจอย่างโปร่งใส มีจริยธรรม และธรรมาภิบาลทางธุรกิจ  นอกจากนี้ แอสเซทไวส์ ยังคว้ารางวัล Top10 Developer จากเวทีใหญ่ระดับเอเชีย BCI ASIA AWARDS 2019”  ซึ่งเป็นผลงานการพัฒนาโครงการที่มีคุณภาพ และโดดเด่น จาก 3 โครงการเด่น ได้แก่ โครงการแอทโมซ ลาดพร้าว 71, โครงการแอทโมซ ลาดพร้าว 15, โครงการโมดิซ สุขุมวิท 50 โดยทั้ง 3 โครงการเป็นโครงการที่สะท้อนคุณภาพและการใส่ใจในรายละเอียด และยังคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อให้สามารถตอบรับกับทุกไลฟ์สไตล์ของลูกค้าอย่างมากที่สุด จนเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง

 “พร้อมๆ กับการพัฒนาในหลากหลายมิติ ในปีนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนที่จะเปิดตัวโครงการใหม่มูลค่ารวมกว่า 6,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นโครงการแนวราบ จำนวน 2 โครงการ และโครงการแนวสูง 2 โครงการ ในขณะที่ในปีนี้ บริษัทฯ จะมีโครงการที่ก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ จำนวน 3 โครงการ ได้แก่ โครงการแอทโมซ แจ้งวัฒนะ (Atmoz Changwattana), โครงการ แอทโมซ รัชดา ห้วยขวาง (Atmoz Ratchada Huaykwang) และโครงการ เคฟ ทาวน์ สเปซ (KAVE TOWN SPACE) อีกด้วย”

“จากผลการตอบรับที่ผ่านมาที่ดีอย่างต่อเนื่อง เราคาดว่าจะสามารถผลักดัน และมุ่งมั่นไต่ระดับความแข็งแกร่งขององค์กรในการเตรียมพร้อมเข้าตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งคาดว่าจะได้รับข่าวดีในเร็ว ๆ นี้” นายกรมเชษฐ์ กล่าวทิ้งท้าย

ติดตามรายละเอียดโครงการเพิ่มเติมได้ที่ www.assetwise.co.th