พฤติกรรมการอยู่อาศัยและการใช้ชีวิตของคนในยุคนี้ เปลี่ยนแปลงไปตามกระแสของโลกที่กำลังก้าวสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มตัว รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของประชากรโลกที่กำลังจะก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุแบบเต็มรูปแบบ ดังนั้นบ้านของคนยุคดิจิทัลจึงไม่ได้เป็นเพียงที่พักอาศัย แต่จะเป็นพื้นที่ในการใช้ชีวิต ที่สามารถมอบคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่สมาชิกทุกคน ซึ่งเทรนด์บ้านอีโค เทรนด์บ้านสำหรับทุกคนในครอบครัว และเทรนด์บ้านอัจฉริยะ เป็น 3 เทรนด์ของการดีไซน์บ้าน ที่กำลังได้รับความนิยม เพราะทั้งสวยโดนใจและตอบโจทย์เรื่องฟังก์ชันการใช้งานของสมาชิกทุกคนภายในบ้านได้เป็นอย่างดี

เทรนด์บ้านอีโค (Eco and Sustainable Living) คนทั่วโลกต่างให้ความสำคัญกับเทรนด์ด้านสิ่งแวดล้อม พร้อมนำแนวคิดนี้มาใช้ในการปรับบ้านให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม  ประหยัดพลังงาน และมอบคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับสมาชิกภายในบ้าน โดยเทรนด์นี้เจ้าของบ้านสามารถนำเทคโนโลยีต่างๆ มาเสริมให้บ้านมีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ได้แก่

  • บ้านพลังงานทางเลือก ติดตั้งระบบโซลาร์รูฟ เพื่อใช้พลังงานสะอาดแทนการใช้ไฟฟ้า 
  • บ้านประหยัดพลังงานและลดมลพิษในอากาศ ติดตั้งนวัตกรรมระบบถ่ายเทอากาศ Active AIRflow™ System ที่ช่วยสร้างกลไกการถ่ายเทอากาศ และระบายความร้อนออกจากตัวบ้าน และโถงใต้หลังคา ซึ่งสามารถลดอุณหภูมิภายในบ้านได้ 2-5 องศา และกว่า 10 องศา ในโถงหลังคา หรือติดตั้งระบบปรับปรุงคุณภาพอากาศภายในห้อง หรือ Well AIR  ช่วยลดปริมาณอากาศที่ไม่ดี และป้องกันมลภาวะต่างๆ ภายในห้อง หรือติดตั้งฉนวนกันความร้อน เพื่อช่วยสกัดกั้นความร้อนจากหลังคาเข้าสู่ตัวบ้าน และสะท้อนรังสีความร้อนได้ถึง 95%
  • บ้านสีเขียว เลือกใช้วัสดุก่อสร้างที่มีส่วนประกอบของวัสดุเหลือใช้ อาทิ กระเบื้องปูพื้น ที่มีส่วนประกอบเป็นเศษดิน และเศษเซรามิก หลังคาไฟเบอร์ซีเมนต์ที่ใช้วัสดุรีไซเคิลจากเศษเถ้าลอยและหินฝุ่นแทนวัสดุจากธรรมชาติ เป็นต้น ซึ่งวัสดุก่อสร้างเหล่านี้ไม่เพียงเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังคงมีมาตรฐานความปลอดภัยและเป็นมิตรกับผู้อยู่อาศัยด้วย

เทรนด์บ้านสำหรับทุกคนในครอบครัว (Universal Living) เป็นเทรนด์ที่ตอบแนวโน้มสังคมผู้สูงอายุ และการอยู่ร่วมกันของคนหลายเจนเนอเรชัน จึงเป็นบ้านที่มีดีไซน์ หรือการปรับพื้นที่ใช้สอยให้รองรับไลฟ์สไตล์ของคนหลากหลายวัย  เช่น

  • จัดสรรพื้นที่ส่วนตัวให้เหมาะกับสมาชิกภายในบ้าน โดยเฉพาะบ้านที่มีเด็กและผู้สูงอายุด้วยการปรับพื้นที่บ้านให้เหมาะกับลักษณะทางกายภาพ และสมรรถภาพของผู้สูงอายุ เช่น ปรับพื้นที่บ้านให้ราบเสมอกัน,  ติดตั้ง DoCare Protect อุปกรณ์ Smart Home เพื่อการดูแลผู้สูงอายุที่อยู่บ้านตามลำพัง, ติดตั้งลิฟท์บันได,
    ติดราวทรงตัวในห้องน้ำ เป็นต้น สำหรับบ้านที่มีเด็ก แนะนำให้สร้างสรรค์ห้องนอนให้เสริมจินตนาการ โดยใช้สีที่สดใส หรือตกแต่งด้วยวอลเปเปอร์ลวดลายที่ลูกๆ ชื่นชอบ ใช้สุขภัณฑ์ รุ่นที่ออกแบบมาสำหรับเด็ก เป็นต้น รวมถึงภายในบ้านควรปูพื้นด้วยไวนิลลดแรงกระแทก และใช้เฟอร์นิเจอร์แบบมุมมน เพื่อลดการชนกระแทก
  • สร้างพื้นที่ส่วนกลางเพื่อให้คนหลายเจนเนอเรชันอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข เช่น ใช้วัสดุตกแต่งผนังสำหรับดูดซับเสียงในห้องนั่งเล่น, ห้องโฮมเธียเตอร์ หรือห้องซ้อมดนตรีสำหรับลูกๆ เพื่อลดเสียงก้องภายในห้อง หรือตกแต่งภูมิทัศน์รอบบ้านสำหรับไว้พักผ่อนหย่อนใจ หรือจัดปาร์ตี้นอกบ้าน โดยสร้างพื้นที่นั่งเล่นกลางสวน ใช้บล็อกปูพื้นทางเดินในสวน รวมถึงปลูกต้นไม้ และดอกไม้เพิ่มความสดชื่น
  • ปรับพื้นที่การใช้งานให้คุ้มค่าหากบ้านมีพื้นที่จำกัด การใช้พื้นที่ใช้ได้หลากหลายฟังก์ชัน จึงตอบโจทย์  อาทิ ปรับห้องครัว และห้องทานอาหารให้ใช้งานร่วมกัน

เทรนด์บ้านอัจฉริยะ (Smart Living) ปัจจุบันเริ่มมีการนำนวัตกรรม และเทคโนโลยีมาใช้เพื่อเพิ่มฟังก์ชันให้กับบ้าน ให้การอยู่อาศัยภายในบ้านให้สะดวกสบาย และปลอดภัยยิ่งขึ้น ทั้งระบบสั่งการอัตโนมัติผ่าน
แอปพลิเคชัน ระบบสั่งการด้วยเสียง ระบบเปิดปิดไฟ และเครื่องใช้ไฟฟ้าอัตโนมัติ ระบบล็อคอัตโนมัติ กล้องตรวจจับ
ความเคลื่อนไหว หรือหุ่นยนต์ต้อนรับ เป็นต้น 

จะเห็นว่าทั้ง 3 เทรนด์ของบ้านในปี 2563 นี้ เป็นเทรนด์ที่กำลังได้รับความนิยมจากผู้พัฒนาโครงการอสังหาฯอย่างต่อเนื่อง สำหรับผู้ที่ต้องการปรับปรุงบ้านเดิม การนำไอเดียเหล่านี้ไปปรับใช้พัฒนาบ้านของคุณให้ทันสมัย และรองรับการใช้งานของทุกคนได้ก็จะคุ้มค่ากับการลงทุนซ่อมแซมอย่างแน่นอนค่ะ

ขอบคุณข้อมูลจาก SCG