นับตั้งแต่การลงทุนในยุค อีสเทิร์นซีบอร์ด” ที่เปลี่ยนโฉมจากสังคมเกษตรกรรมมาสู่อุตสาหกรรม มาถึงวันนี้แนวโน้มอุตสาหกรรมทั่วโลกได้เปลี่ยนทิศทางอีกครั้ง ด้วยการยกระดับการพัฒนาประเทศไปสู่ยุค “ไทยแลนด์ 4.0” จากการส่งเสริมการลงทุนใน10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย ที่มุ่งเน้นด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่ จึงเกิดเป็น “เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก” หรือ Eastern Economic Corridor (EEC) ในเขตพื้นที่ 3 จังหวัดภาคตะวันออก ได้แก่ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง พร้อมพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งถนน ประปา ไฟฟ้า โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา เพื่อรองรับการเติบโตของเมือง ซึ่งช่วยสร้างเม็ดเงินให้กับจังหวัดในกลุ่มนี้ และการเข้ามาของแรงงานคุณภาพมากขึ้น

           EEC จึงเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการขับเคลื่อนและสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจแบบก้าวกระโดด ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งในด้านภูมิเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์เชื่อมโลกในแต่ละภูมิภาคย่อย โดยในระยะแรกคาดว่าจะเกิดการลงทุนจากภาครัฐ และเอกชนไม่ต่ำกว่า 1.7 ล้านล้านบาท ภายใน 5 ปี เมื่อ EEC เริ่มก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างขึ้น โดยมีกฎหมายออกมารองรับชัดเจน คือ พ.ร.บ.เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ.2561 เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ

เส้นทางอนาคตใหม่ของประเทศ ผ่านโครงสร้างพื้นฐานใน EEC

        ปัจจุบันโครงสร้างระบบสาธารณูปโภคในพื้นที่ EEC กำลังขับเคลื่อนไปตามแผนพัฒนาโครงข่ายคมนาคม และโลจิสติก EEC จะเป็นพื้นฐานสำคัญที่ยกระดับเศรษฐกิจให้ประเทศเติบโตอย่างก้าวกระโดด อันได้แก่

  • การสร้าง-ปรับขยายเส้นทางถนนสายต่างๆ ที่มุ่งสู่ภาคตะวันออก ทั้งเส้นทางหลักและเส้นทางย่อยรวมกว่า 20 สาย ที่เชื่อมผ่านชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา โดยเฉพาะโครงการทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 (Motorway) สายกรุงเทพฯ-บ้านฉาง ช่วงพัทยา- มาบตาพุด ระยะทาง 32 กม.ซึ่งกำลังปรับปรุงให้เป็นตามมาตรฐานทางหลวงพิเศษ คาดว่าทั้งหมดเมื่อแล้วเสร็จจะช่วยให้การเดินทางสะดวก รวดเร็ว ลดความแออัด จากสภาพปัจจุบันไปสู่การเป็นพื้นที่ลงทุนเขตพัฒนาพิเศษ 

กรุงเทพฯ-บ้านฉาง ช่วงพัทยา- มาบตาพุด เปิดให้บริการตั้งแต่ปลายปี 2563

  • รถไฟรางคู่ เมื่อสร้างระบบรางคู่เสร็จ จะทำให้ถนนที่เคยวิ่งร่วมกับรถบรรทุกขนาดใหญ่ก็จะโล่งขึ้น ทำให้การเดินทางและปลอดภัย เพราะรถบรรทุกสินค้าและตู้คอนเทนเนอร์ขนาดใหญ่จะขนส่งผ่านระบบรางทั้งหมด
  • รถไฟความเร็วสูงเชื่อมต่อ 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) ระยะทางรวม 220 กม.ทั้งหมด 9 สถานี จะช่วยสร้างการขยายตัวทางเศรษฐกิจตามแนวเส้นทางที่เชื่อมต่อกับเมืองย่อยตามสถานีและเส้นทางที่รถไฟผ่าน ทำให้การเดินทางของประชาชนรวดเร็ว ประหยัด พัฒนาการเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว ที่จะกระจายเม็ดเงิน สร้างรายได้ให้เกษตรกรไปจนถึงภาคอุตสาหกรรมโดยรวม
  • รถไฟรางคู่เชื่อม 3 ท่าเรือ คือ ท่าเรือสัตหีบ ท่าเรือแหลมฉบัง และท่าเรือมาบตาพุด จะเป็นท่าเรือหลักในการขนส่งสินค้าของประเทศ ช่วยลดความแออัด ลดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้อย่างมีนัยสำคัญ พร้อมลดค่าใช้จ่ายด้านการขนส่งสินค้า โลจิสติกส์ เพราะระบบรางจะช่วยลดต้นทุนการเดินทางลงถึง 5-12 เท่า ผลักดันเศรษฐกิจตามเส้นทางระบบรางให้ขยายตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า 5 เท่า โดยคาดการณ์ว่าในปี 2580 ปริมาณสินค้ารวมใน EEC จะมีการขนส่งผ่าน 3 ท่าเรือ สูงถึง 14 ล้านตันต่อปี  
  • ท่าอากาศยานนานาชาติ อู่ตะเภา จะเป็นศูนย์กลางด้านการบินที่ทันสมัยที่สุดในภูมิภาค ทำให้ขับเคลื่อนไทยเป็นศูนย์กลางการบินที่โดดเด่นในการเชื่อมอาเซียนและโลก เข้าด้วยกัน ด้วยตำแหน่งที่ตั้งทางภูมิศาสตร์และศักยภาพการบริหารจัดการการเดินอากาศ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่จะยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันอย่างก้าวกระโดด โดยเฉพาะการท่องเที่ยว ซึ่งตามแบบมหานครการบินที่วางแผนไว้ เมื่อมีการเปิดบริการครบทั้งระบบจะขยายตัวรองรับการเดินทางของผู้คนได้ถึงกว่า 50 ล้านคน และมีศักยภาพที่จะเชื่อมต่อจากสนามบิน และมหานครการบินไปยังทุกที่บนภาคพื้นดินด้วยรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน และเชื่อมกับรถไฟความเร็วสูงที่สามารถเชื่อมต่อไปยังทุกภูมิภาคของไทยและอาเซียน
  • TG MRO Campus ศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานฯ จะเป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญในสนามบินอู่ตะเภา เป็นศูนย์กลางสำหรับซ่อมบำรุงอากาศยานฯ ที่ทันสมัยที่สุดในภูมิภาค
  • การพาณิชย์นาวี – การขนส่งทางเรือ กลุ่มโลจิสติกส์ซึ่งมีต้นทุนต่ำสุด จะช่วยให้การส่งออก – นำเข้าของทุกอุตสาหกรรมในไทยเติบโตอย่างรวดเร็ว จากการที่ไทยมีท่าเรือขนส่งที่สำคัญอย่าง มาบตาพุด ซึ่งกำลังพัฒนาอยู่ในระยะที่ 3 โดยคาดว่าในอีก 20 ปีข้างหน้า จะเพิ่มขีดความสามารถจัดการวัสดุเหลวและก๊าซธรรมชาติได้เพิ่มอีก 19 ล้านตันต่อปี  ส่วนแหลมฉบัง เป็นฐานหลักที่ขยายตัวรองรับการพัฒนาเขตพิเศษภาคตะวันออก ขณะเดียวกัน ท่าเรือขนส่งที่สำคัญอย่าง มาบตาพุด ซึ่งกำลังพัฒนาอยู่ในระยะที่ 3 ส่วนต่อขยายนี้จะรองรับคอนเทนเนอร์ได้ถึง 18 ล้าน TEU ต่อปีและ ท่าเรือพาณิชย์สัตหีบ เป็นท่าเรือที่รองรับการขยายตัวด้านการคมนาคมและการท่องเที่ยว รองรับเรือสำราญที่ทันสมัย รวมทั้งยังมีท่าเรือธรรมชาติอย่าง เกาะสีชัง อีกแห่งหนึ่งที่ EEC กำลังจัดระเบียบสร้างความเจริญเติบโตอย่างยั่งยืนให้เกิดขึ้นในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก

ระยอง อีกหนึ่งจุดยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจที่สำคัญใน EEC

        แน่นอนว่าการพัฒนาเขตเศรษฐกิจ EEC จะมีผลกับแรงงานที่ไหลจะเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรมใน 3 จังหวัดมากขึ้น โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ คาดการณ์ว่า ในปี 2570 จะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นเป็น 10 ล้านคน จากปี 2561 มีเพียง 2 ล้านคน ซึ่งถ้าดูจากตัวเลขแล้วจะพบว่าภาพรวมเศรษฐกิจโดยเฉพาะรายได้ต่อหัวต่อคนต่อปี ของประชากรในจังหวัดระยอง เพิ่มขึ้นจาก 986,153 ในปี 2558 ขยับขึ้นเป็น 1,141,398 ในปี 2561 ทำให้เห็นว่าระยองมีการพัฒนาทั้งด้านแรงงานและมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น สอดคล้องกับความต้องการที่อยู่อาศัยในเขตเศรษฐกิจ EEC ของแรงงานมีมากขึ้น

          ทั้งนี้ในเขตเศรษฐกิจ EEC แต่ละจังหวัดมีบทบาทสำคัญที่แตกต่างกัน  โดยฉะเชิงเทราเป็นเมืองที่อยู่อาศัยชั้นดีรองรับการขยายตัวของกรุงเทพฯ ส่วนพัทยาเป็นเมืองท่องเที่ยวเชิงธุรกิจ ศูนย์การให้บริการด้านการแพทย์ระดับนานาชาติ ซึ่งมีอู่ตะเภาเป็นศูนย์ธุรกิจการบิน และ โลจิสติกส์อาเซียน ส่วนระยองเป็นเมืองแห่งการศึกษาและวิทยาศาสตร์

          ดังนั้นวันนี้เราจะมาเจาะลึกที่ จ.ระยอง อีกหนึ่งจุดยุทธศาสตร์สำคัญทางเศรษฐกิจของประเทศ โดย จ.ระยอง ยังเป็นเป็นพื้นที่ที่มีการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมมากเป็นอันอับ 2 รองจากชลบุรี โดยมีพื้นที่ทั้งหมดคิดเป็น 42.64% หรือ ประมาณ 62,758 ไร่ จากพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่ EEC กว่า 147,000 ไร่ นอกจากนี้ยังมีพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมที่อยู่ระวางการพัฒนาอีกกว่า 11,000 ไร่ ในจังหวัดระยอง

ในช่วงที่ผ่านมา ความเคลื่อนไหวซื้อขายที่ดิน โดยเฉพาะในจุดที่เป็นเขตเศรษฐกิจ EEC ปรับตัวสูงขึ้นอย่าง ก้าวกระโดดจาก 5 ล้านบาทต่อไร่ เป็น 20 ล้านบาทต่อไร่ ในบริเวณทำเลทางหลวงหมายเลข 36 ซึ่งเป็นถนนสายรอง ส่วนถนนสายหลักติดถนนสุขุมวิทปัจจุบันราคาขายอยู่ที่ประมาณ ไร่ละ 40 ล้านบาท จากไร่ละประมาณ 15 ล้านบาทในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา

          ปัจจุบันพบว่าผู้พัฒนาอสังหาฯรายใหญ่จากกรุงเทพฯ ต่างให้ความสนใจ เขตเศรษฐกิจ EEC โดยเฉพาะการเข้ามาพัฒนาโครงการบ้านจัดสรรและคอนโดฯ 

โดย ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ คือ หนึ่งในผู้พัฒนาอสังหาฯ ที่ใช้กลยุทธ์ blue ocean หรือกลยุทธ์น่านน้ำสีคราม สร้างความต่างของสินค้าในเขตพื้นที่กำลังเกิดขึ้นใหม่และน่าสนใจ เข้ามาบุกตลาดอสังหาฯในเขตเศรษฐกิจ EEC ที่โครงการ Origin district sriracha มาแล้ว ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี มาในปีนี้จึงสานต่อ กลยุทธ์ blue ocean ด้วยการเตรียมบุกตลาดระยอง โดยเลือกทำเลศักยภาพสูงสุดใจกลางเมืองระยอง วางแผนพัฒนาอภิมหาโปรเจค Origin Smart City Rayong โครงการ Mixed – Use ขนาดใหญ่ด้วยการลงทุนกว่า 10,000 ล้านบาทใจกลางเมืองระยอง ซึ่งประกอบด้วย อาณาจักรมิกซ์ยูส (MIXED-USE) ‘’สมาร์ท ซิตี้’’ที่มอบบริการครบวงจร (One-Stop Services) โดย PLATFORM นี้จะประกอบด้วย คอนโดมิเนียม ที่สูงที่สุดในระยอง,คอมมูนิตี้ มอลล์, ซุปเปอร์มาร์เก็ตระดับพรีเมียม, LIFESTYLE HUB, Co- Working Space, โรงแรมในเครือ Intercontinental Hotel Group   และ Serviced Residence รองรับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่ทันสมัย

ทำความรู้จัก Origin Smart City Rayong แลนด์มาร์คใหม่ใจกลางระยอง เริ่ม 1.69 ลบ.

          นอกจากการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานแล้ว การทำงานของ EEC ใน 5 เรื่องจะถูกเร่งรัดมากขึ้น โดยเฉพาะลงทุนใน 10 กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย ซึ่งจะสร้างงานใหม่ รายได้ดี ไม่น้อยกว่า 4.5 แสนตำแหน่งให้กับเยาวชนไทย รวมถึงเพิ่มการลงทุนยกระดับความสามารถดูแลประเทศ ด้วยอุตสาหกรรมฯป้องกันประเทศและการศึกษา, ประสานการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล พัฒนาธุรกิจด้าน IOT และ start-up, สานต่อการค้าทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อยกระดับรายได้เกษตรกร เทคโนโลยี และการท่องเที่ยว

          พร้อมยกระดับพัฒนาเชิงพื้นที่ โดยเฉพาะผังการใช้ที่ดิน การศึกษา งานวิจัยและเทคโนโลยี สาธารณสุข สิ่งแวดล้อม ปัจจัยพื้นฐาน น้ำ พลังงาน การจัดวางแนวทางการพัฒนาพื้นที่พิเศษที่เป็นเขตเทคโนโลยีและเมืองอัจฉริยะ ด้วยการประสานงานให้ EECi และ EECd เป็นไปตามแผนงาน, วางแนวทางการพัฒนาเมืองอัจฉริยะที่แหลมฉบัง และเกาะสำคัญ (เกาะสีชัง เกาะช้าง เกาะเสม็ด) และสร้างระบบการกำกับดูแลการพัฒนาของมหานครการบินภาคตะวันออก

Origin Smart City Rayong (ออริจิ้น สมาร์ท ซิตี้ ระยอง) อีกหนึ่งโครงการเมกกะโปรเจค กว่า 25 ไร่ มูลค่าโครงการกว่าหมื่นล้านบาท ที่ ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ได้สร้าง ‘‘สมาร์ทแพลทฟอร์ม’’ เพื่อการอยู่อาศัยใช้ชีวิตสู่สังคมแห่งเทคโนโลยีในโลกอนาคต โดยออริจิ้น ได้สร้างเมืองใหม่ตอบสนองการพัฒนาของภาครัฐ โดย "ออริจิ้น สมาร์ท ซิตี้ ระยอง" เกิดขึ้นภายใต้คอนเซปท์ "BEYOND A LIVING PLATFORM" นำเทคโนโลยี และนวัตกรรมใหม่ๆ มาเป็นตัวช่วย โดยเมืองใหม่แห่งนี้ เป็น เมืองต้นแบบสังคมแห่งพลังงานทดแทน ‘‘ENERGY Management System’’  

ORIGIN SMART CITY พัฒนา 3 แกนสมาร์ท ด้วยเทคโนโลยีการใช้ชีวิต พลังงานสะอาด สังคมเมืองคุณภาพ สร้างแพลทฟอร์มอาณาจักรใหม่ยิ่งใหญ่ที่สุดใน “ระยอง” บุกเบิกทำเล EEC

       โดยภายในโครงการ Origin Smart City Rayong ได้ปรับให้เทคโนโลยีมีส่วนกับการใช้ชีวิต เชื่อมต่อระบบการสื่อสาร Internet Of thing (IOT) ทั้ง “Home Automation” ที่ให้คุณควบคุมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ภายในห้องพัก ด้วย Application และ “Intelligence Facilities” เทคโนโลยีในพื้นที่ส่วนกลางที่ทันสมัย ที่รองรับทุกไลฟ์สไตล์การชีวิตในยุคดิจิตอล  

SMART TECH

        ทรานฟอร์มชีวิต...สู่เทคโนโลยีเพื่อการอยู่อาศัยยุคอนาคต  ด้วยการนำนวัตกรรมใหม่ๆ มาพัฒนาเพื่อยกระดับการใช้ชีวิต และเชื่อมต่อระบบการสื่อสารไร้สายบนเครือข่าย Internet เรียกว่า Internet Of thing  (IOT) เพื่อตอบสนองการใช้ชีวิตยุคอนาคต ไม่ว่าจะเป็น Home Automation” ที่ให้คุณควบคุมอุปกรณ์อีเล็กทรอนิกส์ภายในห้องพัก ด้วย Application และ “Intelligence Facilities” เทคโนโลยีในพื้นที่ส่วนกลางที่ทันสมัย ที่รองรับทุกไลฟ์สไตล์การชีวิตในยุคดิจิตอล  

Home Automation” ความสะดวกสบาย ที่สั่งได้เพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส ด้วย 4 เทคโนโลยี

  • Digital Door lock  "สมาร์ท’’ ด้วยการควบคุมการล็อกประตู ผ่าน application
  • Motion Sensor Nightlight  "สมาร์ท" ด้วยระบบเซนต์เซอร์เปิด- ปิดไฟอัตโนมัติ ช่วยให้พื้นที่ที่มีแสงน้อย ปลอดภัย เพิ่มความสะดวกสบาย เพียงเดินผ่านจุดเซ็นเซอร์ ระบบไฟฟ้าจะทำงานทันที
  • Lighting Control  "สมาร์ท” ด้วยระบบเปิด-ปิดไฟ ห้องนั่งเล่น ห้องครัว และห้องน้ำ ผ่านสมาร์ทโฟนในมือคุณ
  • Air Control  "สมาร์ท”ด้วยระบบการควบคุมและปรับอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศผ่าน Application

Intelligence Facility พื้นที่ส่วนกลางสุดอัจฉริยะ เพิ่อการใช้ชีวิตอย่างชาญฉลาด ใน "สมาร์ทแพลทฟอร์ม" การอยู่อาศัย 

  • Smart Security ทำให้การอยู่อาศัยปลอดภัยอย่างสูงสุด ด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำ ได้แก่
    • VDO Door Phone   ระบบรักษาความปลอดภัยอีกขั้น ที่มอบความอุ่นใจ และปลอดภัยให้แก่ผู้อยู่อาศัย เพราะสามารถเห็นหน้าผู้มาติดต่อ และสนทนาตอบโต้ได้ โดยติดตั้งไว้บริเวณ Lobby
    • Auto Barrier Gate ระบบไม้กั้นอัตโนมัติ พร้อมระบบ Key card เข้า ออกโครงการ
    • Plate Recognition ระบบตรวจจับทะเบียนรถยนต์อิเลคโทรนิคส์ เพื่อความปลอดภัย สำหรับผู้เข้า ออกโครงการ
    • CCTV ระบบกล้องวงจรปิดทั่วทั้งโครงการ
  • VR Fitness เทคโนโลยีเสมือนจริง ช่วยให้การออกกำลังกายไม่น่าเบื่ออีกต่อไปด้วย Virtual Reality เทคโนโลยีสร้างโลกเสมือนจริงอันทันสมัย ช่วยให้ผู้เล่นเสมือนได้ไปออกกำลังกายที่ใดๆก็ได้บนโลกนี้
  • Smart Locker ระบบล็อกเกอร์อัจฉริยะ รับฝากของ พร้อมใช้งาน 24 ชม. ปลอดภัยผ่าน application ในมือถือ
  • Wifi common Area พร้อมให้คุณเชื่อมต่ออินเตอร์เนท อย่างไร้ขีดจำกัด ในพื้นที่ส่วนกลาง
  • Smart Screen  กระจกอัจฉริยะติตดั้งในพื้นที่ส่วนกลาง พร้อม Scene Setting Report สามารถรายงานข้อมูลต่างๆ ให้คุณเตรียมพร้อมทุกสถานการณ์ Google Map Report   รายงานสภาพการจราจร Screen Frash Air PM 2.5: รายงานค่าฝุ่น PM 2.5 Weather & Temperature forecast : รายงานอุณหภูมิ และสภาพอากาศ Paperless Society Announcement  :  ป้ายประกาศอิเลคโทรนิคส์  ลดการใช้กระดาษ ลดโลกร้อน
  • Wireless Charging อุปกรณ์ชาร์ตแบตสมาร์ทโฟนไร้สาย ในบริเวณพื้นที่ส่วนกลาง

Smart Application : Origin Connect  แอพพลิเคชั่นสุดสมาร์ท สำหรับลูกบ้าน Origin ที่สามารถเป็นได้ทั้งตรวจสอบสิทธิพิเศษต่างๆ  รับพัสดุ แจ้งซ่อมนิติบุคคล ชำระค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าส่วนกลาง

SMART ECO

            เมืองต้นแบบสังคมแห่งพลังงานทดแทน ‘‘ENERGY Management System’’ ต้นแบบแนวคิดการบริหารจัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีต่อผู้อยู่อาศัย และเกิดประโยชน์สูงสุดจากการใช้พลังงานอย่างคุ้มค่า

แพลทฟอร์มนี้ พัฒนาและบริหารจัดการด้านพลังงานไฟฟ้าด้วยเทคโนลียีทันสมัย อย่างมีประสิทธิภาพ  สังคมแห่งพลังงานทดแทน จะเกิดขึ้นที่นี่ สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่

  • Solar Cell พลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ เป็นพลังงานสะอาด ที่ใช้แล้วไม่มีวันหมด ในพื้นที่ส่วนกลางของ Origin Smart City Rayong นี้ สามารถผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อประหยัดค่าไฟฟ้าส่วนกลาง ลดโลกร้อน
  • Smart Shelter  สเตชั่นอัจฉริยะ ผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ ผ่าน  Solar Cell ติดตั้ง Smart Screen  จออัจฉริยะ ที่สามารถเช็คสภาพจราจร เช็คอุณหภูมิ และสภาพอากาศ  เช็คค่าฝุ่น PM 2.5  พร้อมจุด “Wireless Charger’’ สำหรับ Smart Phone พร้อม Bike Sharing จุดจอดจักรยาน

  • EV Charger  สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ทำหน้าที่เป็นตัวชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์ ภายในพื้นที่ “สมาร์ท ดิสทริค”

  • Smart LAMP Censor ระบบเปิด ปิดไฟส่วนกลางอัตโนมัติ ผ่านระบบเซ็นเซอร์ ช่วยให้ประหยัดไฟฟ้า และค่าใช้จ่ายส่วนกลาง

SMART COMMUNITY

แลนด์มาร์คแห่งใหม่ ไลฟ์สไตล์ฮับ สุด ‘‘สมาร์ท’’   

       อาณาจักรมิกซ์ยูส (MIXED-USE)  "สมาร์ท ซิตี้’’ที่มอบบริการครบวงจร (One-Stop Services)  โดย PLATFORM นี้จะประกอบด้วย คอนโดมิเนียม ที่สูงที่สุดในระยอง,คอมมูนิตี้ มอลล์, ซุปเปอร์มาร์เก็ตระดับพรีเมียม, LIFESTYLE HUB , Co- Working Space , โรงแรมในเครือ Intercontinental Hotel Group และ Serviced Residence รองรับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่ทันสมัย

           Cashless Society อีกแพลตฟอร์มเพื่อยกระดับการอยู่อาศัย เป็นอีกหนึ่งทางเลือกแทนการใช้เงินสด จ่ายเงินในระบบ Payment รูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น E-Payment หรือ QR Code Payment สะดวกสบายมากกว่าที่เคย ได้แก่ Vending Machine เครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ  พร้อมให้บริการอาหารและเครื่องดื่มตลอด 24 ชม. Washing Machine  เครื่องบริการซักผ้า ให้บริการตลอด 24 ชม.

ปัจจุบัน Origin Smart City Rayong  ที่ล้ำสมัยที่สุดในภาคตะวันออก ในวันนี้มีโครงการที่เสร็จพร้อมอยู่แล้วได้แก่  Kensington Rayong  โครงการ Premium Low Rise ที่ต้องบอกว่าคุ้มค่าที่สุดในราคาเริ่มต้นเพียง 1.69 ล้านบาท เท่านั้น เรียกว่าเป็นน้องเล็กที่ราคาจับต้องได้ และไม่น่าพลาดเลยทีเดียว 

.

ไม่เพียงแค่นั้นที่นี่ยังมีโครงการ Luxury High Rise ซึ่งเรียกว่าเป็นอาคารที่สูงที่สุดในจังหวัดระยอง อย่าง Notting hill  ที่กำลังก่อสร้าง  ใกล้แล้วเสร็จปลายปีนี้ และ The Hampton suite  Serviced Residences ระดับ Super Luxury   ที่มีราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร 1แสนบาทเท่านั้น พร้อมเงื่อนไขการลงทุนที่มอบผลตอบแทนสุดเร้าใจ 5-9% นาน10ปี ก็เตรียมเปิดให้จับจองเป็นเจ้าของได้ในเร็วๆนี้  เรียกว่าที่นี่คือเมืองของการพักอาศัยที่ครบและทันสมัยที่สุดในจังหวัดระยองอย่างแท้จริง

Kensington Rayong  Premium Low Rise  สุดทันสมัยที่ให้มากกว่าใครเพียบพร้อมไปด้วย Facility ที่ทันสมัย รองรับไลฟ์สไตล์ของ Work Life Balance   อาทิ Co-working space ,  สระว่ายน้ำขนาด Half Olympic  , Fitness พร้อมอุปกรณ์สุดเท่ห์ , Rooftop garden พร้อม BBQ Party zone และ Smart Locker  ที่ช่วยให้คุณรับเอกสารหรือพัสดุได้ตลอดเวลา พร้อมเทคโนโลยีที่ช่วยให้การพักอาศัยที่นี่ สะดวกสบาย และล้ำสมัยกว่าใครๆในจังหวัดระยอง  ในราคาที่ใครๆก็เป็นเจ้าของได้และพร้อมให้เข้าอยู่ได้แล้ววันนี้ พร้อมโปรโมชั่นดีๆอยู่ฟรี 24 เดือน

Nasket Smart Display นวัตกรรมจออัจฉริยะ ที่ช่วยให้เราได้ Shopping จาก Big-C ที่สั่งเช้า-ส่งเย็นให้ได้ทันที่ แถมยังรับสินค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมงผ่านตู้ Smart Locker เมื่อมีสินค้ามาถึงก็ส่ง SMS แจ้งให้อีกด้วย แต่ความสามารถยังไม่หมด จออัจฉริยะนี้ยังมีความสามารถอีกมากมายทั้งจ่ายบิล หรือเชื่อมต่อ VDO Door phone ก็ยังทำได้อีกด้วย เรียกว่าที่นี่มีให้เป็นที่แรกในจังหวัดระยองเลย

สเป็ควัสดุที่อัพเกรดเพิ่มเติมเทคโนโลยีการอยู่อาศัย ช่วยให้ยกระดับของการอยู่อาศัยในรูปแบบเดิมๆ พร้อมการออกแบบ Functionการใช้พื้นที่และงานดีไซน์เฟอร์นิเจอร์บิ้วอินที่ออกแบบมาให้อย่างลงตัว

จะไปไหนภายใน Origin Smart City Rayong นี้ก็แสนสะดวก เพราะเค้ามี E-Scooter ให้ใช้งานฟรีๆ เรียกว่าในอนาคตที่จะมี Community Mall ก็ไม่ต้องเดินหรือขับรถมา ขอยืมใช้ E-Scooter ขับมาหล่อๆได้เลย พลังงานสะอาด ปราศจากมลพิษ ชีวิตแฮปปี้


เป็นเจ้าของโครงการ Kensington Rayong  โครงการ Premium Low Rise ที่ต้องบอกว่าคุ้มค่าที่สุดในราคาเริ่มต้นเพียง 1.69 ล้านบาท เท่านั้น คลิกเลย… https://bit.ly/3B3rFXH