ดุสิตธานี กรุงเทพฯ ในปี 2023
 
             บนถนนพระราม 4 ย่าน CBD ใจกลางกรุงเทพ กลายเป็นหนึ่งทำเลร้องแรงที่สุด เหล่าผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ พากันพัฒนาที่ดินขึ้นโครงการ Mixed-use ทยอยเปิดให้บริการ ในอีกไม่กี่ปีหลังจากนี้  และ หนึ่งโครงการบริเวณหัวมุมถนนสีลมและพระราม 4 ซึ่งเป็นที่ตั้ง ดุสิตธานี กรุงเทพฯ กำลังจะกลายเป็น หนึ่ง New Iconic ของกรุงเทพมหานครในรูปแบบ Mixed-use เช่นกัน 
 
            TerraBKK  เจาะลึกข้อมูลของ บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) ตัวเลขทางการเงิน อาจชี้ให้เห็นถึงสถานการณ์ธุรกิจ และกลายเป็นหนึ่งเหตุผลที่ทำให้เกิดการปรับตัวครั้งใหญ่ ประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของ บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) จะเป็นอย่างไร ? ติดตามกันได้ ดังนี้
 
 
 
 
โรงแรมรายได้สูงสุด ดุสิตธานี กรุงเทพฯ กำลังทำ ยอดตกต่อเนื่อง
 
            ตลอด 3 ปีที่ผ่าน การดำเนินนงานของ บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) ยังคงขยับขึ้นลงเล็กน้อยในกรอบบวกลบ 100 ล้านบาทจากปีก่อนหน้า 
 
• ปี 2559 รายได้รวม 5,425.13   ล้านบาท
• ปี 2560 รายได้รวม 5,569.66 ล้านบาท
• ปี 2561 รายได้รวม 5,564.76 ล้านบาท
 
            สัดส่วน 80% ขึ้นไป ของรายได้รวมมาจาก “รายได้จากธุรกิจโรงแรม”  ซึ่ง “ดุสิตธานี กรุงเทพฯ” คือโรงแรมที่สร้างรายได้สูงสุดในการดำเนินธุรกิจโรงแรมที่อยู่ภายใต้กลุ่มดุสิตธานี แต่กลับมีตัวเลขรายได้ที่ลดลงอย่างน่าใจหาย
 
• ปี 2559 รายได้รวม 915.12 ล้านบาท
• ปี 2560 รายได้รวม 902.14 ล้านบาท
• ปี 2561 รายได้รวม 839.84 ล้านบาท
 
 
            และหนึ่งโรงแรมที่ติดอันดับ TOP 3 อย่าง “ดุสิตธานี มัลดีฟส์” กำลังทำรายได้ขึ้นมาแทนที ล่าสุดปี 2561 ด้วยตัวเงิน 840.07 ล้านบาท  ที่สำคัญยังครองสัดส่วน 19.21% เช่นเดียวกับ “ดุสิตธานี กรุงเทพฯ” อีกด้วย
 
             นี้เองอาจเป็นหนึ่งสาเหตุที่จะอยู่เฉยไม่ได้อีกต่อไป บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) ตัดสินใจ ต่อสัญญาเช่าที่ดินบริเวณหัวมุมถนนสีลมและพระราม 4 ไปอีก 30 ปี ซึ่งก็คือที่ตั้งของ ดุสิตธานี กรุงเทพฯ  ด้วยความตั้งใจของผู้บริหารของบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) จะทำให้สถานทีแห่งนี้กลายเป็น “สัญลักษณ์ของกรุงเทพฯ” อีกครั้ง เหมือนเมื่อ 48 ปีก่อนที่เคยเป็นมา
 
 
 
 
ผนึกกำลัง 2 BIG BRAND สร้าง Dusit Central Park ใจกลาง CBD กรุงเทพฯ
 
            “Dusit Central Park” (ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค) โครงการ Mixed-use ที่กำลังจะเป็น The new iconic landmark of Silom-Rama 4 ด้วยงบลงทุนกว่า 36,700 ล้านบาท จากการจับมือของ 2 BIG BRAND ในวงการอสังหาริมทรัพย์  บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) เพื่อรองรับกิจกรรมของคนทุกวัยทุกชาติ แบ่งออกเป็น 4 องค์ประกอบหลัก ได้แก่
 
Dusit Thani Bangkok Hotel ขนาดพื้นที่ 42,000 ตารางเมตร เป็นอาคารสูง 39 ชั้น ห้องพักราว 250 ห้อง ระดับโรงแรม 5 ดาว พร้อมระบบบริการตามยุคสมัย Digital Technology Services คาดว่าจะเปิดให้บริการต้นปี 2023
 
 
 
 
 
World’s Class Retail Shopping Center  ขนาดพื้นที่ 78,000 ตารางเมตร อาคารสูง 8 ชั้น ที่จะกลายเป็นแหล่ง Urban Lifestyle Shopping Mall พร้อมไอคอนิคแบรนด์ชั้นนำระดับโลก  และแหล่งรวมอาหารรอบโลก คาดว่าจะเปิดบริการปลายปี 2023
 
 
Grade A Office Building ขนาดพื้นที่ 90,000 ตารางเมตร อาคารสูง 43 ชั้น อาคารสำนักงานที่ดีที่สุดด้วยมาตรฐาน LEED Certified ในพื้นที่ CBD กรุงเทพ คาดว่าจะเปิดบริการต้นปี 2024
 
 
Luxury Residence  ขนาดพื้นที่ 82,000 ตารางเมตร อาคารสูง 69 ชั้น ด้วย 2 High-End Brands อย่าง Dusit Parkside  รูปแบบ Contemporary Style จำนวน 230 ยูนิต บนพื้นที่ตั้งแต่ชั้น 9 – 29 และ Dusit Residences รูปแบบ Elegant Style จำนวน 159 ยูนิต บนพื้นที่ตั้งแต่ชั้น 30 – 69  คาดว่าจะเปิดบริการกลางปี 2024
 
           นอกจากนี้ ยังมีส่วนของ Sky Roof Park ขนาดพื้นที่ 3 ไร่ ชั้นบนสุดของ Retail Podium เปิดพื้นที่รองรับกิจกรรมและการจัดงานต่าง ๆ ของคนกรุงเทพ อีกด้วย
 
 
กลยุทธ์ 9 ปี สู่ Unlock Value ของ บมจ. ดุสิตธานี
 
             เส้นทางเดินใหม่ที่ บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) วางไว้เริ่มต้นปี 2016 ยาวไปจน 2025 สู่เป้าหมาย Unlock Value Creation รับรู้รายได้เพิ่มขึ้นทั้งในส่วนของโรงแรม อาคารที่พักอาศัย และพื้นที่ค้าปลีก ด้วย กลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ 3 แนวทางหลัก ได้แก่
 
Balance : การสร้างความสมดุลของรายได้ อาทิ สร้างสมดุลระหว่างการลงทุนสร้างโรงแรมเองกับรับจ้างบริหาร, เพิ่มสัดส่วนธุรกิจในต่างประเทศเป็น 50% เป็นต้น
Diversify : เพิ่มความหลากหลายธุรกิจเพื่อกระจายความเสี่ยง อาทิ วางเป้ารายได้ในการลงทุนธุรกิจอื่น ๆ ร้อยละ 10 ของรายได้รวม เป็นต้น
Expand : การขยายการเติบโตธุรกิจ  โดยการขยายห้องพักเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวเป็น 14,000 ห้องภายในปี 2564
 
 
 
             ไม่แปลกใจ หากสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในช่วงปี 2016-2018 ที่ผ่าน ซึ่งเป็นช่วงเวลาของการสร้างรากฐานของบริษัทให้แข็งแกร่ง  และ ปี 2019 นี้จะเป็นช่วงเวลาที่จะก้าวสู่ ขั้นที่ 2 การรับรู้ศักยภาพในการเติบโต นับจากนี้คงได้เห็นการเริ่มก่อสร้างโครงการอสังหาริมทรัพย์ต่าง ๆ  การทยอยรับรู้รายได้จากการขายยูนิต และการขยายจำนวนห้องพักโรงแรมเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวจากการขยายธุรกิจโรงแรม (รับจ้างบริหารทั้งในและต่างประเทศ)  รวมทั้ง การชูด้านการบูรณาการธุรกิจโรงแรมและธุรกิจการศึกษา แล้วเมื่อถึงปี 2023 เตรียมพบกับ “Dusit Central Park” (ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค) โครงการ Mixed-use งบลงทุนกว่า 36,700 ล้านบาท  ว่าจะเป็น The new iconic landmark of Silom-Rama 4 หรือ“สัญลักษณ์ของกรุงเทพฯ” อีกครั้ง เหมือนเมื่อ 48 ปีก่อนที่เคยเป็นมาได้อย่างที่ตั้งใจหรือไม่  ---TerraBKK
 
บทความโดย : TerraBKK คลังความรู้
TerraBkk ค้นหาบ้านดี คุ้มค่า ราคาถูก