สรท. ชี้สงครามการค้าจีน-สหรัฐ กระทบส่งออกไทยปี 61 โตได้ 7% คาดปี 62 ส่งออกโต 5%

นางสาวกัณญภัค ตันติพิพัฒนพงศ์ ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) กล่าวว่า ทิศทางการส่งออกในปี 2561 คาดว่าจะขยายตัวได้ราว 7% ต่ำกว่าเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้ที่ 9% เนื่องจากการส่งออกได้รับผลกระทบจากภาวะสงครามการค้า จีน-สหรัฐ ที่ยังยืดเยื้อ ส่งผลให้อุตสาหกรรมชะลอตัว โดยเฉพาะสินค้าในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ และยานยนต์ ที่ตัวเลขส่งออกในเดือนพฤศจิกายนยังคงติดลบ และคาดว่าทั้งปีจะเติบโตเพียง 2-5%  

 

ส่วนปี 2562  คาดการณ์ ส่งออกโต 5 % บนสมมติฐานค่าเงินบาทอยู่ที่ 33.0 (± 0.5) บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ โดยมีปัจจัยบวกสำคัญ คือ โอกาสของไทยในการเป็นประธาน ASEAN ทำให้ไทยสามารถสร้างความเชื่อมั่น สร้างความเป็นอัตลักษณ์ Uniqueness ให้กับสินค้าไทยรวมถึงการผลักดันประเด็นทางด้านการเพิ่มความสะดวกทางการค้า และการลดการกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษีทั้ง NTB และ NTM

และต้องระวังความเสี่ยงที่เป็นอุปสรรค โดยเฉพาะสงครามการค้าระหว่างจีน –สหรัฐ ที่ยืดเยื้อ ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นต่อการลงทุน ขณะที่จีนประกาศนโยบายเริ่มลดภาษีสินค้านำเข้า-ส่งออกกว่า 700 รายการ ในวันที่ 1 ม.ค. 62 เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับการนำเข้าสินค้าอื่นทดแทนสินค้าที่ต้องนำเข้าจากสหรัฐฯ และเป็นการอัดฉีดสภาพคล่องครั้งใหญ่ ซึ่งสินค้าไทยอาจถูกแย่งส่วนแบ่งตลาดในจีน และความผันผวนของราคาน้ำมันและค่าเงินบาทที่ส่งผลกระทบต่อการจัดการความเสี่ยงต่อกลุ่มพลังงาน

 

 

ซึ่ง สรท. เสนอให้ภาครัฐ ควรใช้รูปแบบของการส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ โดยการทำกิจกรรม Trade Mission เพิ่มมากขึ้นเพื่อเป็นการขยายฐานตลาดใหม่ พร้อมลดอุปสรรคการค้าระหว่างประเทศในรูปแบบ NTB และ NTM อำนวยความสะดวกทางการค้า (Trade Facilitation) ให้มากขึ้น ผลักดันและเร่งเจรจาการค้าระหว่างประเทศ (FTA) สร้างความเชื่อมั่นของนักลงทุนและผู้ส่งออกไทย

 

สำหรับภาพรวมการส่งออกเดือนพฤศจิกายน 2561 มีมูลค่า 21,237 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หดตัว -0.95% การส่งออกในรูปเงินบาทเท่ากับ 688,192 ล้านบาท หดตัว -2.4% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อน (YoY)

ขณะที่ การนำเข้าในเดือนพฤศจิกายน 2561 มีมูลค่า 22,415 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขยายตัว 14.7% และการนำเข้าในรูปของเงินบาทมีมูลค่า 735,898 ล้านบาท ขยายตัว 13.1% ส่งผลให้ เดือนพฤศจิกายน 2561 ประเทศไทยขาดดุลการค้า 1,178 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 47,706 ล้านบาท

ส่งผลให้ช่วงเดือนม.ค.- พ.ย. ปี 2561 ไทยส่งออกรวมมูลค่า 232,725 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขยายตัว 7.3% คิดเป็นมูลค่าการส่งออกในรูปเงินบาทที่ 7,447,769 ล้านบาท ขยายตัว 1.1% ในขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า 231,344 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขยายตัว 14.8% หรือคิดเป็นมูลค่า 7,504,905 ล้านบาท ขยายตัว 8.3% ส่งผลให้ช่วงเดือนม.ค.-พ.ย. 2561 ประเทศไทยเกินดุลการค้า 1,381 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และขาดดุล 57,137 ล้านบาท

ทั้งนี้ การส่งออก กลุ่มสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร หดตัวที่ -8.4% โดย เครื่องดื่ม, ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง, ทูน่ากระป๋อง และ ไก่สด แช่แข็งและแปรรูป ยังคงมีการเติบโตในตลาด แต่ยางพารามีการหดตัวทั้งทางด้านราคาและปริมาณอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่ กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม หดตัวที่ -0.4% โดยน้ำมัน, ทองคำ, ผลิตภัณฑ์ยาง, เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ ยังคงขยายตัว และกลุ่มสินค้าที่มีการหดตัว ได้แก่ รถยนต์และส่วนประกอบ, เครื่องคอมพิวเตอร์ อุกปกรณ์และส่วนประกอบ, อุปกรณ์กึ่งตัวนำ ทรานซิสเตอร์ และไดโอด และเครื่องโทรสาร โทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ