ช่วงโค้งสุดท้ายของปีเก่า นอกจากหลายคนจะถือโอกาสนี้ทบทวนตัวเอง ยังฉวยช่วยเวลานี้สานต่อกิจวัตรประจำปีด้วยการตั้ง “ปณิธานปีใหม่” (New Year's resolutions) ซึ่งส่วนใหญ่ก็หนีไม่พ้นหัวข้อเดิมๆ อย่างลดน้ำหนัก ออกกำลังกายมากขึ้น หรือใช้ชีวิตอย่างบาลานซ์ ทว่าจุดจบที่แสนเจ็บช้ำของปณิธานปีใหม่หากมักจืดจางเลือนหายไปตามกาลเวลา ก็ท้อซะก่อน

 

 

         เพราะอะไรนะเหรอ? เหตุผลสำคัญ คือ ปณิธานที่คุณตั้งนั้นถ้าไม่ครอบจักรวาลเกินไป ก็ใจไม่แข็งพอที่จะทำให้เป็นจริง เอาเป็นว่า ปีใหม่นี้ใครที่อยากลบภาพคนขี้แพ้ที่พ่ายให้กับปณิธานปีใหม่ที่ตัวเอง ตั้งเอง ช้ำเอง มาปีแล้วปีเล่า ลองปรับกลยุทธ์ใหม่ ด้วยการตั้งเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจง และอาศัยหลักวิทยาศาสตร์เข้ามาช่วยเพิ่มโอกาสที่จะพาให้คุณประสบความสำเร็จมากขึ้นดู ถ้าพร้อมแล้วไปกันเลย….

 

 

         1.ปรับนิสัยการนอน

 

         นอกจากจะมีงานวิจัยพิสูจน์แล้วว่าไม่เพียงดีต่อกายและใจ แต่ยังช่วยไม่ให้คุณเผลอตามใจปาก แถมในระยะยาว ยังช่วยเพิ่มโปรตีนในสมองป้องกันโรคอัลไซเมอร์ และสมองเสื่อมอีกด้วย

 

         คำถามคือ จะฝึกนิสัยการนอนที่ดีอย่างไรให้ได้อย่างน้อยเฉลี่ยวันละ 8 ชั่วโมง เริ่มต้นง่ายๆ ด้วยการเข้านอนเป็นเวลาทุกวัน ควบคู่ไปการปรับสภาพแวดล้อมในการนอน หลีกเลี่ยงการจ้องหน้าจอก่อนเข้านอนประมาณ 30 นาที  

 

 

         2.อยากออกกำลังกายมากขึ้น

 

         เทคนิคง่ายๆ ที่ช่วยให้คุณหลงรักการออกกำลังกายจนบอกเลิกไม่ลง คือ ฝึกการไปยิมให้เป็นนิสัย ซึ่งบรรดาผู้เชี่ยวชาญต่างเห็นพ้องว่า ช่วงเวลาตอนเช้า เป็นเวลาทองสำหรับการออกกำลังกาย เพราะนอกจากจะทำให้คุณกระปรี้กระเปร่าไปทั้งวัน แถมหลับสบาย ยังช่วยลดน้ำหนักได้เป็นอย่างดี และหากคาร์ดิโอเพียงอย่างเดียวยังสร้างแรงจูงใจให้คุณไม่พอ อาจลองเพิ่มรสชาติให้การออกกำลังกายด้วยการกำหนดเป้าหมาย ทำให้เป็นการแข่งขัน หรือ ลองสร้างคอมมูนิตี้กับเพื่อนที่เป็นคอเดียวกัน

 

         กุญแจสำคัญอีกข้อ คือ อย่าฝืนตัวเอง หรือบังคับตัวเองในสิ่งที่ไม่ชอบ จำไว้ว่าไม่มีสูตรสำเร็จใดที่ออกแบบมาเพื่อทุกคน คุณต้องมองหาสิ่งที่ใช่ และตอบโจทย์ให้คุณได้ดีที่สุด

 

 

         3.เลิกตามใจปาก ทวงคืนหุ่นลีน ฝันนี้ไม่เกินจริง

 

        อีกหนึ่งความปรารถนายอดฮิตของสาวๆ ทุกคน คือ ไดเอ็ท เลิกพฤติกรรมตามใจปาก แต่ส่วนใหญ่มักล้มเหลวไม่เป็นท่า เพราะแก้ไม่ถูกจุด ไปมุ่งลดปริมาณอาหาร แทนที่จะเลือกกำจัดจุดอ่อนด้วยการลดปริมาณวายร้ายอย่างน้ำตาล

 

        มีผลงานวิจัยหลายชิ้นยืนยันว่าไม่เพียงเป็นต้นเหตุของความอ้วน แต่ยังเป็นตัวการให้เกิดโรคร้าย ปัญหาสุขภาพมากมาย เพราะฉะนั้น หากคุณมีไอเดียว่าจะลดน้ำหนัก สิ่งแรกที่ต้องกำจัดคือ ลดปริมาณการบริโภคน้ำตาล ควบคู่ไปกับอาหารที่มีโซเดียมสูง อย่าง เนื้อเด้ง อาหารแปรรูป หันมากินอาหารธัญพืชเต็มเมล็ด (โฮลเกรน) โปรตีนปราศจากไขมัน (Lean Proteins) คืออาวุธสำคัญที่จะช่วยต่อกรกับน้ำหนักส่วนเกินของคุณ เพราะว่ามันจะบรรเทาอาการหิวโดยของคุณโดยปราศจากแคลอรี่ที่ไม่จำเป็น และช่วยเร่งกระบวนการย่อยสลายของร่างกาย หรือ ถ้าจะให้ง่ายๆ กว่านั้น ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าให้ตั้งกฎกับตัวเองว่าจะกินอาหารที่ไม่มีส่วนผสมที่ผ่านการแปรรูปอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง

 

          อีกวายร้ายที่ต้องระวังให้ได้คือ โซดา หรือ เครื่องดื่มที่มีน้ำตาลอื่นๆ ซึ่งจากผลการวิจัยพบว่า หลายคนตกม้าตาย เพราะติดน้ำหวานหรือเครื่องดื่มที่มีโซดา ซึ่งไม่ดีต่อสุขภาพด้วยประการทั้งปวง

 

 

         4.ทำงานน้อยลง ใช้ชีวิตบาลานซ์มากขึ้น

 

         สุดท้ายแต่ไม่ได้หมายความสำคัญน้อยสุด นั่นคือ การใช้ชีวิตอย่างสมดุล พอกันทีกับการปล่อยให้โลกทั้งใบหมุนด้วยคำว่างาน ในหนังสือเรื่อง "Peak Performance: Elevate your Game, Avoid Burnout and Thrive with the New Science of Success” ชี้ชัดว่าคนที่อยากประสบความสำเร็จในการทำงาน ต้องเรียนรู้การหยุดพักจากการทำงานบ้าง หรือ อย่างน้อยก็รู้จักผ่อนคลายตัวเองเมื่ออยู่ในช่วงแบตอ่อน คำแนะนำสุดคลาสสิคในการบาลานซ์ชีวิต คือ  แบ่งเวลาสำหรับคนในครอบครัว คนรอบข้าง และที่ขาดไม่ได้ คือ ให้หนังสือเป็นเพื่อนคู่ใจ มีผลการศึกษาที่ชี้ชัดว่า การอ่านหนังสือโดยเฉพาะวรรณคดี ไม่เพียงช่วยทำให้คุณมีความเข้าใจคนรอบข้าง และเพื่อนร่วมโลกมากขึ้น แต่ยังเป็นกิจกรรมที่สร้างความผ่อนคลายให้จิตใจ เป็นหนึ่งในเคล็ดลับความสำเร็จที่บิล เกตส์ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก หรือ แม้แต่วอร์เรน บัฟเฟตต์ ก็ยกให้เป็นกิจกรรมโปรด

 

         ไม่ว่าปี 2018 จะเป็นปีที่ดีสำหรับคุณหรือไม่ แต่ถ้าคุณเชื่อว่าปี 2019 คือ ปีทองที่คุณต้องคว้าไว้ ลุกขึ้นมาตั้งเป้าหมายที่เป็นจริงได้ตั้งแต่วันนี้