“เทคโนโลยีปัจจุบันทำให้งานยากๆ ง่ายขึ้นหลายเท่าตัวแค่เรารู้จักใช้มัน”

DAVID KARP

ผู้ก่อตั้ง TUMBLR  MICROBLOGGING

สำหรับคำกล่าวนี้ rabbit finance ขอบอกเลยว่าเห็นด้วยสุดๆ เพราะในปัจจุบันนี้เทคโนโลยีทำให้ชีวิตของมนุษย์เราก้าวไปได้ไกลขึ้น เทคโนโลยีต่างๆ จึงขยับเข้ามาในชีวิตมากขึ้น

จากเดิมที่มีเพียงโทรศัพท์มือถือเท่านั้นที่เราใช้ติดต่อสื่อสารเชื่อมโยงทุกกิจกรรมในชีวิตประจำวัน เทคโนโลยีก็ทำลายข้อจำกัดนั้น แล้วสร้างเครือข่ายที่เชื่อมโยงมนุษย์ในสังคมออนไลน์ใหม่ ด้วยเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เราคุ้นหน้าคุ้นตา อย่างเช่น เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน

จริงอยู่ที่การมีระบบเทคโนโลยี AI บนเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านทำให้ชีวิตของเราสะดวกสบายมากขึ้นก็จริง แต่เหรียญมักมี 2 ด้านเสมอ เมื่อมีข้อดีก็ต้องมีข้อเสีย งานนี้ใครที่คิดจะสร้างบ้าน Smart Home เราขอบอกเลยว่าไม่ควรพลาดบทความนี้!

5 เครื่องใช้ไฟฟ้ามี AI ทำบ้าน Smart Home จริง แต่ไม่ปลอดภัยซะงั้น! 

AI
ขอบคุณภาพจาก flashfly.net

1. ตู้เย็น

ในอดีตตู้เย็นที่บ้านมีไว้สำหรับแช่ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ และอาหารที่ทำกันเอาไว้ แต่ในยุคโลกาภิวัตน์แบบนี้ ตู้เย็นไม่ได้มีไว้เฉพาะแค่การแช่อาหารอีกต่อไป เพราะว่ามันสามารถเอาไว้ฟังเพลง ดูปฏิทิน และจดรายการอาหารต่างๆ ที่ต้องใช้ลงไปได้

โดยตู้เย็นจะบอกข้อมูลทั้งหมดที่มันทราบให้จอแสดงผลได้รับรู้ ยกตัวอย่างเช่น อาหารในตู้เย็นบางส่วนใกล้จะหมด คุณสามารถกดสั่งซื้อของสดออนไลน์ได้ทันที หรือจะเชื่อมต่อกับ Smartphone เพื่อเช็กของในตู้เย็นเวลาออกไปข้างนอกก็ได้เช่นกัน ฟังดูแล้วก็เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่อำนวยความสะดวกให้อย่างมากมายเลยนะเนี่ย แต่รู้หรือไม่ว่า ตู้เย็น คือ หนึ่งในอุปกรณ์ที่ถูกเจาะระบบได้ง่ายที่สุด

ตามรายงานของกิจกรรม IoT hacking challenge จากงาน DEF CON hacking conference ได้มี Hacker ทำการ Hack ตู้เย็นในรุ่น RF28HMELBSR smart fridge ซึ่งพบช่องโหว่ที่จะสามารถเข้าไปขโมยข้อมูลการล็อกอินของ Gmail ที่ล็อกอินอยู่ได้ ผ่านช่องทาง SSL 

AI
ขอบคุณภาพจาก amazon.co.uk

2. โทรทัศน์

เราอาจเคยชินกับการเสียบปลั๊ก กดปุ่มเปิดทีวี แต่ในยุคที่เทคโนโลยีก้าวไกลแบบนี้ เครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างโทรทัศน์เองก็ถูกพัฒนาให้เป็น Smart TV เช่นกันค่ะ จากเดิมที่คุณทำได้เพียงเลือกช่องโทรทัศน์ได้แค่ไม่กี่ช่อง คุณก็สามารถดูรายการต่างๆ ได้หลากหลายขึ้น ยิ่งในบางเครื่องคุณสามารถดูรายการย้อนหลังได้อีกด้วย ช่างสะดวกสบายตามสไตล์คน Gen Y จริงๆ

แต่รู้หรือไม่คะว่าการที่โทรทัศน์ของคุณสามารถทำอะไรได้มากมายมันก็ส่งผลเสียด้วยเหมือนกันนะ เพราะนักวิจัยจาก Oneconsult บริษัทรักษาความปลอดภัยไซเบอร์ได้ออกมาเตือนว่า สมาร์ททีวีส่วนใหญ่กว่า 85% สามารถโดน Hack ทางไกลได้

AI
ขอบคุณภาพจาก appadvice.com

3. หลอดไฟ

ปกติแล้วเวลาที่เราจะเปิด-ปิดไฟ เรามักจะต้องเดินมาที่สวิตช์ไฟแล้วกดปุ่มเปิดใช่ไหมล่ะคะ แต่สำหรับหลอดไฟอัจฉริยะแล้ว ขอเพียงแค่คุณมีแอปพลิเคชันของหลอดไฟแบรนด์นั้นๆ คุณก็สามารถเปิดปิดไฟจากโทรศัพท์มือถือได้แล้ว ยังไม่พอ! คุณยังสามารถเปลี่ยนแสงไฟได้เองด้วย เพียงแค่เข้าไปแก้ไขในแอปพลิเคชันเท่านั้นเอง

สะดวกสบายได้ใจ Gen Y ก็จริงอยู่ค่ะ แต่เพื่อนๆ รู้หรือไม่คะว่า เจ้าหลอดไฟอัจฉริยะนี่ก็ถูกใจผู้ไม่หวังดีด้วยเช่นกัน ด้วยความที่หลอดไฟสามารถควบคุมได้ง่ายจากโทรศัพท์มือถือ มันจึงค่อนข้างสุ่มเสี่ยงที่ผู้ประสงค์ร้ายจะ Hack ข้อมูลของคุณผ่านทางแอปพลิเคชันได้  

โดยไม่นานนี้เองทีม Context ซึ่งเป็น Hacker white hat ได้ลองทดสอบหลอดไฟอัจฉริยะ LIFX ซึ่งสามารถตั้งโปรแกรมได้ ควบคุมไร้สายผ่านสมาร์ทโฟน ผลปรากฎว่าพวกเขาสามารถเจาะระบบได้ น่ากลัวจริงๆ ว่าไหมล่ะคะ

AI
ขอบคุณภาพจาก amazon.ca

4. เครื่องปริ้นเตอร์

ในอดีตเครื่องปริ้นของเราอาจจะต้องเชื่อมต่อกับสายยูเอสบี เชื่อมกับเครื่องคอมพิวเตอร์ ใช้ปลั๊กไฟนู่นนี่นั่นมากมาย แต่ในปัจจุบันนี้ขอเพียงแค่คุณมีแอปพลิเคชันที่รองรับเจ้าอุปกรณ์นี้ คุณก็สามารถปริ้นงานออกมาได้เลย เรียกได้ว่าสะดวก รวดเร็ว ทันใจสุดๆ

ไม่ได้มีแค่คุณคนเดียวนะที่ค่อนข้างสะดวกรวดเร็ว เหล่าผู้ประสงค์ร้ายเองก็อาจจะได้รับผลประโยชน์นี้ด้วยเช่นกัน เพราะนักวิจัยด้านความปลอดภัย ที่มีชื่อว่า Michael Jordon ได้ลองทดสอบเครื่องปริ้นเตอร์ รุ่นยอดนิยมประจำออฟฟิศที่สามารถควบคุมผ่าน Wifi ได้ ก่อนจะพบว่าเครื่องปริ้นเตอร์นั้นสามารถ Hack ได้ผ่านระบบผ่าน Wifi

AI
ขอบคุณภาพจาก thanop.com

5. เครื่องดูดฝุ่นอัตโนมัติ

จากเดิมที่เราจะต้องใช้ไม้กวาดมากวาดพื้นเอง เทคโนโลยีก็นำพามาให้เราเจอกับเครื่องดูดฝุ่น เข้าสู่ยุคโลกาภิวัตน์แล้วทั้งที จะเป็นเครื่องดูดฝุ่นธรรมดาได้อย่างไร หลายคนอาจจะคุ้นหู คุ้นตากับเทคโนโลยีเครื่องดูดฝุ่นอัตโนมัติที่ออกมาให้ใช้บริการกันได้สักพัก ซึ่งเป็นเทคโนโลยีก็ออกแบบมาเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่คนที่ไม่ค่อยมีเวลาทำความสะอาดบ้านสุดๆ

เมื่อมีข้อดีก็ต้องมีข้อเสีย เพราะทีมนักวิจัยจาก Check Point พบช่องโหว่ในเครื่องดูดฝุ่นอัตโนมัติที่ติดกล้อง โดยกล้องที่ติดในเครื่องดูดฝุ่นอัตโนมัติอาจกลายเป็นหุ่นยนต์สืบราชการลับชั้นเยี่ยมภายในบ้านโดยที่เราแทบไม่รู้ตัวได้ เนื่องจาก Hacker สามารถเจาะระบบนี้ได้จากระยะไกลโดยไม่จำเป็นต้องเข้ามาอยู่ในเครือข่ายเดียวกันกับเครื่องใช้นั้นๆ ด้วยซ้ำ 

และนี่ก็คือความอันตรายจากการใช้เทคโนโลยี AI ที่อยู่ในเครื่องใช้ไฟฟ้า จริงอยู่ค่ะที่มันสร้างความสะดวกสบายเป็นอย่างมาก แต่อย่าลืมว่าในความสะดวกสบายนั้นมันมีอันตรายอะไรซ่อนอยู่ สำหรับประเทศไทยนี่อาจเป็นเรื่องราวแปลกใหม่ที่เราไม่ค่อยคุ้นชิน จึงทำให้ไม่คำนึงถึงการถูกเจาะระบบความปลอดภัยมากนัก

แต่ในต่างประเทศนี่คือเรื่องที่สำคัญมากเลยทีเดียวล่ะ ลองคิดดูสิว่าถ้าหากมีผู้ไม่ประสงค์ดีบางคนรู้เวลากลับบ้าน รู้เวลาที่คนไม่อยู่บ้าน ได้ด้วยการเจาะระบบหลอดไฟอัจฉริยะล่ะก็ มันจะเกิดอะไรขึ้น! แน่นอนเลยว่าทรัพย์สินในบ้านต้องถูกลักทรัพย์อย่างแน่นอน อันตรายไม่ใช่น้อยเลยนะเนี่ย

ขอบคุณข้อมูลจาก rabbitfinance.com