โลกปัจจุบัน ค่าน้ำมัน ราคาอาหาร เสื้อผ้า บ้านอยู่อาศัยและการเดินทาง เกือบทุกสิ่งทุกอย่างมีการปรับสูงขึ้นเรื่อย ๆ เพียงแต่เงินเดือนไม่ค่อยเพิ่มขึ้นขณะที่เศรษฐกิจโลกถดถอย การพัฒนาเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และจีนต่างชะลอตัวลง ประชาชนทั่วโลกรู้สึกกระเป๋าเงินของตนแฟบ และทำให้ทุกคนเป็นห่วงอนาคตมากยิ่งขึ้น การประหยัดเงินคงเป็นวิธีการของการรับมือกับสภาพลำบากอย่างหนึ่ง ว่าแล้ววันนี้เราลองมาดูวิธีประหยัดเงินในชีวิตประจำวันกันดีกว่าค่ะ

1. เขียนรายการอาหารไว้ล่วงหน้า

            การจ่ายตลาดโดยไร้แผนที่จะทำอาหาร มักจะทำให้คุณซื้อของเกินความจำเป็น ไม่ได้เขียนรายการอาหารก็คาดการณ์ไม่ถูกว่าค่าใช้จ่ายนั้นประมาณเท่าไหร่ ดีไม่ดี คุณอาจลืมตัว ตามใจปากตอนจับจ่ายซื้อของ แบบนี้เงินหายวับไปกับตาได้ง่ายเลยทีเดียว

2. เปรียบเทียบราคา

            สมัยนี้ข้าวของมีราคาสูง เก็งกำไรกันสูงมาก หากเราซื้อของโดยไม่เปรียบเทียบราคาอาจถูกเอาเปรียบได้ง่าย เช่น กำลังมองหาซื้อตู้เย็น มีหลายร้านติดๆกัน เราเดินมาแค่ร้านแรกแล้วถูกใจก็ซื้อเลย หารู้ไม่ว่าร้านถัดไปอาจมีราคาถูกกว่าทั้ง ๆ ที่เป็นตู้เย็นรุ่นเดียวกันไซส์เดียวกันนะคะ

3. อย่าเพิ่งเข้าไปถามราคา

             เวลาช้อปปิ้งเดินเลียบ ๆ เคียง ๆ เล็งดูระยะห่างก่อนรอบแรก ถ้าตรงเข้าไปสักถามราคาทันทีที่สะดุดตามักต้องซื้อเพราะความเกรงใจ หรือต้องซื้อเพราะความโดนโวยโทษฐานหยิบจับพลิกดูจนแม่ค้าคอแห้ง นึกถึงใจเขาใจเราและที่สำคัญกระเป๋าเรา

4. ตั้งงบการใช้เงินรายสัปดาห์

             ทุก ๆ สัปดาห์เราจะต้องตั้งงบการใช้เงินในชิวิตประจำวัน สัปดาห์ละเท่าไร ก็แล้วแต่เราจะกำหนดให้เหมาะสมกับการใช้จ่ายในชีวิตประจำวันและเงินเดือนที่เราได้รับ เพื่อให้เราตระหนักถึงการใช้จ่าย ไม่กล้าใช้เงินสุรุ่ยสุร่าย ระมัดระวังในการใช้จ่ายมากขึ้น

5. หันมาใช้ขนส่งสาธารณะแทนรถส่วนตัว

             ขนส่งสาธารณะบ้านเรามีทั้งวินมอเตอร์ไซค์ รถเมล์ เรือโดยสาร รถไฟฟ้าทั้งบนดินและใต้ดิน มีให้เราใช้บริการหลากหลายตามแต่จะสะดวก ซึ่งถ้าเราหันมาใช้ขนส่งสาธารณะแทนรถส่วนตัวจะช่วยประหยัดเงินค่าน้ำมันได้หลายบาทเลยทีเดียว ถึงแม้ต้องแลกกับความสะดวกสบายไปบ้าง หรือถ้าที่พักเราใกล้ที่ทำงาน จะปั่นจักรยานไปทำงานก็เป็นวิธีประหยัดที่ยอดเยี่ยมเลยอีกวิธีหนึ่ง

6. ทำอาหารกินที่บ้านให้บ่อยครั้งมากยิ่งขึ้น

             ถ้าพวกคุณเป็นสามีภรรยาที่ทำงานนอกบ้านด้วยกันทั้งคู่ อาจจะเป็นเรื่องยากสักนิดหากต้องรีบกลับมาทำอาหารที่บ้านทุกวัน แต่พวกคุณก็สามารถทำได้โดยการเริ่มจากการทำอาหารกินเองที่บ้านอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง แล้วค่อย ๆ เพิ่มความถี่ขึ้นเรื่อย ๆ เป็น 2-3 ครั้งหรือตลอดทั้งสัปดาห์ และทำเช่นนี้ไปจนกว่าพวกคุณจะสามารถปรับสมดุลเรื่องของรายจ่ายกับเงินออมได้

7. ไม่เน้นแบรนด์เนม

             อีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยออมเงินได้ก็คือ การให้ความสำคัญกับตัวสินค้ามากกว่าแบรนด์ที่ปรากฏอยู่บนฉลาก โดยพิจารณาดูจากรสชาติ ส่วนผสม วัตถุดิบ หรือวัสดุ เป็นต้น นอกจากนี้หากคุณต้องการของราคาถูกจริง ๆ อาจจะเปลี่ยนจากการซื้อของในห้างสรรพสินค้า หรือซูเปอร์มาร์เก็ตมาเป็นตลาดขายของทั่วไปแทนค่ะ

8. ลดจำนวนบัตรเครดิต

              ถ้าตอนนี้คุณมีบัตรเครดิตมากกว่า 1 ใบ และตัวเลขติดลบอยู่หลายบัญชี ควรจะรวบหนี้ทั้งหมดไว้ในบัญชีเดียว โดยพิจารณาจากบัญชีที่มีอัตราดอกเบี้ยน้อยที่สุดในบรรดาบัญชีที่คุณมีอยู่ หลังจากนั้นก็นำเงินที่ได้มาใช้หนี้ก้อนดังกล่าวให้หมดเสียก่อน พร้อม ๆ กับเก็บเงินออมไว้ส่วนหนึ่งด้วย

เห็นไหมล่ะว่าคุณสามารถเพิ่มเงินออมได้ โดยไม่ต้องลงทุนทำธุรกิจใหญ่โตเลยสักนิด เพียงแค่คุณเปลี่ยนนิสัยกับวิถีในการดำเนินชีวิตประจำวันเท่านั้นเองค่ะ

ขอบคุณข้อมูล จาก :MoneyGuru.co.th