อสังหา ยังคงเป็นหนึ่งตัวเลือกการลงทุนที่น่าชื่นชอบของคนรวยมายาวนาน คงไม่ใช่เรื่องบังเอิญ หากแต่เป็นความจริงที่มักไม่ค่อยถูกเปิดเผยถึงเหตุผลที่ซ่อนอยู่ นอกจากเรื่องที่ว่า อสังหาริมทรัพย์เป็นทรัพย์สินที่จับต้องได้ และมีการเติบโตของราคาทุกปี TerraBKK Research อธิบาย 4 เหตุผลหลักที่ว่า ทำไม อสังหา ควรเป็นหนึ่งทรัพย์สินในพอร์ตการลงทุนของคุณ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ปัจจัยที่ส่งกระทบต่อการลงทุนของคุณ เช่น อัตราเงินเฟ้อ , ความผันผวนของตลาด , ความเสี่ยงในการลงทุน และช่องทางผลตอบแทน รายละเอียดดังนี้

1. ป้องกันเงินทุนจากอัตราเงินเฟ้อ

           อัตราเงินเฟ้อเกิดขึ้นทุกปี ตามตัวเลขประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทย อาจจะมองไม่เห็นผลกระทบของอัตราเงินเฟ้อแบบชัดๆในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ แต่หากมองออกไปในระยะเวลาที่ยาวนานขึ้น คุณจะเริ่มเห็นผลกระทบของมันอย่างชัดเจน ซึ่งอัตราเงินเฟ้อนี่เอง ที่เป็นปัจจัยสำคัญส่งผลต่อมูลค่าเงินตรา สังเกตได้จากทฤษฎีการคำนวณมูลค่าเงินตามเวลา ดังนั้น การลงทุนในตราสารทุนหรือตราสารหนี้ อาทิ หุ้น ,พันธบัตร,หุ้นกู้ เป็นต้น อาจผูกติดกับหน่วยเงินเดิมที่ถูกลดทอนมูลค่าลงตามกาลเวลาจากอัตราเงินเฟ้อ ต่างกับการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ที่มีราคาซื้อขายตามสถานการณ์ปัจจุบัน จึงดูดกลืนอัตราเงินเฟ้อไปในตัวเรียบร้อยแล้

2. ลดความผันผวนพอร์ตการลงทุน

            เนื่องจากพื้นฐานความเป็นอสังหาริมทรัพย์ที่ไม่สามารถเคลื่อนที่ได้ ไม่ว่าจะซื้อหรือขายแต่ละครั้ง จึงจำเป็นต้องใช้ระยะเวลานานพอสมควร ประโยชน์ในเรื่องสภาพคล่องต่ำของอสังหาริมทรัพย์จึงช่วยลดความผันผวนในพอร์ตการลงทุนของคุณได้ ขณะเดียวกัน ทรัพย์สินที่มีสภาพคล่องสูง เช่น หุ้น แม้ว่าสามารถซื้อขายเปลี่ยนมือได้ง่าย แต่ก็สร้างความผันผวนแก่พอร์ตการลงทุนง่ายเช่นกัน เป็นต้น

3. กระจายความเสี่ยงพอร์ตการลงทุน

            “ไม่ควรใส่ไข่ทั้งหมดลงในตะกร้าใบเดียว” เป็นหลักการพื้นฐานในการบริหารพอร์ตลงทุนที่ทุกคนน่าจะทราบกันดี การลงทุนในทรัพย์สินต่างประเภทที่มีข้อดีและข้อเสียต่างกัน จะช่วยรักษาพอร์ตการลงทุนไม่ให้ได้รับความเสี่ยงจากปัจจัยกระทบด้านใดด้านหนึ่งมากเกินไป เช่น สภาวะเลวร้ายอย่างเศรษฐกิจตกต่ำ หุ้น,ทองคำ ฯลฯ คงไม่ใช่โอกาสดีที่จะเข้าลงทุนมากนัก แต่ด้านอสังหา จังหวะเช่นนี้คือช่วงเวลาแห่งการรอคอย สำหรับคนที่มองเห็นโอกาสและเลือกลงทุนอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น

4. ช่องทางผลตอบแทน 2 ทิศทาง (ค่าเช่า , ส่วนต่างราคา)

             หากพูดถึงผลตอบแทนการลงทุนในทรัพย์สินต่าง ๆ อาจแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มง่ายๆ คือ ผลตอบแทนเมื่อถือครอง และ ผลตอบแทนเมื่อขาย ยกตัวอย่าง การลงทุนในทองคำ จะได้ผลตอบแทนเมื่อขายออกไปเท่านั้น ขณะที่การลงทุนหุ้น หากเป็นหุ้นที่ไม่จ่ายปันผล ผลตอบแทนจะเกิดขึ้นเมื่อขายออกไปเช่นกัน ซึ่งต่างจากอสังหาริมทรัพย์ที่คุณสามารถบริหารผลตอบแทนได้ทั้ง 2 ทิศทาง หากคุณไม่ต้องการปล่อยเช่า ก็สามารถใช้ประโยชน์จากการอยู่อาศัยได้ และได้รับผลกำไรเป็นส่วนต่างราคา (Cap Gain) เมื่อขายออกไปอีกด้วย เป็นต้น ---TerraBKK 

บทความโดย : TerraBKK เคล็ดลับการลงทุน TerraBKK ค้นหาบ้านดี คุ้มค่า ราคาถูก