6 ข้อดีของ "คอนโดโลว์ไรส์ใจกลางเมือง" ที่ไม่ควรมองข้าม มุมมองใหม่ในการอยู่อาศัยกับ "Maestro 03 รัชดา-พระราม 9"

ถือเป็นยุคที่การอยู่อาศัยแบบคอนโดมิเนียมกำลังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย เพราะตอบโจทย์การใช้ชีวิตคนเมือง เราจึงมักเห็นคอนโดมีเนียมระฟ้า หรือที่เรียกว่า ไฮไรส์ (High-Rise) เกิดขึ้นทั่วไปจนเจนตาในย่านทำเลทอง จนทำให้มองข้ามวิถีชีวิตแบบ "ส่วนตัว" หากแต่ตอบสนองไลฟ์สไตล์แบบเออร์เบินไลฟ์ เหมือนกัน กับการใช้ชีวิตในคอนโดมิเนียม แบบที่เรียกว่า "โลว์ไรส์" (Low-Rise)

หากมองลงในรายละเอียด จะพบว่า "โลว์ไรส์" มีข้อได้เปรียบมากมาย อย่างที่ เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ชี้ให้เห็นเชิงประโยชน์ใช้สอย (Functional) ของ "โลว์ไรส์" มากมาย จนกล่าวได้ว่าเป็นข้อดีที่ไม่ควรมองข้าม ดังนี้

6 ข้อดีของคอนโดโลว์ไรส์

1. จำนวนห้องน้อยกว่า มอบบรรยากาศเงียบสงบ มีความเป็นส่วนตัวสูง

เนื่องจากคอนโดฯ โลว์ไรส์ มีจำนวนห้องที่น้อยกว่า ทำให้บรรยากาศการอยู่อาศัยค่อนข้างเงียบสงบ ไม่พลุกพล่านเท่าอาคารสูงที่มีจำนวนห้องมากมาย จึงเกิดการอยู่อาศัยที่มีคุณภาพ เหมาะแก่การพักผ่อนและอยู่อาศัยแท้จริง

2. ลิฟท์เท่ากัน แต่จำนวนชั้นน้อยกว่า ไม่ต้องเสียเวลารอคอย

ในชั่วโมงเร่งด่วน ข้อได้เปรียบสำคัญของคอนโดฯ โลว์ไรส์ คือไม่ต้องแย่งลิฟท์กันใช้ เพราะลูกบ้านน้อย ความต้องการใช้ลิฟท์ก็น้อยตามไปด้วย อีกทั้งใครที่อยู่ห้องที่ไม่สูงมากนักก็ไม่มีความจำเป็นต้องใช้ลิฟท์เท่าไรนัก

3. อัตราส่วนความปลอดภัยสูงกว่า จึงดูแลได้อย่างทั่วถึง

การรักษาความปลอดภัยในโครงการ ถือเป็นเรื่องสำคัญอันดับต้นๆ ของการอยู่อาศัยคอนโดมิเนียม สำหรับคอนโดฯ โลว์ไรส์ จะได้เปรียบเป็นอย่างมาก เพราะมีลูกบ้านน้อย ทำให้ดูแลได้ทั่วถึง บางโครงเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยถึงกับจำหน้าลูกบ้านและรถทุกคันที่เข้า-ออกได้ด้วยซ้ำ

4. ยูนิตน้อย คู่แข่งน้อย ปล่อยเช่าง่าย

คุณสมบัติอีกจุดหนึ่งที่ลูกบ้านและผู้บริโภคอาจคาดไม่ถึง เพราะความที่คอนโดฯ โลว์ไรส์ ต่อหนึ่งโครงการ มีจำนวนยูนิตน้อย ผู้เป็นเจ้าของจึงสามารถนำออกมาปล่อยเช่าได้ง่ายกว่า เนื่องจากมีจำนวนคู่แข่งน้อยกว่าเมื่อเทียบกับโครงการคอนโดฯ ไฮไรส์ที่มีจำนวนยูนิตมาก ทำให้คอนโดฯ โลว์ไรส์ เหมาะสำหรับทั้งการอยู่อาศัยเองและการลงทุนเพื่อปล่อยเช่าด้วย

5. ส่วนกลาง เช่น สระว่ายน้ำ ฟิตเนส ไม่ต้องแย่งกันใช้!

อีกหนึ่งปัญหาที่พบเจอในคอนโดฯ คือ แย่งกันใช้ส่วนกลาง ไม่ว่าจะเป็นสระว่ายน้ำ ฟิตเนส สวนสาธารณะ โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมที่มีจำนวนลูกบ้านมากๆ แม้ว่าทุกห้องจะจ่ายค่าส่วนกลางเท่ากันก็ตามที เพราะปริมาณส่วนกลางที่มีจำกัด ดังนั้นยิ่งลูกบ้านน้อย ก็จะสามารถใช้ส่วนกลางได้ทั่วถึงมากขึ้น

6. ปลอดภัยมากกว่า เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน

คอนโดฯ โลว์ไรส์ส่วนใหญ่ คือมีจำนวนชั้นไม่เกิน 8 ชั้น ดังนั้นเมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน เช่น ไฟไหม้ ไฟดับ ห้องที่อยู่ชั้นบนสุดก็ยังสามารถเดินขึ้น-ลงบันไดได้ โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาลิฟท์

อย่างไรก็ตามแม้คอนโดฯ โลว์ไรส์ จะมีข้อได้เปรียบมากมาย แต่ผู้บริโภคบางกลุ่มก็ยังมีข้อกังวลบางประการ เช่น กังวลว่าจะถูกบล็อควิวจากอาคารสูงรอบข้าง, เกรงว่าต้องเข้าซอยลึก เนื่องจากคอนโดฯ โลว์ไรส์มักจะอยู่ในซอย ไม่ได้ติดถนนใหญ่, กลัวจะได้ส่วนกลาง (Facilities) ไม่เท่าโครงการไฮไรส์ เพราะเข้าใจถึงความกังวลและจุดอ่อนเหล่านี้ บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ จึงได้พัฒนาโครงการโลว์ไรส์ที่แตกต่าง ในชื่อแบรนด์ มาเอสโตร เรสซิเด้นซ์ (Maestro Residences) ชูดีไซน์หรูหรา ในราคาที่จับต้องได้ โครงการ Maestro มีทั้งหมด 6 โครงการ โดย 3 โครงการโลว์ไรส์ก่อนหน้านี้ที่สร้างเสร็จแล้ว ได้แก่ Maestro 39 สุขุมวิท 39, Maestro 12 ราชเทวี และ Maestro 02 ร่วมฤดี ก็ได้ผลตอบรับเป็นอย่างดี แสดงให้เห็นว่าคอนโดฯ โลว์ไรส์ เป็นที่ต้องการในการอยู่อาศัยมากขึ้น

โครงการ Maestro 03 รัชดา-พระราม 9

สำหรับ โครงการ Maestro 03 รัชดา-พระราม 9 โครงการที่ไม่เพียงเป็นคอนโดฯ โลว์ไรส์ ไม่กี่เจ้าที่ตั้งอยู่ในย่าน New CBD ของกรุงเทพมหานคร อย่างรัชดา - พระราม 9 แต่ภายในโครงการยังประกอบด้วยส่วนกลาง (Facilities) ครบครัน เทียบเท่าหรือมากกว่าโครงการไฮไรส์

Maestro 03 รัชดา-พระราม 9 ภายใต้คอนเซ็ปต์ Classic with a modern twist

แตกต่างด้วยทำเลที่ตั้ง เพราะโดยรอบโครงการเป็นหมู่บ้านจัดสรรและอพาร์ทเม้นท์ จึงไม่มีอาคารสูงมาบังวิว อีกทั้งทำเลนี้เป็นทำเลที่มีราคาคอนโดมิเนียมเติบโตสูงถึง 5.3% ต่อปี จึงสามารถให้ผลตอบแทนจากการเช่าได้มากถึง 6.6% ต่อปี เหมาะแก่การเป็นเจ้าของเพื่ออยู่อาศัยและลงทุนเก็งกำไร

Maestro 03 รัชดา-พระราม 9 เป็นคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ 8 ชั้น 3 อาคาร มีจำนวน 320 ยูนิต ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 3 ไร่ ในรัชดา ซอย 3 ไม่เพียงอยู่ใจกลาง Center of New CBD แต่ยังอยู่ด้านหลังสถานทูตจีน ที่สำคัญยังโดดเด่นด้วยคอนเซ็ปต์ Classic with a modern twist ที่มีเพียงหนึ่งเดียวในใจกลางรัชดา - พระราม 9 เป็นการผสมผสานงานออกแบบอย่างละเอียดและมีคุณภาพ กับรูปแบบสถาปัตยกรรม Classic – Modern โดยลดทอนความคลาสสิกของสถาปัตยกรรมยุโรปมาผสมเข้ากับงานสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ ก่อให้เกิดความเรียบง่ายสอดคล้องกลมกลืน จึงเป็นที่อยู่อาศัยใจกลางเมือง รับประกันได้ถึงบรรยากาศร่มรื่น เงียบสงบ เป็นส่วนตัว สะดวก และเต็มไปด้วยสไตล์ที่ดีไซน์มาอย่างลงตัว ที่สำคัญยังให้ ลูกบ้านสามารถเลี้ยงสัตว์เลี้ยงได้ (Pet Friendly Condominium) อันเป็นเอกลักษณ์ที่ติดตัวมาในทุกโครงการของ เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์

6 ข้อดีของคอนโดโลว์ไรส์ กับโครงการ Maestro 03 รัชดา-พระราม 9

ในแง่ทำเลสะดวกสบายในการเดินทาง เพราะที่ตั้งโครงการ สามารถเข้า-ออกได้ 3 เส้นทางหลัก ทั้ง รัชดาภิเษก, ประชาสงเคราะห์ และดินแดง ใกล้สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีพระราม 9 และสถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ห่างจากเซ็นทรัลพระราม 9 เพียงเดินเท้าแค่ 5 นาที ใกล้ทางด่วนพระราม 9 อีกทั้งยังสามารถเพลิดเพลินไปกับสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน โดยเฉพาะร้านอาหารและแหล่งช็อปปิ้งชั้นนำ เพราะใกล้ศูนย์การค้าถึง 3 แห่ง (เซ็นทรัล พระราม 9, เอสพลานาด และฟอร์จูน)

ภายในโครงการออกแบบพื้นที่ใช้สอยครบถ้วน ตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่แตกต่างกันได้อย่างลงตัว ครบด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลางมากกว่า 25 รายการ ทั้ง สระว่ายน้ำกึ่งในร่ม, สระว่ายน้ำสไตล์ยุโรป, ห้องสตีม, ห้องซาวน่า, ฟิตเนส, ทางวิ่งจ๊อกกิ้ง, สวนหินเพื่อผ่อนคลาย และอีกมากมาย นอกจากนี้ตัวโครงการยังออกแบบโถงทางเดินที่มีช่องเปิดเพื่อรับแสงธรรมชาติ ถ่ายเทอากาศช่วยประหยัดพลังงาน โดยประกอบด้วยห้องแบบ 1 ห้องนอน 29-41 ตร.ม.และ 2 ห้องนอน 50-74 ตร.ม.มาพร้อมเฟอร์นิเจอร์ดีไซน์ฟังก์ชั่นการใช้งานหลากหลาย เพื่อใช้พื้นที่ให้เกิดอรรถประโยชน์สูงสุด

การตกแต่งภายในโครงการ Maestro 03 รัชดา-พระราม 9

สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ Maestro 03 รัชดา-พระราม 9

Maestro 03 รัชดา-พระราม 9 คอนโดมิเนียมโลว์โรส์คุณภาพระดับไฮเอนด์ ตกแต่งครบ ในราคาเริ่มต้นที่ 3.7 ล้านบาท โดยโครงการคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในเดือนกุมภาพันธ์ 2561

ขอบคุณข้อมูลจาก www.mde.co.th