บางครั้งการทาสีบ้านก็สร้างความหนักอกหนักใจให้เกิดแก่ผู้เป็นเจ้าของบ้านได้มากเกินที่คาดคิด สีที่คุณชื่นชอบมากๆ หลายครั้งก็ไม่เหมาะที่จะนำมาใช้เป็นสีหลัก ด้วยเหตุผลว่า..อาจจะเป็นสีที่ร้อนแรงหรือหม่นหมองจนเกินไป สมมตินะคะ..ลองนึกภาพห้องนอนสีบานเย็นแสนเจิดจ้า หรือ ห้องทานข้าวสีเทาดำแสนหดหู่ เป็นต้น แม้บ้านจะเป็นของเรา แต่การเลือกทาสีบ้านแบบไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม ดูเท่แบบทะแม่งๆ ก็คงสร้างความหงุดหงิดใจได้ทุกครั้งที่เพื่อนๆ มาเยี่ยม (โดนจิกกัดจนเหวอะแน่ๆ ค่ะ) ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกสีทาภายในสำหรับห้องหับต่างๆ ลองมาทำความรู้จักกันก่อนดีไหมคะว่าเฉดสีไหนส่งผลกระทบต่ออารมณ์ความรู้สึกเช่นไรได้บ้าง…
เฉดสีแดง สีแดงเป็นสีโทนร้อนที่กระตุ้นระบบประสาทอย่างทรงพลังที่สุด สีแดงงช่วยสร้างความรู้สึกตื่นเต้น เร้าใจ กระตือรือร้น และตื่นตัว ช่วยกระตุ้นพลังชีวิต ทำให้รู้สึกมีชีวิตชีวา ถ้าไม่เชื่อ…ลองทาสีแดงสลับสี off-white แต่ให้น้ำหนักของสีแดงเป็นแค่สีรองในห้องทำงานหรือห้องน้ำดูสิคะ แล้วคุณจะรู้สึกถึงความกระฉับกระเฉง มีพลังในการทำงานขึ้นอีกมากแน่นอนค่ะ
เฉดสีเหลือง สีเหลืองเป็นของความฉลาดรอบรู้ ความสดใสร่าเริง และความสนุกสนาน ช่วยลดอาการซึมเศร้า ท้อแท้ หดหู่ และหมดกำลังใจได้อย่างดี นอกจากนั้นยังช่วยกระตุ้นการทำงานของลำไส้ให้ปกติ ทำให้ระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่ายทำงานดีขึ้น ด้วยเหตุนี้จึงเหมาะที่จะใช้เฉดสีเหลืองกับห้องครัวหรือห้องรับประทานอาหารที่สุดเลยค่ะ
เฉดสีส้ม สีส้มที่แสนอบอุ่นและสดใส เป็นสีแห่งความคิดสร้างสรรค์ สติปัญญา กระตุ้นให้เกิดความทะเยอทะยานที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง สามารถเรียกคืนความกระตือรือร้นกลับมาสู่ชีวิต การนำสีส้มมาใช้ในห้องนั่งเล่น ห้องทำการบ้านของเด็กๆ หรือห้องอ่านหนังสือจึงเป็นทางเลือกที่เหมาะเจาะเป็นอย่างยิ่ง
เฉดสีเขียว ความร่มรื่น ผ่อนคลาย สบายตา ทำให้รู้สึกปลอดภัย เป็นผลโดยตรงของพลังของสีเขียวค่ะ สีเขียวช่วยกระตุ้นให้เกิดความหวังและความสมดุล สามารถทำให้ประสาทตาผ่อนคลาย บรรเทาความรู้สึกเครียดที่เขม็งเกลียวได้เป็นอย่างดี จึงควรนำมาเป็นโทนสีหลักในห้องนั่งเล่นและห้องนอนค่ะ
เฉดสีฟ้า สีฟ้าคือสัญลักษณ์แห่งความสงบ เยือกเย็น ปลอดโปร่ง มีอิสระ พลังของสีฟ้าจะทำให้รู้สึกใจเย็นลงได้ ช่วยระงับความกระวนกระวายในใจ เหมาะที่จะใช้กับห้องนอน ห้องนั่งเล่น หรือแม้แต่ห้องน้ำ
เฉดสีม่วง สีแห่งผู้ใฝ่รู้ เต็มเปี่ยมไปด้วยแรงบันดาลใจ และสามารถสร้างความรู้สึกสงบในใจ ก่อให้เกิดสมาธิได้ดี ห้องที่เหมาะกับโทนสีนี้เป็นอันดับแรกจึงเป็นห้องพระและห้องอ่านหนังสือ อาจจะใช้ในห้องทำงานหรือห้องนั่งเล่นได้เช่นกันค่ะ สิ่งหนึ่งที่ขอแจ้งทราบไว้ คือ การทาสีบ้านนั้นไม่ได้มีข้อจำกัดว่าจะต้องเลือกใช้สีเพียงสีเดียวในทุกห้องทั้งหลังหรอกนะคะ การจัดแบ่งโซนพื้นที่ด้วยสีห้องก็ถือเป็นศิลปะอย่างหนึ่งของ หากแต่ควรระวังอย่าให้เกิดความต่างกันแบบฉับพลันจนเกินไป ควรจะมีการค่อยๆ เบรกลดโทนสีลงบ้างเมื่อกำลังจะเข้าไปสู่พื้นที่ห้องถัดไป …เพียงเท่านี้ คุณก็จะสนุกกับการทาสีบ้านตามสไตล์คุณแล้วล่ะค่ะ ^^