TerraBKK Research ได้รวบรวมผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 1/2559 ของกลุ่มบริษัทขนส่ง ประกอบด้วย 18 บริษัท โดยภายในกลุ่มขนส่งสามารถแบ่งประเภท ธุรกิจสายการบิน เดินเรือ รถไฟฟ้า และทางถนน TerraBKK Research ได้รวบรวมข้อมูลทางการเงินสำคัญๆ ได้แก่ ตัวเลขรายได้ (Revenue) อัตรากำไรสุทธิที่แต่ละบริษัททำได้ (Net Profit Margin) อัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (ROE) กำไรต่อหุ้น (EPS) และหนี้สินต่อทุน (D/E) แล้วนำข้อมูลเหล่านั้นมาจัดทำเป็นแผนภูมิแท่งเพื่อเปรียบเทียบกับทุกบริษัท

จากการสำรวจบริษัทในกลุ่มขนส่ง TerraBKK Research พบว่า ธุรกิจเกี่ยวกับสายการบินมีรายได้เติบโตอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะสายการบินประเภท Low Cost Airlineในส่วนบริษัทที่มีการเติบโตทั้งส่วนของรายได้ กำไร และมีความสามารถในการทำกำไรในระดับสูง ได้แก่ บริษัท AOT, AAV และ BA

(คลิกที่ภาพเพื่อขยาย)

รายได้ (Revenue) กลุ่มขนส่ง TerraBKK Research พบว่า รายได้กลุ่มนี้ถ้าดูเฉพาะกลุ่มสายการบิน ไม่ว่าจะเป็น AAV (+15.55% Y-o-Y), BA (+16.09% Y-o-Y), NOK (+15.73% Y-o-Y) รวมถึง AOT (+16.31% Y-o-Y) ด้วย มีรายได้เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องจากช่วงไตรมาสเดียวกันกับปีก่อนหน้า ยกเว้น THAI (-18.10% Y-o-Y) เพียงบริษัทเดียวที่มีรายได้ลดลง ส่วนบริษัทอื่นๆ ที่มีรายได้เติบโตในช่วงที่ผ่านมา ได้แก่ BTC (+211.66% Y-o-Y), TSTE (+14.97% Y-o-Y) และ BTS (+2.39% Y-o-Y)แต่ในช่วงที่ผ่านมาก็มีบริษัทที่มีรายได้ลดลงอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา คือ TTA (-35.67% Y-o-Y) และ ASIMAR (-58.67% Y-o-Y)

(คลิกที่ภาพเพื่อขยาย)

อัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin : NPM) แสดงถึงความสามารถในการสร้างผลกำไรของบริษัท โดยแปลงจากยอดรายได้แปลงเป็นกำไรให้กับบริษัทได้มากน้อยขนาดไหน บริษัทที่มีอัตรากำไรสุทธิสูงที่สุด คือ AOT (39.40%), NYT (31.55%), KWC (25.32%), BEM (22.27%) และ BA (19.54%) ในส่วนของบริษัทที่มีแนวโน้มของกำไรสุทธิลดลง คือ PSL (-140.71% Y-o-Y) JUTHA (-47.68% Y-o-Y) และ BTC (-76.83% Y-o-Y)

(คลิกที่ภาพเพื่อขยาย)

อัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์ (Return on Asset : ROA) เป็นอัตราส่วนที่แสดงถึงประสิทธิภาพในการดำเนินงานของกิจการ (Efficiency) ว่า บริษัทสามารถนำสินทรัพย์ที่มีอยู่ไปสร้างผลตอบแทนได้มากน้อยขนาดไหน ยิ่ง ROA มีค่ามากแสดงว่าดี แต่ถ้า ROA ต่ำแสดงว่าไม่ดี บริษัทที่มี ROA มากกว่า 15% มีเพียงแค่บริษัท AOT (16.90%) บริษัทเดียวเท่านั้น

(คลิกที่ภาพเพื่อขยาย)

อัตราผลตอบแทนจากผู้ถือหุ้น (Return on Equity : ROE) เป็นตัวชี้วัดถึงความสามารถในการสร้างผลตอบแทนให้แก่ผู้ถือหุ้น ยิ่งตัวเลขมากยิ่งดี บริษัทที่มีความสามารถในการสร้างผลตอบแทนมากกว่า 15% มีเพียงแค่บริษัทเดียวคือ AOT (18.92%) แต่ถ้าหากดูบริษัทที่มี ROE สูงมากกว่า 10% ได้แก่ ASIMAR (14.68%), WICE (13.16%), NYT (11.21%) และ KWC (10.06%)

(คลิกที่ภาพเพื่อขยาย)

กำไรต่อหุ้น (Earning per Share : EPS) กำไรต่อหุ้นเป็นอัตราส่วนที่บอกถึงผลตอบแทนของกำไรสุทธิต่อหนึ่งหุ้น บริษัทที่มีการเติบโตของกำไรสุทธิมากจะแสดงถึงความสามารถในการรับรู้กำไรต่อหนึ่งหุ้นที่มากขึ้นด้วย ดังนั้นเราจะให้ความสำคัญกับการเติบโตของกำไรต่อหุ้นเป็นหลัก บริษัทที่มีการเติบโตกำไรต่อหุ้นมากที่สุด (EPS Growth) คือ AAV (+110% Y-o-Y), BA (+45.10% Y-o-Y) และ AOT (+14.04% Y-o-Y) ไม่ได้รวมถึงบริษัทที่ขาดทุนแล้วจะกลายมาเป็นกำไร

(คลิกที่ภาพเพื่อขยาย)

หนี้สินต่อทุน (Debt to Equity) อัตราหนี้สินต่อทุนควรอยู่ในระดับต่ำ เนื่องจากการระดมทุนจากส่วนของหนี้สินมากๆ จะทำให้มีต้นทุนทางการเงินค่อนข้างมากและมีความเสี่ยงมากกว่า นอกจากนั้นบริษัทที่มีหนี้สินมากๆ จะไม่สามารถขอกู้จากสถาบันการเงินได้ ทำให้บริษัทต้องหันมาระดมทุนจากผู้ถือหุ้นผ่านการออกหุ้นเพิ่มทุน ส่งผลให้จำนวนหุ้นมากขึ้น ถ้าบริษัทเอาเงินเพิ่มทุนไปแต่ไม่สามารถสร้างกำไรได้ดีจะส่งผลให้กำไรต่อหุ้นลดลงจากจำนวนหุ้นที่เพิ่มขึ้นซึ่งนักลงทุนส่วนใหญ่จะไม่ชอบที่กำไรต่อหุ้นของตนเองลดลงในที่สุดมันจะถูกสะท้อนออกมายังราคาหุ้นที่ลดลง สำหรับบริษัทในอุตสาหกรรมขนส่ง TerraBKK Research พบว่า มีเพียง 2 บริษัท THAI และ JUTHA มีอัตราหนี้สินต่อทุนมากกว่า 2 เท่า - เทอร์ร่า บีเคเค

อัตรากำไรสุทธิ จะแสดงถึง ความสามารถในการทำกำไรสุทธิของบริษัท เป็นการวัดความสามารถของบริษัทในการควบคุมรายจ่ายทุกประการทั้งดอกเบี้ยและภาษีเมื่อเทียบกับยอดขาย หากอัตราส่วนนี้มีค่าสูงแสดงว่าบริษัทสามารถเปลี่ยนยอดขายให้เป็นกำไรสุทธิได้มาก

อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (Debt to Equity Ratio) แสดงถึง สัดส่วนของเงินทุนจากการกู้ยืมต่อเงินทุนจากเจ้าของธุรกิจถ้าอัตราส่วนนี้สูงแสดงว่าบริษัทมีการกู้ยืมเงินในสัดส่วนที่สูงเมื่อเทียบกับเงินทุนจากผู้ถือหุ้นของบริษัท ทำให้มีความเสี่ยงในลักษณะเดียวกับอัตราส่วนหนี้สินต่อสินทรัพย์

อัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ (Return on Asset:ROA) แสดงถึง ระดับผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวมของบริษัท เป็นการวัดความสามารถในการนำสินทรัพย์ทั้งหมดของธุรกิจใช้ในการสร้างยอดขายและควบคุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานทั้งหมดสุทธิจากภาษีแต่ก่อนหักต้นทุนทางการเงิน (ดอกเบี้ยจ่ายสุทธิจากภาษีที่ประหยัดได้) อัตราส่วนที่สูงแสดงว่าบริษัทมีความสามารถสูงในการนำสินทรัพย์ไปสร้างกำไรจากการดำเนินงาน

อัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (Return on Equity : ROE) แสดงถึง ระดับผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น เป็นการวัดความสามารถในการทำกำไรให้แก่เงินทุนของผู้ถือหุ้น หากค่าที่ได้จากการคำนวณสูงแสดงว่าผู้ถือหุ้นมีโอกาสได้รับเงินปันผลและผลตอบแทนที่สูง

บทความโดย : TerraBKK เคล็ดลับการลงทุน แหล่งข้อมูล : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย TerraBKK ค้นหาบ้านดี คุ้มค่า ราคาถูก