แน่นอนว่าใครๆต่างก็อยากเป็นนักลงทุนกันทั้งนั้น ยิ่งหากเป็นการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์แล้ว ดูเป็นความปรารถนาอันดับต้นๆของนักลงทุนรุ่นใหม่ หลายคนจึงดั้นด้นเก็บเงินเพื่อซื้อบ้านหรือคอนโดซักแห่งไว้ลงทุนทั้งระยะสั้นและระยะยาว แต่ถึงอย่างไร การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ยังถือว่ามีความเสี่ยงสูง อีกทั้งยังใช้เงินก้อนใหญ่ หากพลาดพลั้งไปขาดทุนหนัก ดังนั้นหากคิดจะลงทุนในอสังหาฯ ไม่ได้แค่มีเงินเท่านั้น ยังต้องมีความพร้อมทั้งด้านกำลังทรัพย์และด้านจิตใจ ซึ่ง TerraBKK Research นำเช็คลิสต์ 6 ประการ เพื่อสำรวจตัวคุณเองว่า ตอนนี้พร้อมแล้วหรือยังที่จะเข้ามาในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

1. รายได้มั่นคงพอที่จะรองรับเหตุการณ์ฉุกเฉิน เช่น ไม่มีคนเช่านานเป็นระยะเวลา 6 เดือน แบบนี้นอกจากจะไม่มีรายได้เข้ามาแล้ว ในช่วงระหว่างที่บ้านว่างรายจ่ายของคุณก็ยังคงมีอยู่เรื่อยๆ คุณจะสามารถรับภาระเงินผ่อนธนาคาร ดอกเบี้ย และค่าใช้จ่ายส่วนกลาง ที่เกิดขึ้นทุกๆเดือนได้หรือไม่?

2. ตรวจสอบหนี้สินของตนเอง หากคิดจะลงทุนแล้ว สิ่งหนึ่งที่พึงระวังคือหนี้สินที่มีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการผ่อนบ้านหลังเดิม ผ่อนรถยนต์ หนี้บัตรเครดิต ควรประเมินตัวเองว่า หากเราหาทรัพย์สินเพิ่มอีกจะเป็นภาระมากเกินไปหรือไม่

3. ประเมินผลตอบแทนที่คาดหวัง การลงทุนทุกสิ่งย่อมมีการคาดหวัง แต่ทรัพย์สินที่คุณจะลงทุนจะมีผลตอบแทนกลับมามากน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับราคาที่คุณซื้อมาและค่าเช่าที่ปล่อยได้ ดังนั้นหากไม่แน่ใจว่าจะได้ผลตอบแทนตามที่หวังไว้หรือไม่ ลองประเมินทั้งหมด 3 ระดับคือ เคสที่ดีที่สุด (Best Case) คือ สามารถปล่อยเช่าได้ตลอดทั้งปี ไม่มีห้องว่าง ได้ค่าเช่าสูงตามที่ต้องการ, เคสระดับกลาง (Base Case) คือ บ้านว่างประมาณ 2-3 เดือน ค่าเช่าระดับกลาง มีการต่อรองจากผู้เช่าบ้าง การขึ้นของค่าเช่าไม่มาก และ เคสที่แย่ที่สุด (worst case) คือ บ้านว่างนานมาก ค่าเช่าแทบไม่ขึ้น หรือค่าเช่าที่เก็บได้ต่ำกว่าตลาด แล้วลองดูว่าหากเกิดเหตุการณ์แบบ worst case คุณยังสามารถรับมือกับมันได้หรือไม่? หรือมีแผนฉุกเฉินอื่นที่จะสามารถแก้ไขได้

4. เตรียมใจกับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนอะไร ย่อมมีความเสี่ยงอยู่เสมอ การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ก็เช่นกัน ซึ่งเหตุการณ์เหล่านี้คุณต้องเตรียมพร้อมอยู่เสมอ เช่น ไม่มีผู้เช่า บ้านเสียหายต้องซ่อมแซม คนเช่าโทรตามให้ไปแก้ปัญหาที่บ้าน คนเช่าหนีไม่จ่ายค่าเช่า เป็นต้น ซึ่งจริงๆแล้วยังคงมีปัญหาอีกมากทั้งจากตัวผู้เช่าและจากตัวบ้าน หลายคนที่ไม่ชอบความวุ่นวายก็ขายบ้านทิ้งกันไม่ทันเลยทีเดียว

รู้จัก "ความเสี่ยง" ของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ TerraBKK อยากให้มองความเสี่ยงเป็นเรื่องที่ต้องคำนึงทุกครั้งก่อนลงทุนทำธุรกิจอะไรก็ตาม ความเสี่ยงสำหรับการทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีดังนี้

5. ไม่ใจร้อน รอจังหวะที่ดีได้เสมอ สิ่งหนึ่งที่นักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ควรจะเป็นคือ ความใจเย็น ไม่รีบร้อน เพราะโดยธรรมชาติของอสังหาริมทรัพย์คือ ไม่สามารถขายทิ้งได้อย่างรวดเร็วเหมือนอย่างกองทุน หรือหุ้น อาจจะต้องใช้เวลาหลายเดือน หรือบางทีก็เป็นปี ทำให้บางคนที่ใจร้อน รีบขายโดยไม่สนว่าจะได้กำไรหรือไม่ ซึ่งจะทำให้เสียโอกาสไปโดยเปล่า นอกจากนี้อสังหาริมทรัพย์ยังเป็นสินทรัพย์ที่ต้องรอเวลา จึงจะมีการเพิ่มขึ้นของมูลค่าอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งก็ต้องใช้ระยะเวลามากกว่า 5 ปี หรืออาจจะเร็วกว่านั้นหากเป็นทำเลที่มีศักยภาพมากพอ

6. รู้อะไร ลงทุนสิ่งนั้น ก่อนลงทุนสิ่งใด ควรศึกษาทำความเข้าใจให้ดีเสียก่อน ซึ่งอสังหาริมทรัพย์เองก็มีหลายรูปแบบให้เลือกลงทุน ทั้งเก็งกำไรที่ดิน พัฒนาที่ดิน บ้านเช่า เก็งกำไรใบจองคอนโด ทั้งนี้ TerraBKK Research ขอแนะนำว่า หากคุณคิดว่าตัวเองถนัดสิ่งไหนก็ลงทุนในสิ่งนั้น แล้วค่อยศึกษาด้านอื่นเพิ่มเติม

บทความโดย : TerraBKK คลังความรู้

TerraBkk ค้นหาบ้านดี คุ้มค่า ราคาถูก

"ลงทุนอสังหาริมทรัพย์" มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร แม้การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์จะเป็นการลงทุนที่ได้ผลตอบแทนกลับมาอย่างมากมาย เป็นที่ล่อตาล่อใจนักลงทุนทั้งหลาย คนรุ่นใหม่ในปัจจุบันก็เริ่มหันมาให้ความสนใจการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์มากขึ้น แต่เหรียญย่อมมีสองด้านเสมอ เมื่อมีข้อดีก็ต้องมีข้อเสีย ทั้งนี้ว่านักลงทุนจะสามารถยอมรับข้อเสียของการลงทุนได้มากน้อยแค่ไหน