TerraBKK ได้สำรวจ “ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในการซื้ออสังหาริมทรัพย์ช่วงโควิด” จากแบบสอบถามออนไลน์ของกลุ่มตัวอย่าง 430 คน พบว่าในช่วงที่โควิด ระลอก 4 มีการแพร่ระบาดหนักส่งผลให้ผู้บริโภคเกิดความกังวลและขาดความเชื่อมั่นซึ่งกระทบต่อพฤติกรรมการซื้ออสังหาฯ ที่เปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน

         โดยผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่กว่า 66% บอกว่าโควิดระลอกนี้มีผลต่อการตัดสินใจซื้ออสังหาฯ จำเป็นต้องเลื่อนหรือชะลอการตัดสินใจซื้อออกไปก่อน อีก 12% ระบุว่าโควิดมีผลกระทบต่อการตัดสินใจเป็นอย่างมากโดยเปลี่ยนใจไม่ซื้ออสังหาฯแล้ว และมีเพียง 22% ที่เห็นว่าโควิดไม่มีผลกระทบยังคงตัดสินใจซื้ออสังหาฯอยู่

         ทั้งนี้เมื่อแบ่งตามงบประมาณของผู้ตอบแบบสอบถามจะพบว่า กลุ่มลูกค้า Luxury Class ที่ตั้งงบประมาณมากกว่า 10 ล้าน กว่า 43% ยังคงตัดสินใจซื้ออสังหาฯอยู่ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าตลาดที่อยู่ระดับ Luxury ยังสามารถไปต่อได้ในภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ ส่วนกลุ่มลูกค้าระดับ Main Class งบประมาณ 3-10 ล้าน และ Economy Class งบประมาณไม่เกิน 3 ล้าน เกือบ 70% ระบุว่าช่วงนี้จำเป็นต้องเลื่อนหรือชะลอการตัดสินใจซื้อออกไปก่อน 

         เมื่อถามเหตุผลของผู้ตอบแบบสอบถามเกี่ยวกับความเชื่อมั่นในการซื้ออสังหาฯ พบว่า กลุ่มที่เห็นว่าโควิด ไม่มีผลกระทบกับการซื้ออสังหาฯ เห็นว่าช่วงนี้เป็นโอกาสดีจากหลายปัจจัยบวกอาทิ ราคาอสังหาฯลดลดทำให้น่าซื้อ, ทำเลดีที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิต, มีความจำเป็นต้องซื้อที่อยู่อาศัย, โปรโมชั่นดี ฟรีค่าใช้จ่ายและของแถมต่างๆ และอัตราดอกเบี้ยกู้ซื้อบ้านอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับช่วงเวลาปกติ

         ส่วนผู้ตอบแบบสอบถามที่คิดว่าโควิดมีผลต่อการซื้ออสังหาฯในช่วงนี้ ซึ่งคนส่วนใหญ่ยังคงมีความกังวลในด้านเศรษฐกิจ, ความกังวลต่อสถานการณ์โรคระบาดที่อาจรุนแรงมากขึ้น, การงานและรายได้ที่ไม่มั่นคง, จำเป็นต้องเก็บเงินสดไว้ก่อนและปัญหารายได้ที่ลดลง

 

แล้วโควิดมีผลทำให้การซื้อบ้านของผู้บริโภคเปลี่ยนไปหรือไม่? อย่างไร?

         แน่นอนว่าการแพร่ระบาดของโควิดมีผลต่อพฤติกรรมการซื้ออสังหาฯ ของผู้บริโภคอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่าต้องมีการปรับลดงบประมาณในการซื้อบ้านลงและมองหาโครงการที่จัดโปรโมชั่นเยอะๆ นอกจากนี้ยังเลือกโครงการที่มาจากผู้พัฒนาอสังหาฯที่น่าเชื่อถือและไว้ใจได้ โควิดยังทำให้พฤติกรรมการอยู่อาศัยของผู้คนเปลี่ยนแปลงไปทำให้ต้องการพื้นที่อยู่อาศัยมากขึ้น จึงมีการขยับทำเลออกไปนอกเมืองมากขึ้นเพื่อให้ได้บ้านที่กว้างขึ้นในงบประมาณเท่าเดิมหรือที่มีการปรับลดลง 

         โดยปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการเลือกซื้ออสังหาฯในช่วงนี้ ส่วนใหญ่เห็นว่าการออกแบบพื้นที่ที่เน้นความเป็นส่วนตัวของทุกคนในครอบครัว สามารถที่จะปรับเปลี่ยนพื้นที่ภายในบ้านให้กลายเป็นมุมส่วนตัวของคนในบ้านได้ภายใต้พื้นที่ใช้สอยที่มีอยู่ นอกจากนี้ยังมองหาโครงการที่มีการออกแบบพื้นที่ภายในบ้านที่ตอบโจทย์การ WFH รวมถึงยังต้องการพื้นที่สำหรับทำกิจกรรมอื่นๆ อย่างเช่น ห้อง Home theater/ห้องออกกำลังกายภายในบ้าน/ห้องเรียนหนังสือ ฯลฯ อีกทั้งผู้คนยังมองหาโครงการที่มีระบบระบายอากาศภายในบ้านต้องรองรับการใช้งานได้ดี, มีพื้นที่สีเขียว, มีนวัตกรรมหรือระบบ Home Automation ภายในบ้าน และที่สำคัญโครงการจะต้องมีบริการหลังการขายที่ดีจากแบรนด์ที่เชื่อถือได้

 

ผู้บริโภคยังมีความไม่เชื่อมั่นต่อสภาวะเศรษฐกิจและมองว่าช่วงนี้ยังไม่เหมาะกับการซื้ออสังหาฯ 

         TerraBKK ได้สอบถามดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ตอบแบบสอบถาม (ช่วงเดือนกรกฎาคม-กันยายน 2564) พบว่า ผู้บริโภคไม่เชื่อมั่นต่อสภาวะเศรษฐกิจที่ 44.0 ณ ตอนนี้เกือบทุกอาชีพมองว่าสถานะการเงินแย่ลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาแต่เชื่อว่าในอีก 12 เดือนข้างหน้าสถานะทางการเงินของตัวเองจะดีขึ้นระดับนึง แต่หากถามถึงภาพรวมเศรษฐกิจของไทยผู้บริโภคทุกกลุ่มมีความไม่เชื่อมั่นและมองว่าสภาวะเศรษฐกิจในอีก 12 เดือนข้างหน้าอาจจะยังไม่ดีขึ้น และเมื่อพูดถึงความเชื่อมั่นในการซื้อสินค้ามูลค่าสูงจะเห็นได้ว่ากลุ่มอาชีพที่มีรายได้มั่นคงอย่างคนที่ทำงานในภาครัฐ, ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางมองว่าช่วงนี้ก็เป็นช่วงเวลาที่สามารถซื้อสินค้ามูลค่าสูงได้ ในทางตรงกับข้ามกลุ่มอาชีพที่ยังมีรายได้ไม่มั่นคงอย่าง ฟรีแลนซ์, คนว่างงาน, เจ้าของกิจการ มองว่าช่วงนี้ไม่เหมาะสำหรับการซื้อสินค้ามูลค่าสูง

 

ภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยครึ่งปี 2564 

         หากพูดถึงภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยครึ่งปี 2564 (ข้อมูลจาก TerraByte: TerraBKK) จะเห็นได้ว่าในครึ่งปีนี้มีการปรับตัวลดลงของ Supply ในทุกๆ ประเภท แต่เมื่อดูภาพรวมราคาจะพบว่าราคากลางของโครงการที่เปิดตัวใหม่ยังคงปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นเล็กน้อยในบ้านแนวราบซึ่งบ่งบอกได้ว่าแม้ในสถานการณ์และความเชื่อมั่นเช่นนี้ผู้บริโภคก็ยังคงต้องการที่อยู่อาศัยประเภทแนวราบอยู่ 

         ในทางกลับกันสำหรับตลาดคอนโดที่มีภาพรวมราคากลางของโครงการที่เปิดตัวใหม่ที่ปรับตัวลดลง เพื่อตอบรับกับกำลังซื้อของผู้บริโภคในยุคโควิดนี้ ในปีนี้ Developer หลายเจ้าจึงเปิดตัวคอนโดต่ำกว่าแสนบาทต่อตร.ม.เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งก็ถือได้ว่าตอบโจทย์กำลังซื้อของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี ยอดขายไปได้สวยในหลายๆโครงการที่สร้างความคุ้มค่าให้กับผู้อยู่อาศัยภายใต้งบประมาณที่มีอยู่ อาทิ The Muve จากแสนสิริ , The Origin จาก Origin , คอนโดกลุ่ม Aspire จาก AP , คอนโดกลุ่ม Kave และ Atmoz จาก Asset Wise และคอนโดต่ำล้าน Sena Kith จากทางเสนา

         ท้ายที่สุดนี้ TerraBKK มองว่า NEXT TREND สำหรับตลาดอสังหาฯ มาจากแนวโน้มการซื้อที่อยู่อาศัยที่เปลี่ยนแปลงไปตามพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ทั้งในเรื่อง การสร้าง Blending Environment ที่เชื่อมที่อยู่อาศัยกับระบบนิเวศหรือธรรมชาติเข้าไว้ด้วยกัน, Fresh Air Technology for Common area เทคโนโลยีเกี่ยวกับการระบายอากาศในพื้นที่ส่วนกลางของโครงการอยู่อาศัย รวมถึง Well being for All Generations การสร้างที่อยู่อาศัยที่ดีต่อสุขภาพร่างกายและสุขภาพจิตใจสำหรับทุกกลุ่มวัย 

หากสนใจรายงานฉบับเต็ม สมัครรับข้อมูลได้ที่ 

TERRABYTE REPORT (by quarterly)  10,000 THB/Report

MARKET  REPORT (by semiannual) 40,000 THB/Report