หากลองมองย้อนไปช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา ทำเลที่โดดเด่นและมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องคงหนีไม่พ้นโซนกรุงเทพฝั่งทางเหนือ เพราะนับตั้งแต่ที่รถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย (หมอชิต-คูคต) เริ่มเป็นรูปเป็นร่างจนสร้างเสร็จพร้อมเปิดให้ใช้บริการเมื่อปีที่ผ่านมา เราได้เห็นเหล่า Developer เข้ามาพัฒนาโครงการต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ด้วยศักยภาพของรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายที่เชื่อมต่อโดยตรงแบบไม่ต้องเปลี่ยนขบวนกับรถไฟฟ้าสายหลักซึ่งเปรียบเสมือนหัวใจในการเดินทางของคนกรุงเทพฯ แน่นอนว่าทำเลนี้ยังคงเป็นที่น่าสนใจของเหล่าผู้พัฒนาฯและดึงดูดให้เกิดการพัฒนาขึ้นอีกเรื่อยๆ 

                    หนึ่งในย่านสุดฮอตของกรุงเทพทางตอนเหนือก็คือ ”พหล-เกษตร” ด้วยคาแรคเตอร์ความเป็นย่านอยู่อาศัยที่คึกคักตลอดเวลาเพราะอยู่ใกล้มหาวิทยาลัยขนาดใหญ่ อีกทั้งยังเป็นแหล่งอยู่อาศัยขนาดใหญ่ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายไว้รองรับ ย่านนี้จึงเป็น “ทำเลที่อุดมสมบูรณ์และเต็มไปด้วยแหล่งรวมไลฟ์สไตล์ของคนเมือง” อีกหนึ่งแห่งของกรุงเทพฯ ที่น่าจับตามอง

“พหล-เกษตร” ทำเลศักยภาพเชื่อมต่อเมือง เดินทางเข้า-ออกเมืองได้อย่างสะดวก 

                    ”พหล-เกษตร” มีจุดเชื่อมต่อการเดินทางก็คือ แยกเกษตร เป็นแยกสำคัญที่เชื่อมต่อถนนสายสำคัญทั้ง ถนนงามวงศ์วาน ถนนประเสริฐมนูกิจ(เกษตร-นวมินทร์) และถนนพหลโยธินที่เป็นถนนสายหลักสำคัญที่เชื่อมเข้าสู่ใจกลางเมืองและออกนอกเมืองไปยังจังหวัดอื่นๆ ทางทิศเหนือของประเทศ อีกทั้งยังสามารถเดินทางเชื่อมต่อไปยังทำเลอื่นๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็น ถ.วิภาวดี-รังสิต, ถ.รัชดาภิเษก, ถ.ลาดพร้าว และถ.ประชาชื่น เรียกได้ว่าเชื่อมต่อการเดินทางไปทั่วทุกทิศของกรุงเทพฯ เลยก็ว่าได้
                    นอกจากนี้ยังอยู่ใกล้กับทางพิเศษศรีรัชซึ่งสามารถเชื่อมต่อไปยังพื้นที่ศูนย์กลางทางธุรกิจ (CBD) อย่างสีลม สาทร รวมถึงใช้ทางด่วนดอนเมืองโทล์เวย์เพื่อเชื่อมไปยัง เพลินจิต ชิดลมและย่านสุขุมวิทได้ ด้วยถนนและทางด่วนที่เชื่อมต่อกันได้หลากหลาย การเดินทางของผู้คนในทำเลนี้ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ส่วนตัวหรือรถสาธารณะจึงถือได้ว่าสะดวกสบายเป็นอย่างยิ่ง

การเดินทางที่ไร้รอยต่อกับรถไฟฟ้าที่เชื่อมต่อหลากหลายสาย

                    นาทีนี้คงพูดได้เต็มปากว่า ”พหล-เกษตร” เป็นอีกหนึ่งทำเลที่มีศักยภาพด้านการเดินทางเป็นอย่างมากเพราะรายล้อมไปด้วยรถไฟฟ้าหลากหลายสายไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายที่เชื่อมตรงกับรถไฟฟ้าสายสีเขียวเส้นหลัก (สุขุมวิท) ซึ่งพาดผ่านใจกลางเมืองและย่านธุรกิจสำคัญของกรุงเทพฯ 

                    รถไฟฟ้าสายสีแดง (บางซื่อ-รังสิต) ที่ปัจจุบันอยู่ในช่วงทดลองเดินรถและคาดว่าจะพร้อมเปิดให้บริการเต็มรูปแบบในเดือนธ.ค. ในปีนี้ ซึ่งรถไฟฟ้าสายนี้จะเข้ามามีบทบาททำให้การเดินทางเข้า-ออกชานเมืองมีความสะดวกยิ่งขึ้นรวมถึงการเดินทางไปยังสนามบินดอนเมืองเป็นเรื่องง่ายมากขึ้นและในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล (แคราย-ลำสาลี) เข้ามาพาดผ่านทำเล”พหล-เกษตร” ซึ่งความคืบหน้าล่าสุดอยู่ในช่วงพิจารณารายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) ซึ่งหากเส้นทางนี้สร้างเสร็จจะเข้ามาส่งเสริมศักยภาพด้านการเดินทางที่ไร้รอยต่อให้กับผู้คนในทำเลนี้มากยิ่งขึ้น

                    นอกจากนี้ยังอยู่ไม่ไกลจากจุดเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีชมพู(แคราย-มีนบุรี) เป็นเส้นทางที่สะดวกต่อการเดินทางจากฝั่งตะวันตกไปยังตะวันออกของกรุงเทพฯ รวมถึงไม่ไกลจากจุด Interchange หลักของรถไฟฟ้ารถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน (Ring Line) ที่มีเส้นทางวิ่งรอบเมืองเชื่อมต่อกับทำเลสำคัญๆของกรุงเทพฯ 

“พหล-เกษตร” ย่านแห่งความอุดมสมบูรณ์ไม่แพ้ทำเลใจกลางเมือง

                    คาแรคเตอร์ที่โดดเด่นของพหล-เกษตรคือเป็นย่านที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่มาแต่ดั้งเดิมบวกกับเป็นโซนที่มีนักศึกษาเข้ามาอยู่เป็นจำนวนมาก ทำเลนี้จึงเต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายไว้พร้อมรองรับสำหรับการใช้ชีวิต ซึ่งนอกจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์และมหาวิทยาลัยศรีปทุมแล้ว ย่านนี้ยังเป็นแหล่งรวมของสถานศึกษาอื่นๆ อีกมากมาย อาทิ โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โรงเรียนสารวิทยาและโรงเรียนสตรีวรนาถบางเขน นอกจากนี้ยังอยู่ใกล้กับแหล่งงานและสถานที่ราชการต่างๆ เช่น ธอส. (สำนักงานใหญ่), กรมพัฒนาที่ดิน, การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(สำนักงานใหญ่), SCB สำนักงานใหญ่ และปตท.สำนักงานใหญ่ และอุ่นใจในการใช้ชีวิตจากการที่อยู่ใกล้สถานพยาบาลชั้นนำอย่างโรงพยาบาลวิภาวดีและโรงพยาบาลเปาโลเกษตร

                    ในอนาคตย่าน พหล-เกษตร จะมี Mega Project ที่กำลังรอพัฒนา โดยเป็นโครงการ Mixed-use ที่มีการใช้ประโยชน์ของพื้นที่ที่หลากหลาย ได้แก่ Ratchayothin Hills ประกอบไปด้วยอาคารสำนักงาน โรงแรม ศูนย์ประชุมและพื้นที่ค้าปลีก รวมพื้นที่ทั้งหมด 49,000 ตร.ม. และโครงการของ CPNxGLAND บนที่ดิน 48 ไร่ ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัย อาคารสำนักงานและพื้นที่ศูนย์การค้า เป็นต้น ด้วย Mega Project ที่จะเข้ามา ยิ่งเติมเต็มให้ทำเลนี้มีอนาคตไกลเป็นทำเลรองรับการขยายตัวของเมือง

แหล่งรวมไลฟ์สไตล์ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตได้อย่างครบครัน

                    ความเป็นย่านที่ใกล้มหาวิทยาลัยจึงมาพร้อมกับความอุดมสมบูรณ์ที่สามารถตอบโจทย์ได้ทุกไลฟ์สไตล์ ย่านนี้จึงเต็มไปด้วยแหล่งช้อปปิ้งมากมายไม่ว่าจะเป็น ตลาดอมรพันธ์ที่เป็นสไตล์ Street food มีร้านอาหารเด็ดๆ อร่อยๆ มากมายเช่น ข้าวมันไก่เจ๊อ้วน, ข้าวผัดปูเมืองทอง 1, Sam Steak and More ฯลฯ รวมถึงมีร้านค้าขายของใช้อีกมากมายหลายประเภทให้ได้จับจ่ายใช้สอย หรือถ้าเป็น Community mall อย่างโครงการ Home Village ที่รวมร้านอาหาร บุฟเฟต์ หลากหลายแนวทั้งเกาหลี ญี่ปุ่น มีคาเฟ่ ร้านของหวานมากมาย เปิดดึกถึง 4 ทุ่ม เอาใจทั้งวัยทำงานช่วงหลังเลิกงานและวัยนักศึกษาที่ทำกิจกรรมเสร็จ ชวนกันมากินมื้อดึก

                    นอกจากนี้ยังอยู่ใกล้ศูนย์การค้าและ Lifestyle Mall ขนาดใหญ่อย่าง Central Plaza Lardprao, Union mall, Major Cineplex Ratchayothin และ The Avenue Ratchayothin อีกด้วย เรียกได้ว่าตอบโจทย์การใช้ชีวิตทั้งวันธรรมดาและวันหยุดสุดสัปดาห์ได้อย่างครบครัน

“พหล-เกษตร” ศักยภาพทำเลที่มีดีมานด์ไม่ขาดสาย

                    Magnet สำคัญที่ดึงดูดดีมานด์เข้ามาก็คือ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จากสถิติจำนวนนิสิตและบุคลากรของม.เกษตรฯ (ณ วันที่ 5 เม.ย 63) จะเห็นได้ว่าจำนวนนิสิตที่เข้าใหม่หมุนเวียนถึง 10,000 คนต่อปี อีกทั้งยังมีนักศึกษาเดิมและบุคลากรกว่า 40,000 คน เรียกได้ว่ามีผู้คนเข้ามาใช้ชีวิตในทำเลนี้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ทาง Terra Research มองว่ายังมีกลุ่ม Real-Demand ที่ขยับจากทำเลนอกเมืองเข้ามาอยู่อาศัยใกล้เมืองมากขึ้น รวมถึง First Jobber ที่มองหาทำเลใกล้เมือง เดินทางสะดวก มีแหล่งไลฟ์สไตล์ไว้รองรับการใช้ชีวิต 

                    ภาพของพหล-เกษตรที่เห็นในวันนี้จึงเป็นย่านที่ตลาดที่อยู่อาศัยมีความคึกคักอยู่ตลอดเวลาทั้งที่อยู่อาศัยชั่วคราวอย่าง หอพัก อพาร์ทเมนต์สำหรับนิสิต นักศึกษา รวมถึงคอนโดฯ สำหรับคนที่ต้องการที่อยู่อาศัยจริงๆ ซึ่งจะเห็นได้ว่ามีโครงการคอนโดฯ ใหม่ๆ เข้ามาในทำเลนี้อยู่เรื่อยๆ 

การเติบโตของตลาดคอนโดทำเล “พหล-เกษตร” 

                    หากย้อนกลับไปดูสถานการณ์คอนโดฯ ของย่านนี้ในช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่ามีคอนโดฯ เกิดขึ้นเรื่อยๆ การเติบโตของระดับราคา Presale เฉลี่ยประมาณ 9% ต่อปี จากราคาเปิดตัวเฉลี่ยในปี 2550 อยู่ที่ 45,000 บาทต่อตร.ม. เพิ่มขึ้นสู่ 90,000-120,000 บาทต่อตร.ม.ในปัจจุบัน ด้วยความเป็นย่านที่มีดีมานด์เข้ามาอย่างต่อเนื่องสามารถสร้างผลตอบแทนจากการขาย (Capital Gain) เฉลี่ย 4-6% ต่อปี ราคาขายห้องมือสองเฉลี่ย 90,000-110,000 บาทต่อตร.ม.แม้เป็นคอนโดฯ ที่สร้างเสร็จมานานแล้ว ส่วนราคาเช่าของตลาดคอนโดฯ เฉลี่ยประมาณ 300-450 บาทต่อตร.ม. ราคาค่าเช่าต่อเดือนตั้งแต่ 8,000-14,000 บาท ผลตอบแทน Rental Yield เฉลี่ยสูงถึง 5-7% ต่อปีเลยทีเดียว 

สถานการณ์ตลาดคอนโดย่าน “พหล-เกษตร” 

                    ภาพรวมตลาดคอนโดฯ ในย่านนี้ราคาปัจจุบันมีตั้งแต่ 90,000 ไปจนถึง 160,000 บาทต่อตร.ม โดย Segment ระดับ 100,000-160,000 บาทต่อตร.ม จะอยู่ตามแนวรถไฟฟ้าสายสีเขียวและมาทางรัชโยธินซะเป็นส่วนใหญ่ ส่วนระดับราคา 90,000-100,000 ก็จะอยู่ไกลจากแนวรถไฟฟ้าสายสีเขียวและสิ่งอำนวยความสะดวกหน่อย ซึ่งแน่นอนว่าหากใครกำลังหาโครงการในย่านนี้ที่ราคาต่ำกว่า 90,000 ก็แทบจะหาไม่ได้แล้ว หรือแม้แต่ราคามือสองของคอนโดในย่านนี้ก็เกือบจะเท่าราคามือหนึ่งแล้ว

                    แต่ล่าสุดมีโครงการใหม่จากแสนสิริที่จะเข้ามาปักหมุดทำเลนี้ เพิ่งมีการแถลงข่าวเปิดตัวโครงการใหม่ไปเร็วๆ นี้ว่าเป็นคอนโดแบรนด์ใหม่ที่ชื่อว่า THE MUVE โดยโครงการแรกที่เปิดตัวในแบรนด์นี้ คือโครงการ THE MUVE Kaset ที่มีราคาเริ่มต้น 1.69 ล้านบาท ราคาต่อตารางเมตรประมาณ 71,000 บาท ซึ่งหากใครที่สนใจและอยากจับจองเป็นเจ้าของต้องติดตามโครงการ THE MUVE Kaset อย่างใกล้ชิดเพราะราคานี้ในทำเลนี้ถือว่าน่าสนใจไม่น้อย