ไม่บ่อยนักสำหรับแบรนด์ดัง ค่ายท็อป ที่จะลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงอะไรใหญ่ๆ หรือ เปิดตัวอะไรเปรี้ยงๆ ในช่วงนี้ (ยิ่งอยู่ในยุคโควิด-19 แบบจำใจอีกด้วย) แต่ไม่ใช่กับค่ายอสังหาเบอร์ต้นๆ ของเมืองไทยอย่างแสนสิริ ที่พร้อมสร้าง ‘ความแตกต่าง’ และไม่ยึดติดอยู่กับวิถีเดิมๆ พิสูจน์ได้จากการหาโอกาสใหม่ๆ ทางการตลาดเพื่อเสิร์ฟรูปแบบการอยู่อาศัยผ่านผลิตภัณท์ใหม่ๆ มาตอบสนองไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่อยู่เสมอ

ล่าสุดเพิ่งเปิดตัวแบรนด์น้องใหม่สุดเฟี้ยวอย่าง THE MUVE’ (เดอะ มูฟ) ที่ฉีกลุคแบรนด์ให้มีสีสันสดใสโฉบเฉี่ยว เน้นภาพลักษณ์เข้าถึงได้ง่ายขึ้น จับต้องได้มากขึ้น ชูคอนเซ็ปต์ “THE NEW FORMULA  FOR ESSENTIAL LIVING ตอบโจทย์มนุษย์เจเนอเรชั่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตเฉพาะตัว ต้องการแสวงหาการใช้ชีวิตแบบไร้รอยต่อระหว่างการทำงานและความสนุกสนาน เพื่อสร้างการเติบโตให้กับตัวเอง

สำหรับโปรเจ็คต์นี้แสนสิริไม่รอท่า ปล่อยของออกมาทีเดียวเป็นซีรีส์พร้อมกัน 4 คอนโด 4 โลเคชั่น ได้แก่ THE MUVE Kaset (เดอะ มูฟ เกษตร), THE MUVE Ratchada (เดอะ มูฟ รัชดา), THE MUVE Ram 22 (เดอะ มูฟ ราม 22), THE MUVE Bangna (เดอะ มูฟ บางนา) เรียกว่ายึดทำเลฮอตของคนเมืองที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา เหมาะทั้งการใช้ชีวิตและทำงาน

เมื่อปักธงว่าเน้นให้ผู้บริโภคเข้าถึงง่าย THE MUVE จึงมาพร้อมราคาที่จับต้องได้มากขึ้น (Affordable) ในราคาเปิดตัวเบาๆ เริ่มต้นที่ 1.29 ล้านบาท แถมยัง Yield ดี (ผลตอบแทนการลงทุนปล่อยเช่า) มากถึง 5% ถือเป็นราคาที่น่าดึงดูดและน่าสนใจเลยทีเดียวสำหรับการเป็นเจ้าของแบรนด์คุณภาพอย่างแสนสิริ

ถอดรหัส ‘GENERATION PANDEMICมนุษย์คอนโดพันธุ์ใหม่        

            ในฐานะแบรนด์น้องใหม่ เพิ่งเปิดตัว หากให้เทียบโพสิชั่นของ ‘THE MUVE’ ภายใต้แบรนด์ในเครือของแสนสิริ ก็น่าจะอยู่ระหว่าง The Base และ d condo แต่เน้นโฟกัสมนุษย์คอนโดรุ่นใหม่ที่มีเซกเมนต์และคาแรคเตอร์ต่างไปจากแบรนด์อื่นๆ (ของแสนสิริ) ในแบบที่แสนสิริตั้งชื่อกลุ่มผู้อยู่อาศัยสปีชีส์นี้ว่า

            สิ่งที่ทำให้ ‘THE MUVE’ ชวนให้อยากปักหมุดเป็นลูกบ้าน นอกจากราคาที่มาแบบน่ารักๆ แล้ว ที่สำคัญคือความใส่ใจของแสนสิริในการวิเคราะห์วิถีผู้อยู่อาศัยเจเนอเรชั่นใหม่ เพื่อค้นหาโซลูชั่นที่จะมาตอบโจทย์การอยู่อาศัยที่ ‘ใช่’ ที่สุด โดยคำว่า GENERATION PANDEMIC ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายของ THE MUVE มาจากการถอดรหัส 8 คาแรคเตอร์ของกลุ่มมนุษย์เมืองสปีชีส์นี้ ได้แก่

  • PERSPECTIVE OF LIVING WITH SEAMLESS ON WORK AND LIVING : มีมุมมองการใช้ชีวิตแบบไร้รอยต่อระหว่างการทำงานและความสนุกสนาน เพื่อสร้างความก้าวหน้าให้กับตัวเอง ต้องยอมรับว่ามนุษย์เจเนอเรชั่นใหม่ๆ ไม่ได้ยึดติดกับการแยกชีวิตการทำงานและการพักผ่อน (work-life balance) ออกจากกันเหมือนแต่ก่อน แต่พร้อมจะหาแนวทางการใช้ชีวิตของตัวเองเพื่อได้เต็มที่ทั้งเรื่องงานและการพักผ่อนไปพร้อมๆ กัน

  • ADAPT OR DIE MINDSET : มีความพร้อมที่จะปรับตัว รับมือกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปตลอดเวลา

  • NEVER STICK ON TRADITIONAL WAY OR RULES : กล้าที่จะหาหนทางใหม่ๆ ไม่ยึดติดกับแนวทางหรือกฎเกณฑ์แบบเดิมๆ

  • DARE TO TRY EVEN IT FAIL IS FINE : กล้าที่จะลงมือทำ เพราะถ้ามัวแต่กลัวความล้มเหลว ก็จะไม่ได้เติบโตและเรียนรู้อะไรเลย

  • ENJOY THEIR LIFE IN EVERY ASPECT : เมื่อมีมายด์เซ็ตที่พร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลง และเรียนรู้อยู่เสมอ ก็จะหาทางเอ็นจอยกับการใช้ชีวิตในทุกๆด้าน

  • MAKE MONEY WITH PASSION AND FUN : มีความสุขกับการหาทางสร้างรายได้ จากสิ่งที่ชอบหรือสนใจ ทำให้สามารถทำงานหลายอย่างควบคู่กันไปได้

  • INDEPENDENT DONT WANT SOMEONE TO COMMAND THEM : รักอิสระ มีความคิดเป็นของตัวเอง ไม่ต้องการให้ใครมาตีกรอบ

  • CONTINUOUS GROWTH : แสวงหาการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ให้ชีวิตก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดนิ่ง

 

5 องค์ประกอบเพื่อชีวิตที่ ‘ใช่’ สไตล์ GENERATION PANDEMIC


จากพฤติกรรมและแนวคิดของผู้อยู่อาศัยสปีชีส์นี้ สะท้อนให้เห็นว่าพวกเขาต้องการที่จะเติบโตและก้าวหน้าในแบบของตัวเอง ดังนั้นปัจจัยที่พวกเขาต้องการจากที่อยู่อาศัย คือ ต้องเป็นพื้นที่ที่เอื้อต่อไลฟ์สไตล์ของพวกเขา I เป็นพื้นที่ที่เอื้อให้พวกเขาได้ปล่อยของและได้ทดลองสิ่งที่ตัวเองมีความสนใจ I เป็นพื้นที่ที่เอื้อให้พวกเขาได้ไปถึงเป้าหมายและประสบความสำเร็จในการทำงานและชีวิตด้วยแนวทางของตัวเอง พูดง่ายๆ คือต้องการที่อยู่อาศัยที่จะทำให้ชีวิตของพวกเขาดีขึ้นในทุกวัน

            ฉะนั้นทุกโครงการของTHE MUVE จึงเหนียวแน่นในดีเอ็นเอ 5 เรื่องสำคัญ ได้แก่ 1.อยู่ในทำเลที่เชื่อมต่อการเดินทางหลากหลายรูปแบบ 2.อยู่ในศูนย์กลางชุมชน 3.แฟซิลิตี้ยืดหยุ่น ตอบโจทย์การใช้งานหลากหลายรูปแบบ เอื้อให้สามารถทำงานได้มีประสิทธิภาพดีขึ้น 4. เป็นพื้นที่ให้ความรู้สึกเป็นอิสระและช่วยส่งให้ชีวิตคุณดีกว่าเดิม 5.เป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพในการเติบโตและพร้อมสร้างมูลค่าเพิ่มให้คุณได้ในอนาคต

THE MUVE’ (เดอะ มูฟ) ‘สร้างสมการที่ใช่ ให้ชีวิตไปข้างหน้า’

            ทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้ตอบโจทย์การใช้ชีวิตมนุษย์สปีชีส์ GENERATION PANDEMIC แสนสิริจึงตกผลึกเป็นสโลแกนสั้นๆ ที่จะบ่งบอกตัวตนความเป็นคอนโดซีรีส์ THE MUVE คือ MOVE YOUR LIFE FORWARD สร้างสมการที่ใช่ ให้ชีวิตไปข้างหน้า’ ด้วยการสร้างสมการการอยู่อาศัยแบบTHE NEW FORMULA FOR ESSENTIAL LIVINGเพื่อว่าที่ลูกบ้านของ THE MUVE โดยผลลัพธ์ของผู้อยู่อาศัยจะได้รับคือ

 

บวก : PRODUCTIVITY ด้วยฟังก์ชั่นทั้งในห้องพัก ส่วนกลาง และสิ่งอำนวยความสะดวก

ลบ : UNNECESSARY คัดสรรสิ่งที่จำเป็น เพื่อลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น

คูณ :  PASSION ความชอบ ค้นหาสิ่งที่ใช่ในการใช้ชีวิต ที่มาจากไลฟ์สไตล์อันหลากหลาย จากการได้อยู่ใจกลาง community

หาร :  TIME & ENERGY หารเวลาและพลังงานที่ต้องใช้ในการเดินทาง เพื่อใช้ชีวิตได้มากขึ้น จากการอยู่ในโลเคชั่นที่สามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้สะดวก

 

เกษตร-รัชดา-รามคำแหง-บางนา 4 ทำเลไลฟ์สไตล์แบบ THE MUVE 

            เกษตร-รัชดา-รามคำแหง-บางนา คือ 4 ทำเลที่ THE MUVE คิดมาแล้วว่าตอบโจทย์ชีวิตที่ใช่ โดยแต่ละโครงการล้วนเลือกมาให้หลากหลาย เพื่อให้เข้าถึงความต้องการ-ความสะดวก-ความคุ้นเคยพื้นที่ของว่าที่ลูกบ้าน ที่สำคัญสร้างมูลค่าเพิ่มแก่ผู้เป็นเจ้าของ เพราะไม่ว่าจะอยู่อาศัยเอง หรือปล่อยเช่าก็คุ้มในระยะยาว


แล้วรออะไรอยู่ มาทำความรู้จักทั้ง 4 คอนโดซีรีส์จาก THE MUVE กันเลย…

 

THE MUVE Kaset (เดอะ มูฟ เกษตร) ตั้งอยู่ในงามวงศ์วาน 54 ซอย 3 ประกอบด้วย 1 อาคาร จำนวน 248 ยูนิต เริ่มต้นขนาด 1 ห้องนอนอยู่ที่ 22, 24, 28 ตารางเมตร โดยโครงการนี้อยู่ในระยะเพียง 5 นาที จากมหาวิทยาลัยเกษตร, 10 นาทีจาก BTS สถานีเกษตร, ท็อป ซูเปอร์มาเก็ต และโรงพยาบาลวิภาวดี, 15 นาที จากเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน ใกล้รถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล (แคราย-ลำสาลี) ที่จะเริ่มก่อสร้างภายในปี 2567 ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทาง เพราะรถไฟฟ้าสายสีนํ้าตาลจะเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า 7 สาย ที่จะทำให้ไม่ว่าเดินทางไปยังจุดใดของเมืองก็กำหนดเวลาการเดินทางได้ จนทำให้ลืมคำว่าสายไปเลย โดยรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาลสถานีศูนย์ราชการนนทบุรี (เชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสายสีม่วง), สถานีบางเขน (เชื่อมต่อสายสีแดง), สถานีแยกเกษตรฯ (เชื่อมต่อสายสีเขียว), สถานีฉลองรัช (เชื่อมต่อสายสีเทา), สถานีลำสาลี (เชื่อมต่อสายสีเหลืองและสีส้ม)

นอกจากนี้ THE MUVE Kaset (เดอะ มูฟ เกษตร) ยังอยู่ใกล้รถไฟฟ้าสายสีแดง (ตลิ่งชัน-บางซื่อ-รังสิต) ที่จะให้บริการในปี 2021 นี้ (บางส่วน) โดยรถไฟฟ้าสายนี้จะช่วยให้การเดินทางข้ามไปตลิ่งชัน หรือจะไปรังสิตกลายเป็นเรื่องง่าย
เท่านั้นไม่พอ ถ้ามองในแง่การลงทุน ความที่ตัวโครงการอยู่ในระยะเดินจากมหาวิทยาลัย อัตราการปล่อยเช่าเฉลี่ยจึงได้สูงสุดถึง 8,000 บาทต่อเดือน ถือว่าเป็น Yield สูงถึง 4.5-5.0%

THE MUVE Ratchada (เดอะ มูฟ รัชดา) ประกอบด้วย 2 อาคาร จำนวน 535 ยูนิต เริ่มต้นขนาด 1 ห้องนอน อยู่ที่ 22, 24 ตารางเมตร และ 1 ห้องนอนพลัส 35 ตารางเมตร ตัวโครงการอยู่ในระยะ 500 เมตร จาก BTS เมเจอร์ รัชโยธิน, 650 เมตร จาก BTS รัชโยธิน, 750 เมตร จาก SCB Park, 1 กิโลเมตร จากศาลอาญา และ 1.2 กิโลเมตร จากมหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม เดินทางสะดวกสบายด้วยโครงการในอนาคตอย่าง MRTA สายสีเหลืองที่จะสร้างเสร็จในปี 2024        

THE MUVE Ram 22 (เดอะ มูฟ ราม 22) ประกอบด้วย 2 อาคาร จำนวน 254 ยูนิต เริ่มต้นขนาด 1 ห้องนอน อยู่ที่ 22, 24 ตารางเมตร ตัวโครงการอยู่ในระยะเดินเพียง 250 เมตร จากบิ๊กซี ซูเปอร์มาร์เก็ต, 500 เมตร จาก MRT สายสีส้ม สถานีราม12, 550 เมตรจาก The Mall MIxed-Use Complex (พื้นที่กว่า 200,000 ตารางเมตร ที่จะเป็นทั้งห้างสรรพสินค้า, สวนสนุก, โรงหนัง, ร้านอาหาร, ฟิตเนส) ที่อยู่ในระหว่างดำเนินการ และ 650 เมตร จากเดอะมอลล์ ราม 3, เมเจอร์ฮอลลีวูด

นอกจากนี้ ยังสามารถเดินทางไป MRT สายสีน้ำเงิน สถานี Interchange ศูนย์วัฒนธรรม ในเวลาเพียง 10 นาที (3 สถานี) จากการเชื่อมต่อจากรถไฟฟ้าสายสีส้ม MRT และนั่งต่อไปเพียง 20 นาที ก็จะมาถึง BTS สายสีเขียว สถานีอโศก อีกทั้งรถไฟฟ้าสายสีส้มนี้ ยังเชื่อมต่อไปยังรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ที่ สถานี Interchange ลำสาลี เชื่อมต่อกับโซนลาดพร้าว-รัชดาได้ด้วย โดยความคืบหน้ารถไฟฟ้าสายส้ม (สถานีศูนย์วัฒนธรรม-สถานีสุวินทวงศ์) ปัจจุบันแล้วเสร็จแล้วกว่า 75%

            เนื่องจากเป็นโครงการที่อยู่ใจกลางสิ่งอำนวยความสะดวกและเป็นศูนย์กลางชุมชนสุดฮอต ที่เข้าเมืองก็สะดวก-ออกนอกเมืองก็ง่าย อัตราการปล่อยเช่าของที่นี่จึงเฉลี่ยสูงสุดถึง 8,500-9,500 บาทต่อเดือน (เฉลี่ย 350 บาทต่อตารางเมตร) เฉลี่ย Yield ดี สูงถึง 5.0-5.5%

THE MUVE Bangna (เดอะ มูฟ บางนา) ประกอบด้วย 2 อาคาร จำนวน 464 ยูนิต เริ่มต้นขนาด 1 ห้องนอน อยู่ที่ ตั้งแต่ 22,24 ตารางเมตร และ 1 ห้องนอนพลัส 35 ตารางเมตร ตัวโครงการอยู่ในระยะ 5 นาที จากเซ็นทรัลบางนา, 140 เมตรจาก ICS International School, 450 เมตร จากถนนบางนา, 700 เมตร จาก Raffles American International College และ 1.2 กิโลเมตร จากรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ช่วงลาดพร้าว-สำโรง) สถานีศรีเอี่ยม ที่จะสร้างแล้วเสร็จในกรกฏาคม 2023 ซึ่งหลังจากรถไฟฟ้าสายนี้สร้างเสร็จจะทำให้การเดินทางเข้าเมืองจากตัวโครงการ เข้ารัชดาหรือลาดพร้าว 71 ได้เพียงไม่กี่นาที แถมยังสามารถเชื่อมต่อการเดินทางกับรถไฟฟ้าสายสีแดงและแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ได้ที่สถานีพัฒนาการ รวมถึงเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีส้มได้ที่สถานีลำสาลี และเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่สถานีสำโรง เรียกว่าสะดวกสบายมากๆ

นอกจากนี้บนทำเลเดียวกัน ยังเป็นแหล่งงานสำคัญที่กำลังเติบโตในอนาคตอันใกล้ จากการมาถึงของโครงการอาคารสำนักงานชั้นนำ อาทิ WHA Group ที่มีพื้นที่กว่า 49,732 ตารางเมตร และการมาถึงของโรงพยาบาลระดับเวิล์ดคลาสอย่าง ศูนย์ศัลยแพทย์เฉพาะด้าน WIH ด้วยปัจจัยบวกเหล่านี้ทำให้ตัวโครงการมีอัตราปล่อยเช่าเฉลี่ยถึง 7,000 – 10,000 บาทต่อเดือน (เฉลี่ย 300 บาทต่อตารางเมตร) เฉลี่ย Yield 5.13%

เตรียมพบกับ ‘THE MUVE’ (เดอะ มูฟ) คอนโดซีรีส์ใหม่จากแสนสิริ ที่จะให้คุณได้ใช้ชีวิตแบบ MOVE YOUR LIFE FORWARD ‘สร้างสมการที่ใช่ ให้ชีวิตไปข้างหน้า’ บน 4 ทำเลไลฟ์สไตล์ เกษตร-รัชดา-รามคำแหง-บางนา http://siri.ly/pBBBUl4