สัมมา คีตสิน
กรรมการ บมจ. เสนาดีเวลลอปเม้นท์

หากท่านเป็นผู้มีรายได้ประจำในจำนวนที่เพียงพอ และอยู่ในวัยที่จะต้องมีความรับผิดชอบต่อครอบครัว หรือต้องการสร้างครอบครัว หรือมีความต้องการที่อยู่อาศัยเพื่อการอยู่อาศัยในระยะยาว การมีบ้านอยู่อาศัยโดยเป็นเจ้าของเองเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด และเป็นหนทางสร้างความมั่งคั่งและความมั่นคงในชีวิตได้ดีกว่า เมื่อเทียบกับการเช่าที่อยู่อาศัยของคนอื่นอยู่

มีเหตุผลประกอบอื่นที่สำคัญที่ทำให้ “ความเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัย” ดีกว่า “ความเป็นผู้เช่า”

ประการแรก : ความเป็นเจ้าของ ที่อยู่อาศัย มีค่าใช้จ่ายในระยะยาวน้อยกว่าความเป็นผู้เช่าในระยะยาว การเช่าเป็นประโยชน์เฉพาะต่อเจ้าของผู้ให้เช่า แต่สำหรับผู้เช่าจะเสียเปรียบมาก ยกตัวอย่าง เช่น หากจ่ายค่าเช่าเดือนละ 10,000 บาท คิดเป็นปีละ 120,000 บาท หากจ่ายต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 30 ปี คิดเป็น 3.6 ล้านบาท ทั้งนี้บนสมมุติฐานที่ว่าค่าเช่าไม่ขึ้นเลยตลอดระยะเวลา 30 ปี ซึ่งในความเป็นจริงแล้วเป็นไปไม่ได้ เพราะค่าเช่าย่อมเพิ่มขึ้นตามสภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งจะทำให้ยอดเงินค่าเช่าตลอดช่วงเวลาดังกล่าวสูงกว่า 3.6 ล้านบาท โดยเมื่อคำนวณเพิ่มตามการปรับขึ้นราคาค่าเช่าทุกปี ภาระค่าเช่าอาจเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวในช่วง 5-10 ปีหลัง หรือหากในระหว่างนั้นมีการย้ายที่เช่า ก็ย่อมมีค่าใช้จ่ายขนย้าย ค่าเฟอร์นิเจอร์ใหม่ ค่าตกแต่งใหม่ และอื่นๆ เพิ่มขึ้นอีกแน่นอน

แต่หากเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยเอง ตลอดช่วงระยะเวลายาว 30 ปี มูลค่าของที่อยู่อาศัยมีแต่จะเพิ่ม ดังเห็นได้จากราคาที่อยู่อาศัยสร้างใหม่ขายใหม่ในปัจจุบันเปรียบเทียบกับราคาที่อยู่อาศัยสร้างใหม่ขายใหม่เมื่อ 30 ปีที่แล้ว บนเนื้อที่ดินขนาดเท่ากัน พื้นที่ใช้สอยเท่ากัน ในทำเลเดียวกัน ราคาอาจปรับเพิ่มขึ้นหลายเท่า เช่น ในบริเวณถนนแจ้งวัฒนะ ราคาเพิ่มขึ้นมากกว่า 10 เท่าในช่วงระยะเวลาห่างกัน 30 ปี

ประการที่สอง : ความเป็นเจ้าของ ที่อยู่อาศัย ถือเป็นการใช้ประโยชน์จากเงินของคนอื่น (Other People’s Money - OPM) ซึ่งก็คือการใช้สินเชื่อที่อยู่อาศัย หรือการกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินเพื่อซื้อที่อยู่อาศัย ซึ่งจะทำให้ผู้บริโภคใช้เงินสดของตนเองน้อย ในกรณีซึ่งราคาที่อยู่อาศัยเพิ่มสูงขึ้นและผู้บริโภคสามารถขายออกไปได้ ก็จะเท่ากับเป็นการสร้างผลกำไร และผลตอบแทนที่ได้จากเงินลงทุนจำนวนน้อยนั้นอาจมากมายหลายเท่า ในขณะที่หากลงทุนในตลาดหุ้นหรือลงทุนในสินทรัพย์อื่นๆ ผู้ลงทุนจะไม่สามารถขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินได้หรือขอได้น้อย

ประการที่สาม : ความเป็นเจ้าของ ที่อยู่อาศัย ให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี หากเป็นการเช่าที่อยู่อาศัย ผู้เช่าไม่ได้รับสิทธิในการหักลดหย่อนภาษีที่เกี่ยวข้องกับที่อยู่อาศัยเลย แต่ผู้ซื้อที่อยู่อาศัยโดยการกู้สินเชื่อจากสถาบันการเงินนั้น สามารถรับประโยชน์ได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยจากการหักลดหย่อนเงินที่ชำระเป็นค่าดอกเบี้ยสินเชื่อดังกล่าวจากรายได้พึงประเมิน

ในการคำนวณภาษีเงินได้ประจำปีในแต่ละปี กรมสรรพากรอนุญาตให้ผู้บริโภคสามารถหักลดหย่อนเงินที่ชำระเป็นค่าดอกเบี้ยสินเชื่อที่อยู่อาศัยจากรายได้พึงประเมิน ได้ในวงเงินไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี

ประการที่สี่ : ความเป็นเจ้าของ ที่อยู่อาศัย ก่อให้เกิดการออม เพราะทุกครั้งที่ผู้บริโภคชำระหนี้เงินกู้ที่อยู่อาศัยคือการลดภาระหนี้ลงทีละน้อย หรือเป็นการออมเพื่อสร้างส่วนทุน (Equity) ให้กับตนเอง ดังนั้น หากความเป็นเจ้าของบ้านนานขึ้น มีการชำระหนี้สินเชื่อนานขึ้น ส่วนทุนก็เพิ่มทวีขึ้นทุกขณะ ถือเป็นการออมเพื่ออนาคตที่ชัดเจนจับต้องได้

ดังนั้น หากท่านมีความต้องการที่อยู่อาศัยเพื่ออยู่จริงในระยะยาว การซื้อที่อยู่อาศัยจึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่าการเช่า ทั้งนี้ท่านต้องมีความพร้อม และต้องทำการบ้านศึกษาเรื่องที่อยู่อาศัยที่จะซื้อให้ดีเสียก่อน โดยเลือกซื้อจากผู้ประกอบการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยที่มีชื่อเสียง มีภาพลักษณ์ที่ดี มีความรับผิดชอบต่อสังคม และมีประสบการณ์ในการสร้างและขายที่อยู่อาศัยมานาน