ก่อนที่จะมองหาวิธีการกู้ซื้อบ้าน คุณควรทำความเข้าใจ “อัตราดอกเบี้ยกู้ซื้อบ้าน” เพื่อนำมาใช้ในการตัดสินใจเลือกธนาคารที่จะกู้ได้อย่างเหมาะสม โดย “อัตราดอกเบี้ยกู้ซื้อบ้าน” ซึ่งมีอยู่ 2 ประเภท คือ

อัตราดอกเบี้ยเงินกู้แบบคงที่ (Fixed Rate) 

      อัตราดอกเบี้ยที่ถูกกำหนดไว้เป็นตัวเลขเฉพาะและคงที่ จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงขึ้น-ลงตามความผันผวนของธนาคารหรือต้นทุน โดยธนาคารหรือแหล่งเงินกู้จะกำหนดตัวเลขมาเลยว่า จะต้องเสียอัตราดอกเบี้ยต่อปีกี่เปอร์เซ็นต์ตามเงื่อนไขสัญญา และจะคิดคงที่ตามนี้ในจำนวนปีตามแต่ช่วงเวลาที่กำหนด

อัตราดอกเบี้ยเงินกู้แบบลอยตัว (Floating Rate)

      อัตราดอกเบี้ยที่จะปรับขึ้นหรือลงตามต้นทุนหรือผลประกอบการของธนาคาร โดยจะมีการประกาศจากธนาคารออกมาเป็นระยะ ตามประกาศอ้างอิงอัตราดอกเบี้ยจากธนาคาร ซึ่งผู้ที่ยื่นกู้ซื้อบ้านแต่ละคนจะได้รับอัตราดอกเบี้ยลอยตัวที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความสามารถในการชำระหนี้ ส่วนต่างระหว่างรายได้และรายจ่าย หรือมูลค่าสินทรัพย์ค้ำประกัน ฯลฯ 

ดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านที่มักใช้อ้างอิงในอัตราเงินกู้แบบลอยตัว คือ ดอกเบี้ย MLR และ MRR  คือ

MLR (Minimum Retail Rate) เป็นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ขั้นต่ำที่เรียกเก็บจากลูกค้ารายใหญ่ชั้นดีที่มีประวัติการเงินดี และมีหลักทรัพย์ในการค้ำประกันเพียงพอ ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้กับเงินกู้ที่มีระยะเวลากำหนดที่แน่นอน เช่น สินเชื่อเพื่อการประกอบธุรกิจต่าง ๆ ฯลฯ

MRR (Minimum Retail Rate) เป็นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ขั้นต่ำที่ธนาคารพาณิชย์เรียกเก็บจากลูกค้ารายย่อยชั้นดี (บุคคลทั่วไป) เช่น สินเชื่อที่อยู่อาศัย, สินเชื่อบัตรเครดิต, สินเชื่อส่วนบุคคล เป็นต้น

       โดยส่วนใหญ่ของการกู้ซื้อบ้าน ทางธนาคารจะคิดอัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ให้ในช่วง 1-3 ปีแรก (ขึ้นอยู่กับโปรโมชันและตัวโครงการ) หลังจากนั้นจะเริ่มคิดอัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัว ซึ่งการทำความเข้าใจในตัวอัตราดอกเบี้ยแต่ละแบบจะช่วยทำให้คุณสามารถนำอัตราดอกเบี้ยของแต่ละธนาคารมาคำนวณและเปรียบเทียบกันได้ว่าควรเลือกกู้ซื้อบ้านจากที่ไหนดีถึงจะได้ดอกเบี้ยต่ำตามที่ต้องการนั่นเอง

ประมาณความสามารถในการกู้ของตนเอง

        หลังจากตรวจสอบเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยของแต่ละธนาคารไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คุณยังต้องเลือกกู้สินเชื่อบ้านให้เหมาะสมกับความสามารถในการกู้และความต้องการของคุณเอง เพราะในบางครั้งบ้านที่คุณต้องการจะซื้ออาจไม่สามารถกู้ซื้อบ้านในอัตราดอกเบี้ยต่ำที่สุดได้ แต่คุณสามารถเลือกอัตราดอกเบี้ยที่ดีที่สุดที่เราสามารถจะจ่ายได้ไหวแทนได้

        โดยคุณสามารถเริ่มต้นการประมาณได้จากการคำนวนสินเชื่อเพื่อหาค่างวดที่จะต้องจ่ายตามอัตราดอกเบี้ยของแต่ละธนาคาร พร้อมกับเปรียบเทียบความคุ้มค่าและข้อเสนอของแต่ละธนาคารว่าเป็นไปตามความต้องการหรือไม่ เช่น เปอร์เซ็นต์วงเงินกู้ของราคาประเมินหรือราคาซื้อขาย, ค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ที่ต้องจ่าย, ระยะเวลาในการกู้, ส่วนลดเพิ่มเติม เป็นต้น 

        หลังจากนั้นให้นำข้อเสนอและตัวเลือกทั้งหมดมาคิดเป็นตัวเลข และประมาณถึงความสามารถในการกู้ของตนเองตลอดระยะเวลาการกู้ตามอัตราดอกเบี้ยของแต่ละธนาคารกำหนดเพื่อประกอบการตัดสินใจ ก็จะช่วยทำให้คุณสามารถกู้ซื้อบ้านดอกเบี้ยต่ำในระดับที่คุณพึงพอใจได้มากที่สุด 

>>>>>>>> ค้นหาบ้าน-คอนโดฯมือสอง ง่ายๆ คลิก 

ประกาศขาย บ้าน-คอนโดฯ มือสอ คลิก