สำหรับคนที่กำลังอยู่ในช่วงเวลาของการต่อเติมบ้าน หรือแม้แต่ ซื้อบ้านมือสอง มาแล้วอยาก ต่อเติม บ้านมือสอง โดยเฉพาะบ้านประเภททาวน์โฮมและบ้านเดี่ยว ที่อยากต่อเติมหลังบ้านให้มีพื้นที่ครัวเพิ่มเติม ลองมาดูกันว่ามีเคล็ดลับอะไรบ้างที่จะทำให้การ ต่อเติม บ้านมือสอ เกิดปัญหาน้อยที่สุด หรือสามารถประหยัดเงินได้เป็นแสน

ดูระยะห่างระหว่างอาคารและกฎหมายต่อเติมบ้าน

            สำหรับอาคารชั้นเดียวและอาคารใดๆ ที่มีความสูงไม่เกิน 9 เมตร การ ต่อเติมบ้าน บริเวณพื้นที่หลังบ้านให้เป็นห้องครังหรือห้องซักล้าง ถ้ามีช่องเปิด ต้องเว้นระยะห่างจากที่ดินข้างเคียง ไม่ต่ำกว่า 2 เมตร สำหรับผนังทึบไม่มีหนังช่องเปิด ต้องเว้นระยะห่างจากแนวเขตที่ดินข้างเคียง ต้องเว้นไม่น้อยกว่า 0.5 เมตร ยกเว้นแต่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของที่ดินข้างเคียงแบบเป็นลายลักษณ์อักษร และระยะห่างชายคาและกันสาด ต้องเว้นชายจากแนวเขตที่ดินข้างเคียง 0.5 เมตร

สัญญาว่าจ้าง หรือ งวดเงินและงวดงานผู้รับเหมา

            ในด้านสัญญาว่าจ้างการรีโนเวทบ้านมือสองหรือการต่อเติมบ้าน ต้องเป็นไปตามข้อตกลงของทั้งระหว่างผู้รับจ้างและผู้ว่าจ้าง เพื่อกำหนดการจ่ายเงินให้เป็นงวดๆ ให้สอดคล้องกับงวดงานที่จะแล้วเสร็จ เช่น งวดงานที่ 1 เป็นการเคลียพื้นที่ ตอกเสาเข็มแล้วเสร็จ 100% งวดงานที่ 2 ทำฐานรากเสร็จ 100% ทำตอม่อเสร็จ 50% และงวดงานสุดท้าย เก็บรายละเอียดงาน ทำความสะอาดหน้างาน พร้อมส่งมอบงาน การจ่ายงวดเงิน จ่ายเงินงวดที่ 0 เป็นการวางมัดจำหลังจากทำสัญญางวดที่ 1 ราคา 20% ของราคาก่อสร้างทั้งหมด เพื่อให้การทำงานราบรื่น และแบ่งจ่ายเป็นงวด จนงวดสุดท้ายจ่ายเมื่องานแล้วเสร็จพร้อมส่งมอบ

ด้านการก่อสร้าง

            สำหรับบ้านมือสองส่วนใหญ่ สิ่งที่จำเป็นจะต้องดูคือ ต้องดูการทรุดตัวของบ้าน ไม่ว่าจะเป็นการตอกหรือเจาะเสาเข็ม การต่อเติมบ้านมือสองคือการนำโครงสร้างใหม่เข้าไปร่วมกับโครงสร้างเก่า ซึ่งเป็นการแยกออกจากกัน โดยโครงสร้างเก่าอาจมีการทรุดบ้าง สิ่งที่ควรทำคือต้องป้องกันการทรุดตัว อุดรอยร้าว บริเวณ ผนัง รอยรั่วจากรอยต่อหลังคา หรือรอยร้าวบริเวณมุมประตูและหน้าต่าง โดยควรต้องแนะนำและเน้นย้ำช่างและผู้รับเหมา อาทิ บริเวณผนังส่วนที่ต่อเติมกับผนังบ้านเดิม ซึ่งมักจะเกิดรอยแยกหรือรอยร้าว เนื่องจากไม่มีการตอกเสาเข็ม ปัญหานี้สามารถยืดเวลาได้ โดยการแยกผนังฉาบ ออกจากตัวอาคารเดิม แล้วอุดรอบต่อด้วยวัสดุที่มีความยืดหยุ่น อาทิ โพลียูรีเทน เป็นต้น