DENIM Jatujak คอนโดมิเนียมที่คุณสามารถ “Plan to live unplanned”

 

                  สำหรับ ทำเลจตุจักร นั้นถือว่าเป็นทำเลแห่งอนาคตสำหรับศักราชนี้เลยทีเดียว เพราะอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้ ทำเลจตุจักร จะมีโครงการใหม่ๆเกิดขึ้นมากมาย และนั่นเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ Grand Unity ได้ส่งโครงการคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ใหม่ DENIM Jatujak จตุจักร เข้ามาปักหมุดบนทำเลจตุัจักร บริเวณซอยพหลโยธิน 18 ซึ่งก่อนที่จะไปถึงเรื่องโครงการในอนาคตนั้น TerraBKK ขอย้ำเกี่ยวกับศักยภาพที่เต็มเปี่ยมของ ทำเลจตุจักร อีกครั้งในบทความนี้

ทำเลจตุจักร โอบล้อมด้วยแหล่งงาน ขนาบข้างด้วยสวนใหญ่

ทำเลบริเวณซอยพหลโยธิน18 หรือจตุจักร โดยภาพรวมมีลักษณะของการผสมผสานการใช้ประโยชน์จากอสังหาริมทรัพย์อย่างหลากหลายมากที่สุดแห่งหนึ่ง ด้วยศักยภาพของการใช้ประโยชน์ที่ดินที่สูงมากดังที่ได้กล่าวไปข้างต้น ทำให้ไม่ค่อยพบเห็นบ้านเดี่ยวหรือทาวน์โฮมในทำเลนี้นัก แต่จะเ็ป็นไปในรูปแบบของอาคารสำนักงาน อาคารพาณิชย์ และแหล่งการค้าต่างๆ ยกตัวอย่างเช่น ตลาดนัดจตุจักร, ตลาดนัด อตก., เจเจมอลล์, ตลาดนัดจตุจักรกรีน, สถานีขนส่งผู้โดยสารหมอชิต หรือแม้แต่สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์, สวนรถไฟ และสวนวชิรเบญจทัศ สวนสาธารณะที่มีขนาดใหญ่ทีุุ่สุดอีกแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นจุดเด่นของทำเลจตุจักรที่มีการใช้งานที่หลากหลาย แต่หากมองในแง่ของการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แล้ว ในทำเลจตุจักรอาจมองเห็นการพัฒนาที่น้อยกว่าทำเลใกล้เคียงอย่างช่วงทำเลอารีย์และลาดพร้าว ซึ่งทั้งสองทำเลนี้มีลักษณะเด่นที่ได้เปรียบในด้านของการเป็นชุมชนที่อยู่อาศัยที่เด่นชัดมากกว่า และการเป็นแหล่งรวมอาคารสำนักงานขนาดใหญ่หลายแห่ง จึงทำให้เราจะพบเห็นคอนโดมิเนียมทั้งแบบ High Rise และ Low Rise อยู่ตามช่วงทำเลอารีย์มากกว่านั่นเอง

แต่อย่างไรก็ตามในช่วงทำเลจตุจักรกก็มีแหล่งงานที่สำคัญและสามารถเดินทางเข้าถึงโดยสะดวกประกอบด้วยรัฐและเอกชนอยู่หลายแห่ง อาทิเช่น ธนาคารทหารไทย (สำนักงานใหญ่), สถาบันการบินพลเรือน, สำนักงานขนส่ง, สำนักงานคณะกรรมการ กลต., สำนักงานหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ, สถานีโทรทัศน์ PPTV, บริษัทการบินไทย จำกัด มหาชน, บริษัท เอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ จำกัด, อาคารซันทาวเวอร์, อาคารเล้าเป้งง้วน1, อาคารวังเด็ก และอาคารพงษ์สุภี เป็นต้น ซึ่งแหล่งงานดังกล่าวล้วนอยู่ล้อมรอบบริเวณซอยพหลโยธิน18 ทั้งสิ้น จึงกล่าวได้ว่าเป็นทำเลที่มีศักยภาพในด้านแหล่งงานสูงอีกทำเลหนึ่งเลยทีเดียว

ทำเลจตุจักร ศักยภาพที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง

       TerraBKK Research ได้ทำการเปรียบเทียบเชิงกายภาพ โดยอ้างอิงจากการเปลี่ยนแปลงของพื้นที่ที่มีการก่อสร้างอาคารและพื้นที่โล่งจากภาพถ่ายทางดาวเทียมในโปรแกรม google earth เพื่อหาการเปลี่ยนแปลงเชิงกายภาพของเมืองภายในขอบเขตที่ได้ทำการสำรวจ โดยข้อมูลที่นำมาเปรียบเทียบนั้นเป็นความแตกต่างระหว่างช่วงปี 2001 ซึ่งเป็นปีที่เพิ่งมีการก่อสร้างรถไฟฟ้าบีทีเอสสายสีเขียวได้สองปี (บีทีเอส เปิดให้บริการครั้งแรกในปี 1999) และปี 2017 พบว่าเนื้อเมืองที่มีการเปลี่ยนแปลง โดยมีการเพิ่มขึ้นของอาคารมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด คือตั้งแต่ช่วงทำเลอารีย์ไปจนถึงจตุจักร หรือตั้งแต่ช่วงบริเวณซอยพหลโยธิน4 ไปจนถึงบริเวณห้าแยกลาดพร้าว ซึ่งเป็นทำเลที่นิยมพัฒนาที่อยู่อาศัย เนื่องจากมีอาคารสำนักงานขนาดใหญ่อยู่ตลอดแนว อีกทั้งนับตั้งแต่ปี 2001 เรื่อยมาจนถึงปี 2017 นั้นพบว่าแทบไม่หลงเหลือพื้นที่โล่งที่ปราศจากอาคารเหลืออยู่เลย ยกเว้นแต่บริเวณสโมสรทหารบท ซึ่งเป็นที่ดินของทหารที่ไม่สามารถพัฒนาได้ ซึ่งจะเห็นได้ชัดว่าความนิยมและการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในช่วงทำเลเหล่านี้นั้นได้เกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง

เชื่อมรถไฟฟ้า ใกล้ทางด่วน

พื้นที่โครงการตั้งอยู่บริเวณกลางซอยพหลโยธิน 18/1 ซึ่งมักถูกใช้เป็นเส้นทางลัดระหว่างถนนวิภาวดีรังสิตและถนนพหลโยธิน เนื่องจากซอลพหลโยธิน18 มีความได้เปรียบตรงที่สามารถใช้เพื่อหลีกเลี่ยงการจราจรที่หนาแน่นได้เป็นอย่างดี บริเวณหน้าปากซอยพหลโยธิน18 ติดกับแยกกำแพงเำำพชร ที่สามารถไปได้ทั้งฝั่งอนุสาวรีย์, ห้าแยกลาดพร้าว, กำแพงเพชร หรือทางพิเศษศรีรัชได้ ส่วนฝั่งปากทางซอยวิภาวดี3 ก็อยู่ใกล้กับทางเข้าทางยกระดับอุตราภิมุขได้อย่างสะดวก ไม่ไกลจากจุดยูเทิร์นบนถนนวิภาวดีเพื่อย้อนกลับไปฝั่งดินแดง อีกทั้งยังใกล้ห้าแยกลาดพร้าวที่สามารถไปได้อีกหลายเส้นทางอีกด้วย สำหรับผู้ที่ใช้รถส่วนตัวนั้นถือว่าทำเลนี้เดินทางได้สะดวกสบายเป็นอย่างยิ่ง แต่หากใช้เส้นทางพหลโยธินเป็นเส้นทางหลักตั้งแต่ช่วงทำเลอนุสาวรีย์ไปจนถึงบริเวณห้าแยกลาดพร้าว เป็นเส้นทางที่มีปริมาณรถหนาแน่นตลอดช่วงวันเลยทีเดียว

         สำหรับคนที่เดินเท้าหรือไม่มีรถส่วนตัว พาหนะในการเดินทางหลักคือรถไฟฟ้าบีทีเอสสายสีเขียวและรถไฟฟ้าใต้ดินสายสีน้ำเงิน ซึ่งระยะทางจากพื้นที่โครงการไปถึงรถไฟฟ้านั้น ค่อนข้างไกลและเกินจากระยะการเดินมากทีเีดียว นั่นคือระยะทางประมาณ 1.5 กิโลเมตร สามารถใช้บริการวินมอเตอร์ไซค์ในการไปถึงสถานีรถไฟฟ้าเป็นหลัก โดยมีค่าบริการราคา 20 บาท

เมกะโปรเจ็กต์เปลี่ยนโฉม ทำเลจตุจักร ให้เป็นเมืองแห่งอนาคต

         สำหรับ ทำเลจตุจักร มีโครงการเมกะโปรเจ็กต์ค่อนข้างหลากหลาย ทั้งโครงการจากภาครัฐและภาคเอกชน ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะเป็นโครงการพัฒนาด้านคมนาคมและอสังหาริมทรัพย์ประเภทอาคารสำนักงาน ทำให้ ทำเลจตุจักร จะกลายเป็นทำเลแห่งอนาคตของกรุงเทพตอนเหนือ ที่สามารถสร้างแรงดึงดูดมหาศาลต่อกลุ่มดีมานด์ใหม่ๆเข้ามาในทำเล โดยโครงการเมกะโปรเจคในละแวก ทำเลจตุจักร มีดังนี้

ศูนย์กลางคมนาคมพหลโยธิน Smart City

         โครงการระดับประเทศที่ไม่เพียงแต่จะพลิกโฉมทำเลจตุจักรให้เป็นทำเลแห่งอนาคตเท่านั้น แต่ยังช่วยยกระดับการคมนาคมของประเทศไทยด้วย โดยนอกจากการเป็นศูนย์กลางการเดินทาง ที่เชื่อมทั้ง รถไฟชานเมือง, รถไฟฟ้า และรถไฟความเร็วสูงแล้ว ยังมีการพัฒนาที่ดินให้เป็น Smart City แห่งแรกของกรุงเทพมหานครอีกด้วย

หมอชิต คอมเพล็กซ์

         หลังจากพักโครงการมาเป็นระยะเวลานานกว่า 20 ปี ล่าสุดก็มีความคืบหน้าให้ได้ติดตามกันอีกครั้ง สำหรับโครงการ หมอชิต คอมเพล็กซ์ ที่ตั้งอยู่บนที่ดินราชพัสดุ กรมธนารักษ์ โดยมีการเพิ่มมูลค่าเงินลงทุนเป็น 26,000 ล้านบาท ประกอบไปด้วย ศูนย์การค้า, โรงแรม และอพาร์ตเมนท์

โรงพยาบาล วิมุตติ อินเตอร์เนชั่นแนล

         โรงพยาบาลแห่งแรกภายใต้การพัฒนาของ พฤกษา เรียลเอสเตท บนพื้นที่กว่า 7 ไร่ ริมถนนพหลโยธิน มูลค่าโครงการกว่า 4,900 ล้านบาท โดยเป็นโรงพยาบาลขนาดกลาง จำนวน 254 เตียง จับกลุ่มลูกค้าระดับกลาง

The Rice by ศรีศุภราช

         The Rice by ศรีศุภราช บนหัวมุมแยกสะพานควาย เป็นการพัฒนาอาคารศรีศุภราชเดิม ให้เป็นโครงการมิกซ์ยูสอีกแห่ง มีพื้นที่กว่า 4 ไร่ ที่ประกอบไปด้วย Retail, Shopping Mall และโรงแรมระดับ 4 ดาว

สำรวจตัวเลขคอนโดมิเนียม ย่านจตุจักร-พหลโยธิน

         นอกจากความโดดเด่นที่กล่าวไปข้างต้นของทำเลนี้แล้ว ในแง่ของตัวเลขที่พักอาศัยแนวสูงอย่างคอนโดมิเนียมในย่านนี้ จะมีเป็นอย่างไรบ้าง? ติดตามความน่าสนใจกันดังนี้

         ย่านจตุจักร-พหลโยธิน กลายเป็นทำเลรองรับการพักอาศัยแนวสูงอย่างคอนโดมิเนียมมาช้านาน ย้อนไปสิบกว่าปีที่ผ่านมา ราคาเปิดตัวคอนโดมิเนียมโครงการใหม่เฉลี่ยราว 50,000-60,000 บาทต่อตารางเมตร จากนั้นราคาปรับตัวสูงขึ้นมาเรื่อยๆ ปัจจุบันราคาเปิดตัวเฉลี่ยสูงกว่า 100,000 บาทต่อตารางเมตร ไปเรียบร้อยแล้ว กล่าวได้ว่าคอนโดมิเนียมทำเลจตุจักร-พหลโยธิน มี Presale Growth Average 10.5% เลยทีเดียว

ภาพแสดงตัวเลขคอนโดมิเนียม ย่านจตุจักร-พหลโยธิน

         หากถามว่า การถือครองคอนโดมิเนียมทำเลจตุจักร-พหลโยธิน นั้นสามารถสร้างผลตอบแทนได้เท่าไหร่? ต้องมองไปที่ตัวเลข Cap Gain เฉลี่ยราว 4.5%-7.5% ถือว่าใช้ได้ทีเดียว ปัจจุบันราคาตลาดซื้อขายคอนโดมิเนียมมือสองเฉลี่ย 98,000-150,000 บาทต่อตารางเมตร

         สำหรับนักลงทุนที่ต้องการซื้อคอนโดมิเนียมเพื่อนำมาปล่อยเช่าเป็น Passive Income ตามไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ พบว่า คอนโดมิเนียมทำเลจตุจักร-พหลโยธิน สร้าง Rental Yield เฉลี่ย 4.5-5.5% ด้วยผลตอบแทนค่าเช่าเฉลี่ย 420-620 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน เช่น ห้อง Studio เฉลี่ย 9,900-13,000 บาทต่อเดือน, ห้อง 1 Bedroom เฉลี่ย 14,000-20,000 บาทต่อเดือน, ห้อง 2 Bedroom เฉลี่ย 30,000-43,000 บาทต่อเดือน เป็นต้น

“Plan to live unplanned” ไปกับ DENIM Jatujak คอนโดมิเนียมล่าสุดในทำเลจตุจักร จาก Grand Unity

         ผู้ประกอบการ Grand Unity พัฒนาที่ดินขนาด 9-0-1.6 ไร่ ขึ้นโครงการ DENIM Jatujak คอนโดมิเนียม High Rise มีจำนวน 1,813 ยูนิต รองรับด้วยที่จอดรถ 53% ภายใต้แนวคิด Plan to live unplanned” คอนโดมิเนียมที่ได้วางแผนรองรับการใช้ชีวิตของคุณ อาทิ

  • Plan to live ความพร้อมของพื้นที่ส่วนกลาง (Facilities) สวนสีเขียวกว่า 2 ไร่, Gym มาตรฐานฟิตเนสขนาด 2 ชั้น ที่ลูกบ้านสามารถใช้งานได้ตลอด 24 ชม.
  • Plan to Transport มีบริการ Shuttle Bus รับส่งจากโครงการ ลูกบ้านสามารถเดินทางด้วย MRT - BTS ภายใน 10 นาที และยังแวดล้อมไปด้วยถนนสายหลักและทางด่วน อีกด้วย
  • Plan to invest ไม่ว่าจะเป็นการซื้อเพื่ออยู่อาศัยหรือซื้อเพื่อการลงทุน ก็คุ้มค่าแน่นอน ภายในห้องชุดมีระบบ Home Automation ช่วยทำให้การใช้ชีวิตของคุณง่ายขึ้น

สำหรับข้อมูลด้านราคาเปิดตัว ต้องบอกว่าอดใจรอกันสักหน่อย คงได้ทราบกันอย่างแน่นอน ผู้ที่สนใจโครงการ DENIM Jatujak สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ http://denim.jatujak.grandunity.co.th/ หรือ โทร. 02-652-4000 ได้แล้วตั้งแต่วันนี้

ขอบคุณข้อมูลจาก www.grandunity.co.th