เคยสงสัยกันไหมว่าร่างกายของเรามีขีดจำกัดอยู่ตรงไหน เราสามารถเพิ่มศักยภาพร่างกายเทียบเท่าได้ดั่งซูเปอร์ฮีโร่หรือไม่ วันนี้ทาง Terrabkk จะขอแนะนำเทคโนโลยีที่จะทำให้เราสามารถรู้ถึงเรื่องพวกนี้ได้และอาจจะเป็นที่พูดถึงมากขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ นั้นคือเทคโนโลยี Bio-hacking

          ศาสตราจารย์รอน ชิเกตา (Ron Shigeta) แห่ง Berkeley BioLabs ในแคลิฟอร์เนีย ได้กล่าวว่า “Bio-hacking คือ อิสระในการค้นพบชีวิตที่คุณสามารถเป็นได้ดั่งในนิยาย”ถ้าผู้ใดล่วงรู้ศักยภาพในร่างกายตนเอง ผู้นั้นย่อมหาสูตรลัด เพื่อค้นพบวิธีเพิ่มศักยภาพของตัวเองได้"

SOUCRE : https://mediworldme.com/researchers-develop-ultrathin-highly-elastic-skin-display/

แล้ว Bio-hacking คืออะไร???

          มันคือเทคโนโลยีที่ใช้ในการ แฮ็ค ร่างกายของมนุษย์ หรือการเข้าไปรบกวนการทำงานต่างๆ ของร่างกาย โดยมีเป้าหมายเพื่อทำให้ร่างกายของเราทำงานได้แข็งแรงขึ้น เร็วขึ้น และดีขึ้น หรือถ้าพูดง่ายๆคือ เทคโนโลยีที่ทำให้เราสามารถเข้าใจร่างกายของเราได้ดียิ่งขึ้น และนำไปปรับปรุงร่างกายของเราให้แข็งแรงยิ่งขึ้นในแบบเฉพาะของตัวเอง

          Bio-hacking ไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่คิด ไม่ใช่การใช้อุปกรณ์วิทย์ศาสตร์เยอะแยะมากมายเหมือนในหนัง ไม่จำเป็นต้องใช้ห้องทดลองที่วุ่นวาย อาจเป็นเรื่องง่ายๆ เป็นการทดลองง่ายๆ เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพและสมรรถภาพของร่างกายเราเองก็ได้ เช่น การทดลองกินอาหารแบบแปลกๆ เช่น กินอาหารแบบ Intermittent Diet คือกินอาหารเป็นช่วงๆ ในแต่ละวัน (เช่น ใช้เวลากินแค่ 8 ชั่วโมงเท่านั้น) หรือการลองหยุดดื่มเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ การลองงดกินน้ำตาล ไล่เลยไปถึงการหาว่าตัวเองแพ้อะไรในอาหารบ้าง แล้วงดบริโภคสิ่งนั้นๆ เช่น แพ้กลูเตนก็งดกินกลูเตน ฯลฯ ก็ถือได้ว่าเป็น Bio-hacking อย่างหนึ่งเหมือนกัน

          แต่เราไม่จำเป็นที่จะต้องมานั่งเก็บข้อมูล  มานั่งจดบันทึกให้วุ่นวาย เพราะในปัจจุบันมีเทคโนโลยี Wearable รูปแบบต่างๆ ที่ทำหน้าที่เป็น Bio-tracking เพื่อเป็นเครื่องมือในการวัดความสามารถในร่างกายของเรา สามารถวัดการเต้นของหัวใจในโซนต่างๆ วัดก้าวเดิน การเคลื่อนไหว ความเครียด รวมถึงความสามารถในการนอนหลับ ซึ่งเมื่อได้ข้อมูลเหล่านี้มา แล้วระบบสามารถคำนวณออกมาเป็นชุดข้อมูลที่ตอบโจทย์การใช้งานได้มากขึ้น หรือที่ เรียกว่า Bio-awareness เพื่อค้นหาความสัมพันธ์ระหว่างผลลัพธ์และความสัมพันธ์ของกิจกรรมที่ทำอยู่ ณ ขณะนั้น ท้ายที่สุดจึงมาถึงยุคแห่ง Bio-hacking ที่สามารถสร้างกลไกในร่างกายและความรู้สึกให้เป็นไปตามโปรแกรมที่วางไว้ได้ เช่น นาฬิกา Smart watch

          ปี 2019 นี้ Bio-hacking การใช้วิทยาศาสตร์ชีววิทยาและเทคโนโลยีเข้าไปจัดการกับระบบร่างกายมนุษย์ เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ เพิ่มสมรรถภาพของร่างกาย จะไม่ได้ถูกจำกัดแค่แสดงค่าออกมาและทำให้ผู้ใช้ได้รับรู้ข้อมูล แต่เป็นการที่ข้อมูลเหล่านั้นสามารถตอบสนองกลับมายังร่างกาย และสามารถพัฒนาสมรรถนะร่างกายของมนุษย์  ในงาน SXSW ปี 2018 ได้ให้ความสำคัญของเทคโนโลยีประเภทนี้ไว้ว่าจะเป็นความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของผู้คนในปี 2020

SOUCRE : https://www.juniperresearch.com/home

          บริษัท Juniper Research บริษัทวิจัยทางการตลาดคาดการณ์ว่าตลาดของอุปกรณ์สวมใส่ประเภทนี้ จะมีมูลค่าสูงถึง 350 ล้านเครื่องในปี 2020 และกระจายไปยังตลาดสินค้าประเภทเสื้อผ้าอัจฉริยะ หรืออุปกรณ์ที่ผู้สวมใส่ไม่รู้สึกว่าต้องเพิ่มเครื่องมือใดๆ ในร่างกาย อุปกรณ์อัจฉริยะในอนาคตจะเริ่มผสมผสานกับสิ่งของเครื่องใช้ที่ถูกใช้งานในชีวิตประจำวัน ไม่ใช่เพียงแค่ตอนออกกำลังกาย โดยประเมินว่าสินค้าเสื้อผ้าอัจฉริยะจะเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมหลักที่ทำให้เทคโนโลยีนี้ มีโอกาสแสดงศักยภาพในการทำงานได้อย่างเต็มที่ ซึ่งคาดการณ์ว่าจะสามารถเพิ่มจำนวนการผลิตเพื่อรองรับการใช้งานถึง 30 ล้านชิ้นภายในปี 2022 และนอกจากประสิทธิภาพ ในการจัดการระบบร่างกายแล้ว อุปกรณ์ยังต้องสามารถจัดการระบบพลังงานในตัวเองได้ โดยไม่ทำให้ผู้ใช้งานรู้สึกติดขัดหรือเกิดอุปสรรคในการใช้งานในความถี่ทุกๆ วัน 

          ความหลากหลายของเทคโนโลยี Bio-hacking คงจะไม่ได้หยุดแค่สายรัดข้อมือสำหรับออกกำลังกายอย่างแน่นอน ซึ่งทาง Terrabkk เชื่อว่าในอนาคตอันใกล้นี้ เทคโนโลยี Bio-hacking จะเข้ามามีบทบาทในการดำเนินชีวิตประวันของเรามากยิ่งขึ้น เพื่อที่จะทำให้เราสามารถเข้าใจในศักยภาพของร่างกายตัวเอง สามารถตรวจสอบร่างกายตัวเองเวลามีอาการผิดปกติจนไปถึงป้องกันเหตุต่างๆที่อาจเกิดขึ้นจากภายในร่างกายของเราและสามารถทำให้เราสามารถจัดการกับสุขภาพของเราได้ดียิ่งขึ้น

SOUCRE : https://thegadgetflow.com/portfolio/siren-smart-socks-diabetics/

ข้อมูลอ้างอิงจาก : เจาะเทรนด์โลก 2019 โดย TCDC