MAZARINE บนทำเลรัชโยธินกับเหตุผลว่าทำไมจึงบูมข้ามปี?

           “รัชโยธิน” หนึ่งในทำเลฮอตข้ามปีที่มีกระแสมาตั้งแต่ปี 60 ครั้งนี้หลายคนน่าจะแปลกใจเพราะไม่ใช่ทั้งทำเลใจกลางเมืองอย่างสีลม ไม่ใช่แหล่งออฟฟิศหนาแน่นอย่างสุขุมวิท ไม่ได้ติดรถไฟฟ้าสายปัจจุบัน แต่ทำไมยังฮอทฮิตติดตลาดได้นานข้ามปีขนาดนี้ ซึ่ง TERRABKK เองก็เชื่อว่าปรากฎการณ์นี้คงไม่ใช่แค่รถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายอย่างเดียวที่ทำให้ทำเล รัชโยธินกลายเป็นทำเลอันแสนหอมหวาน แต่จะมีปัจจัยอื่นใดอีกนั้น วันนี้เราจะมาช่วยกันไขข้อสงสัยผ่านบทความนี้กัน

แหล่งงานคุณภาพเน้นๆ

แม้ รัชโยธิน จะไม่ใช่แหล่งงานอันดับหนึ่งที่คนจะนึกถึง แต่ก็เต็มไปด้วยบริษัทคุณภาพมากมาย ซึ่งเมื่อทีมงานสำรวจอย่างละเอียดแล้วพบว่าบรรดาบริษัทหรือแหล่งงานแถวนั้น ล้วนเป็นกลุ่มคนที่มีกำลังซื้อปานกลาง-สูง ไม่ว่าจะเป็นพนักงานธนาคารจาก SCB Park และสำนักงานใหญ่ทหารไทย, กลุ่มธุรกิจขุดเจาะน้ำมันและก๊าซ อย่าง Chevron, CUEL, กลุ่มปตท.และกระทรวงพลังงานที่จะมีทั้งนักวิศวกรและ Expat ยังไม่รวมถึงอาคารสำนักงานใกล้เคียงที่อยู่ในละแวกนั้นทั้ง รสา ทาวเวอร์, ชินวัตร ทาวเวอร์ 3, ตึกช้าง ที่ผู้เช่าออฟฟิศส่วนใหญ่จะอยู่ในกลุ่มอาชีพวิศวกรรมหรือเป็นสาขาจากต่างประเทศ

“พหลโยธิน” นำร่อง Smart City แห่งแรกในกรุงเทพฯ

เป็นข่าวดีสำหรับชาวรัชโยธินอีกข่าว ที่พหลโยธินทำเลเพื่อนบ้านจะกลายเป็นทำเลนำร่อง Smart City แห่งแรกในกรุงเทพฯ ซึ่งต่างก็ลงความเห็นว่า พหลโยธินเหมะที่สุดที่จะเป็นทำเลแรกในกรสร้งเป็น Smart City เพราะพหลโยธินมีแหล่งการค้า ย่านธุรกิจ และในอนาคตพหลโยธินจะเป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนาดใหญ่ที่มีทั้งระบบรางรถไฟ รถตู้ รถบัส และรถประจำทางสาธารณะ แต่ปัจจุบันอย่างที่ทราบกันดีว่าถนนเส้นพหลโยธินมีปัญหาด้านการจราจร นี่จึงเป็นสาเหตุสำคัญที่ต้องใช้ระบบขนส่งอัจฉริยะ รวมถึงการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีให้เหมาะสมเพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้

โดยโมเดล Smart City ของย่านพหลโยธินนี้จะถูกปั้นให้เป็น “เมืองใหม่รอบสถนีรถไฟ” เพราะในอนาคตพหลโยธินจะเป็นศูนย์กลางคมนาคมที่สำคัญของกรุงเทพฯ บนพื้นที่กว่า 2,525 ไร่ ที่มีทั้งสถานีกลางบางซื่ออันเป็นจุดเชื่อมต่อการเดินทางทั้งระบบรางและถนน รวมไปถึงการพัฒนาพื้นที่รอบข้างตามแนวคิด TOD หลายคนอาจจะสงสัยว่า เอ.... TOD (อ่านว่า ที-โอ-ดี) คืออะไร TERRABKK จะขออธิบายคร่าวๆว่า TOD นั้นย่อมาจาก Transit-Oriented Development เป็นแนวคิดในการพัฒนาพื้นที่โดยรอบสถานีขนส่งมวลชนให้มีการพัฒนาที่ดินอย่างหลากหลายและเกิดประโยชน์แก่ชุมชนมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่สีเขียว, ที่อยู่อาศัย, พื้นที่พาณิชยกรรม ทั้งหมดจะถูกผสมผสานให้ผู้ที่อยู่ในเมืองนี้เดินทางสะดวกที่สุด ง่ายที่สุด ใกล้โรงเรียน ใกล้ที่ทำงาน โอ้โห นี่มันเมืองในฝันชัดๆ ใครสนใจแนวคิด TOD หรืออยากจะศึกษาเพิ่มเติม ลองเข้าไปอ่านที่นี่ได้เลย - คลิก

แต่!! ความตื่นเต้นยังไม่จบเพียงเท่านี้ เพราะนอกจากการพัฒนาพื้นที่อย่างเมืองในฝันแล้ว ล่าสุดรัฐบาลเตรียมทุ่มงบ 40,000 ล้านบาท เพื่อวางให้ “ถนนเส้นพหลโยธิน” เป็น Smart City แห่งแรกในกรุงเทพมหานคร ซึ่ง Smart City นี้จะเข้ามาช่วยให้เมืองน่าอยู่มากยิ่งขึ้น นอกจากจะเดินทางสะดวกแล้วยังเปลี่ยนให้กลายเป็น “เมืองอัจฉริยะ” ด้วยการนำเทคโนโลยีเข้ามา support ในด้านต่างๆ เช่น การนำระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ (GIS) รวบรวมข้อมูลด้านต่างๆ ของเมือง ไม่ว่าจะเป็นกล้องวงจรปิด ข้อมูลจราจรมารวมกันไว้ในแผนที่เดียวและสามารถระบุพิกัดได้

ซึ่งโมเดล Smart City นี้น่าจะเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้นภายในปลายปีนี้ แต่ถึงอย่างไรเราคงได้เห็นการเปลี่ยนแปลงอีก มากบนถนน แห่งนี้เพราะกำลังเป็นทำเลที่เป็นจุดสนใจทั้งภาครัฐและเอกชนที่ต่างก็ร่วมมืออยากจะให้ กลายเป็นทำเลต้นแบบให้กับทำเลอื่นๆในกรุงเทพมหานคร

ที่มาwww.ops.moe.go.th

รัชโยธิน: The Lifestyle District of the North CBD

ต้องบอกว่าเดี๋ยวนี้ ชาวรัชโยธิน แทบไม่จำเป็นจะต้องเข้าไปหาแหล่งไลฟ์สไตล์ในเมืองอีกแล้ว เพราะว่าที่ทำเลรัชโยธิน คือศูนย์รวมไลฟ์สไตล์ที่ครอบคลุมเพียงพอ ตั้งแต่แนวเส้นถนนพหลโยธินจนมาถึงแยกรัชโยธินที่ครึกครื้นตลอดทั้งวันจนถึงค่ำ เพราะมี Community Mall อย่าง ดิ อเวนิวรัชโยธิน เมเจอร์รัชโยธิน รวมไปถึง Box Space ที่มีทั้งแหล่งรวมความบันเทิงภายในและตลาดนัดที่ด้านหน้า ทำให้รัชโยธินเป็นทำเลที่รวมไลฟ์สไตล์ครบจบทั้งกิน ดื่ม เที่ยว

จากรัศมีของ Surrounding แต่ละประเภท พบว่ารัชโยธินมีสิ่งอำนวยความสะดวกครอบคลุมทุกประเภท ทั้งแหล่งช้อปปิ้ง สถานศึกษา และโรงพยาบาล

ต้นสายของรถไฟฟ้าสีเขียวส่วนต่อขยาย (ส่วนเหนือ)

อีกหนึ่งปัจจัยหลักที่หลายคนน่าจะพอทราบกันดี นั่นก็คือ รถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียวหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ที่กำลังก่อสร้างอยู่ รวมไปถึงอุโมงค์แยกรัชโยธินที่หลายคนเฝ้ารอเพื่อจะได้บรรเทาปัญหารถติดของแถวนี้ไปได้บ้าง ซึ่งก็เป็นข่าวดีที่อุโมงค์นี้จะเสร็จและเปิดใช้บริการภายในสิ้นปี 2561นี้ ส่วนรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายนั้นมีแพลนที่จะเปิดใช้บริการในปี 2563 อดใจรออีก 2 ปีเท่านั้นเอง

แต่ถามว่าแล้วมีรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายมันน่าตื่นเต้นตรงไหน เพราะเดี๋ยวนี้ ก็ขยายไปทั่วเมืองแล้ว เมื่อเราลองพิจารณา เส้นทางรถไฟฟ้าสำยสีเขียวหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต พบว่าตรงแถว “พหลฯ-เกษตร” ถือเป็นต้นสายที่อยู่ใกล้สถานีหลักอย่าง สถานีหมอชิตอันเป็นจุดเชื่อมต่อการเดินทางที่สำคัญอีกแห่ง ทั้งรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT รถตู้ รถทัวร์ ทำให้การเดินทางโซนนี้ง่ายยิ่งขึ้นกว่าเดิม ในอนาคตอีก 2 ปีข้างหน้าเมื่อรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายแล้วเสร็จจะยิ่งเปลี่ยนโฉมทำเลนี้มากยิ่งขึ้น

ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ใครๆ ก็ปักหมุดพหลฯ-เกษตร

ความฮอตของทำเลนี้ ไม่ได้การันตีด้วยราคาเพียงอย่างเดียว สังเกตโครงการเปิดใหม่ในปี 2018 นี้ที่เปลี่ยนโฉมหน้า กลายเป็นเจ้ายักษ์ใหญ่แห่งวงการอสังหาฯ ทั้งนั้นหรือแม้กระทั่งดาวรุ่งพุ่งแรงอย่าง Grand Unity ก็ยังมาจับจองที่ดินในทำเลนี้เช่นกัน พร้อมส่งแบรนด์น้องใหม่อย่าง MAZARINE Ratchayothin เป็นหนึ่งโครงการใหม่ในทำเลนี้ด้วย

โดย MAZARINE Ratchayothin ถือเป็นโครงการแรกที่เป็นแบรนด์ใน Segment Luxury ของ Grand Unity เป็นโครงการสูง 37 ชั้นจำนวน 474 ยูนิต มีจุดเด่นอยู่ที่หน้าโครงการติดบันไดรถไฟฟ้าสายสีเขียวสถานีรัชโยธิน

จากภาพทั้งหมดที่ TerraBKK นำมาให้ดูคือภาพปัจจุบันและอนาคตของทำเลพหลโยธิน ที่ต้องยอมรับว่ามาแรงสม คำร่ำลือจริงๆ ไม่ว่าจะด้วยตัวทำเลเองที่มีอะไรใหม่ๆไม่หยุดและตลาดคอนโดมิเนียมเองที่จะพลิกโฉมทำเลที่เคยเงียบเหงา กลายเป็นทำเลใจกลางเมืองอีกแห่งที่ทุกคนก็อยากเป็นเจ้าของ

สำหรับใครที่อยากทราบข้อมูลเพิ่มเติมของโครงการ MAZARINE Ratchayothin สามารถลงทะเบียนขอรับข้อมูลโครงการ และส่วนลดพิเศษก่อนใครได้ที่ https://bit.ly/2BfF5Vy หรือโทร. 02-652-4000้