การพัฒนาที่ดินขึ้นโครงการแนวราบทำเลใจกลางเมืองดูจะเป็นเรื่องยากขึ้นทุกปี ด้วยข้อจำกัดด้านต้นทุนที่ดินและขนาดแปลงที่ดิน “โครงการบ้านหรูกลางเมือง” อาจตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยกลางเมืองได้ แต่ก็ต้องยอมรับว่า ด้วยทำเลที่ตั้ง มีผลโดยตรงกับราคาที่ดิน ทำให้ขนาดที่ดินของบ้านเดี่ยวหรูกลางเมือง ย่อมมีขนาดเล็กกว่า ขนาดที่ดินบ้านหรูชานเมือง ซึ่งแม้ว่าโครงการบ้านหรูชานเมืองจะอยู่ห่างจากเมืองออกไปบ้าง แต่ยังสามารถเดินทางเข้าออกเมืองได้อย่างสะดวก แวดล้อมไปด้วยสถานที่สำคัญ ก็ดูน่าสนใจดีสำหรับการมองหาบ้านหรูหลังใหม่ของลูกบ้าน ดังนั้น ลองมาศึกษากันว่า นอกจากพื้นที่กลางเมืองแล้ว พื้นที่ชานเมืองทำเลใดที่จะสามารถพัฒนาขึ้นโครงการบ้านหรู ได้บ้าง? จากปัจจัยสำคัญด้านการเดินทางและปัจจัยด้านสิ่งอำนวยความสะดวกการใช้ชีวิต ดังนี้

  ทำเลที่ตั้ง โครงการบ้านหรู เป็นอย่างไร ?  

1.ทำเล โครงการบ้านหรู ต้องสะดวกต่อการเข้าออกเมือง

          พื้นที่ฝั่งตะวันตกของกรุงเทพมหานคร ถนนสายหลักในการสัญจรมักเป็นถนนกาญจนาภิเษก (วงแหวนรอบนอก) และถนนราชพฤกษ์ ซึ่งสามารถเชื่อมต่อถนนเข้าสู่ใจกลางเมืองได้อย่างสะดวก อาทิ ถนนบรมราชชนนี ไปยัง ปิ่นเกล้าและสนามหลวง, ถนนเพชรเกษม ไปยัง วงเวียนใหญ่สู่ใจกลางเมืองย่านเยาวราช, ถนนกรุงธน ไปยัง ใจกลางเมืองสาทร-สีลม เป็นต้น รวมทั้ง เชื่อมต่อทางด่วนพิเศษศรีรัช-วงแหวนรอบนอก ไปยัง ประชาชื่น และทางพิเศษเฉลิมมหานคร ไปยัง พระราม3 จึงเห็นได้ว่า ทำเลราชพฤกษ์ เป็นหนึ่งทำเลเหมาะสมสำหรับโครงการบ้านหรูฝั่งตะวันตกของกรุงเทพ

          แต่ในขณะเดียวกัน พื้นที่ฝั่งตะวันออกของกรุงเทพ ซึ่งมีความใกล้ชิดเมืองมากกว่า ความหนาแน่นของที่พักอาศัยยังไม่มากเท่าไหร่ และยังสามารถเลือกใช้ถนนเข้าออกเมืองได้หลากหลายสาย ทางด่วนพิเศษจึงเป็นจุดเด่นที่โครงการบ้านหรูให้ความสำคัญ อาทิ ทางพิเศษบูรพาวิถี, ทางพิเศษฉลองรัช, ทางพิเศษศรีรัช เป็นต้น จึงมักเห็นโครงการบ้านหรูเกิดขึ้นใน ทำเลบางนา, ทำเลรามอินทรา รวมทั้ง ทำเลกรุงเทพกรีฑา ซึ่งล่าสุดมีการก่อสร้างเส้นทางสัญจรเพิ่มเติมอย่าง “โครงการถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า” คาดว่าจะเปิดใช้บริการภายในปี 2561 นี้ ยิ่งทำให้การเดินทาง ย่านกรุงเทพกรีฑา สะดวกคล่องตัวมากขึ้น

           นอกจากนี้ ยังมี โครงการรถไฟฟ้าสายสีต่างๆ ทยอยก่อสร้างเปิดบริการทั่วพื้นที่กรุงเทพมหานคร เพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทางในวันที่ลูกบ้านไม่ต้องการขับรถ “โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน” วิ่งครบลูปเชื่อมต่อการเดินทางฝั่งตะวันตกเข้าสู่ใจกลางกรุงเทพในปี 2563 ด้านตะวันออกของกรุงเทพมหานครจะเป็น “โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม” จากมีนบุรีเข้าสู่ใจกลางเมือง(ย่านรัชดาภิเษก-พระราม9) ในปี 2566 และ “โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง” สัญจรเหนือใต้ตัดกับรถไฟฟ้าสายสีส้มในย่านหัวหมาก เป็นต้น

2.ทำเล โครงการบ้านหรู ต้องแวดล้อมด้วย สิ่งอำนวยความสะดวก ครบพร้อม

           ปัจจัยสำคัญในการดำเนินชีวิต นอกจากสถานที่ทำงานสำหรับผู้ปกครองแล้ว หลายครอบครัวที่มีลูกในวัยเรียน ทำให้สถานศึกษากลายเป็นหนึ่งสถานที่โครงการบ้านหรูให้ความสำคัญเช่นกัน โดยเฉพาะ “โรงเรียนนานาชาติ” ส่งเสริมทักษะด้านภาษาสอดคล้องกับสังคมยุคใหม่ นอกจากพื้นที่ใจกลางเมืองแล้ว พื้นที่ฝั่งตะวันออกของกรุงเทพถือเป็นหนึ่งทำเลชื่อดังด้านโรงเรียนนานาชาติ เช่นกัน อาทิ โรงเรียนนานาชาติร่วมฤดี ,โรงเรียนนานาชาติไบรท์ตัน, โรงเรียนนานาชาติ แอ๊ดเวนต์รามคำแหง , โรงเรียนบางกอกพัฒนา และโรงเรียนนานาชาติเวลลิงตัน เป็นต้น

           หนึ่งความอุ่นใจในการเลือกทำเลที่อยู่อาศัยคงเป็นเรื่องการรักษาโรคภัยไข้เจ็บ การพิจารณาเลือกทำเลที่ตั้งโครงการบ้านหรูจำเป็นต้องคำนึงถึงส่วนนี้ หากมองหา “โรงพยาบาลระดับมาตรฐานสากล” ได้รับการรับรองคุณภาพ Joint Commission International (JCI) ล่าสุดในปี 2560 ในประเทศไทยมีทั้งหมด 45 แห่ง เป็นโรงพยาบาลในกรุงเทพมหานครกว่า 23 แห่ง กระจายตัวทั่วพื้นที่ อาทิ โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ในพื้นที่ฝั่งตะวันตกของกรุงเทพมหานคร , โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ในพื้นที่ใจกลางกรุงเทพมหานคร เป็นต้น ด้านฝั่งตะวันออกของกรุงเทพมหานคร โดดเด่นในย่านบางกะปิ-หัวหมาก ถึง 3 แห่ง นั้นคือ โรงพยาบาล สมิติเวช ศรีนครินทร์, โรงพยาบาลรามคำแหง และโรงพยาบาล เวชธานี

            แน่นอนว่า ศูนย์การค้ารองรับลูกบ้านมีฐานะของโครงการบ้านหรูมักอยู่ใจกลางเมือง อย่างพื้นที่ใจกลางสยาม อาทิ สยามพารากอน ขนาด 500,000 ตารางเมตร และ เซ็นทรัลเวิลด์ ขนาด 550,000 ตารางเมตร เป็นต้น รวมทั้งแหล่งช้อปปิ้งติดสถานีรถไฟฟ้าในเมือง เช่น เอ็มโพเรียม และ ดิ เอ็มควอเทียร์ เป็นต้น สำหรับ พื้นที่ชานเมืองกรุงเทพ มีศูนย์การค้าขนาดใหญ่รองรับเช่นกัน หากเป็นฝั่งตะวันตกของกรุงเทพ จะพบได้ในย่านปิ่นเกล้าและย่านบางแค และสิ่งที่สร้างกระแสได้แรงที่สุดในฝั่งนี้ นั้นคือ “เซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต” ขนาดกว่า 500,000 ตารางเมตร ใหญ่ที่สุดในฝั่งตะวันตกของกรุงเทพ ขณะเดียวกัน ฝั่งตะวันออกของกรุงเทพ จะพบศูนย์การค้าได้ตลอดย่านศรีนครินทร์และย่านบางกะปิ พร้อมกับหลากหลายสถานที่สร้างกระแสแรงไม่แพ้ใคร เช่น “เมกาบางนา” ขนาดกว่า 400,000 ตารางเมตร ที่อนาคตจะยกระดับเป็น “เมกาซิตี้” Mixed-use Project ขนาดใหญ่ ครอบคลุมทั้งศูนย์การค้า, สถาบันการศึกษา, คอนโดมิเนียม และสวนสาธารณะ รวมทั้ง โครงการอนาคต “แบงค็อก มอลล์” พื้นที่กว่า 650,000 ตารางเมตร ประกอบด้วย ศูนย์การค้า, สวนน้ำ, สวนสนุกขนาดใหญ่, คอนโดมิเนียม และออฟฟิศครบวงจร คาดว่าอาจเป็นศูนย์การค้าใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกจากนี้ ยังมีอีกหนึ่งแห่งที่เรียกว่าเป็นที่สุดของประเทศไทย นั้นคือ “The Super Tower” สูง 125 ชั้น พื้นที่ก่อสร้างกว่า 320,000 ตารางเมตร บนถนนรัชดาภิเษก-พระราม 9 ที่จะเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของกรุงเทพมหานครและอาเซียน ความคืบหน้าล่าสุดอยู่ในขั้นตอนการทดสอบความแข็งแกร่งของเสาเข็ม

            นอกจาก 2 ปัจจัยข้างต้น โครงการบ้านหรูเหล่านี้ มักแวดล้อมด้วยสังคมที่มีหมู่บ้านจัดสรรระดับราคาเดียวกัน หากเป็นโครงการบ้านหรูในเมือง มักเกาะกลุ่มอยู่ใน ทำเลเอกมัย-ทองหล่อ-สุขุมวิท ขณะที่ฝั่งตะวันตกของกรุงเทพมหานคร จะพบใน ทำเลราชพฤกษ์-ปิ่นเกล้า-พระราม 2 สำหรับโครงการบ้านหรูฝั่งตะวันออกของกรุงเทพมหานคร จะพบได้ในทำเลรามอินทรา, ทำเลกกรุงเทพกรีฑา-พระราม9 และทำเลบางนา ทั้งหมดล้วนเป็นทำเลที่สามารถเดินทางเข้าออกเมืองได้อย่างสะดวก และมีสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานการใช้ชีวิตพร้อมครบ

  ลักษณะบ้านหรู 20 ล้าน กรุงเทพ เป็นอย่างไร ?  

          โครงการบ้านหรูจับกลุ่มเป้าหมายรายได้สูง การสร้างสรรค์โครงการบ้านหรูจึงไม่ใช่แค่ความสวยงาม แต่ยังคำนึงถึงความคุ้มค่าในการอยู่อาศัย นอกจากจุดเด่นเรื่องของทำเลที่กล่าวไปข้าวต้นแล้ว ยังมีรายละเอียดต่าง ๆ เป็นปัจจัยสำคัญในการพิจารณาเลือกซื้อบ้านหรู ดังนี้

1.สิ่งอำนวยความสะดวกโครงการ

          พื้นที่ส่วนกลางของโครงการบ้านหรู มักขึ้นอยู่กับขนาดโครงการเป็นหลัก โครงการบ้านหรูกลางเมือง บนแปลงที่ดินไม่ใหญ่ จำนวนบ้านน้อยหลัง อาจจะพบว่ามีพื้นที่ส่วนกลางบางส่วนขาดหายไป เช่น สระว่ายน้ำส่วนกลาง เพราะภายในตัวบ้านมีสระว่ายน้ำส่วนตัว เป็นต้น ขณะเดียวกัน โครงการบ้านหรูชานเมือง มักเป็นโครงการขนาดใหญ่ พื้นที่ส่วนกลางจึงเป็นหนึ่งจุดขายสำคัญ ลักษณะที่พบเห็นได้ในหลายโครงการ “ทางเข้าโครงการ” สร้างความหรูหราแก่โครงการ ถัดมาจะเป็นบรรยากาศความร่มรื่นภายในโครงการ “ระบบไฟฟ้าใต้ดิน” โล่งสบายตาสร้างทัศนียภาพที่ดี “ทะเลสาบ” และ “สวนสีเขียว” สำหรับการวิ่งออกกำลังกาย “คลับเฮ้าส์หรู” รองรับหลากหลายกิจกรรม นอกจากการออกกำลังกายอย่าง ฟิตเนส หรือ สระว่ายน้ำแบบน้ำล้น มีมุม Jacuzzi แล้ว บางโครงการยังมีบริการ นวดไทย , ซาวน่า เพิ่มเติมอีกด้วย “ความกว้างของถนน” เฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 9 เมตร บางโครงการมีถนนเมนกว้างถึง 22 เมตร เป็นต้น

2. ระบบความปลอดภัยโครงการ
           นอกจาก เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง และ ระบบ CCTV ภายในโครงการ หลากหลายโครงการบ้านหรูยังนำเอาเทคโนโลยี security system สร้างความสะดวกสบายในการเข้าออกโครงการแก่ลูกบ้าน เช่น ระบบ Easy Pass ประตูเปิดเองเมื่อรถยนต์ลูกบ้านเข้ามาใกล้, ระบบรักษาความปลอดภัยเเบบ Double Security แยกส่วน Guest Area และ Residential Area เป็นต้น

3. รูปแบบบ้านหรู
           ความสร้างสรรค์ในการออกแบบบ้านหรู นอกจากจุดยืนด้านความหรูหราโออ่าแล้ว บางโครงการยังเน้นจุดขายด้านความร่มรื่นของธรรมชาติ เช่น บ้านทรง U-SHAPE เพิ่มพื้นที่เปิดรับพื้นที่สีเขียวภายในบ้าน เป็นต้น โครงการบ้านหรูน้อยหลังบนที่ดินจำกัด มักออกแบบทรงโมเดิร์น เป็นสไตล์ที่ตรงกับความต้องการของคนรุ่นใหม่ และเลือกใช้กระจกเพิ่มความโปร่งโล่งภายในบ้าน นอกจากนี้ หลากหลายโครงการบ้านหรู ยังนำเอานวัตกรรมบ้านเย็น ยกระดับบ้านหรูทันสมัย เช่น Active Airflow System ช่วยหมุนเวียนอากาศภายในตัวบ้านและโถงหลังคา เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วยพลังงานโซล่าเซลล์ เป็นต้น

4. ขนาดพื้นที่ใช้สอยบ้านหรู
           บ้านหรูกลางเมืองอย่างทำเลเอกมัย-ทองหล่อ มักเป็นบ้านทรงสูง 3-5 ชั้น ขณะที่ บ้านหรูชานเมือง มักมีความสูง 2-3 ชั้น แม้ภาพรวม พื้นที่ใช้สอยบ้านหรู จะเฉลี่ยใกล้เคียงกันราว 390-580 ตารางเมตร แต่สำหรับ ขนาดที่ดินบ้านหรู ค่อนข้างแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด โดยบ้านหรูกลางเมือง มักมีขนาดที่ดินเฉลี่ย 55-75 ตารางวา ขณะที่ บ้านหรูชานเมือง มักมีขนาดที่ดินเฉลี่ย 90-185 ตารางวา จุดนี้เอง อาจเป็นหนึ่งเหตุผลให้โครงการบ้านหรูในทำเลใกล้เมืองเดินทางสะดวก เช่น ย่านกรุงเทพกรีฑา มีความน่าสนใจไม่น้อย เป็นต้น

5. สิ่งอำนวยความสะดวกบ้านหรู
           นอกจากการเลือกใช้วัสดุชั้นเลิศในการสร้างสรรค์แต่ละส่วนภายในบ้าน เช่น พื้นกระเบื้องหินอ่อนหรือคัดสรรกระเบื้องนำเข้า, สุขภัณฑ์อัจฉริยะ , ห้องนอนที่มี Walk in closet , ครัวไทยแยกส่วนจากห้องเตรียมอาหาร, ห้องแม่บ้าน เป็นต้น บางโครงการยังเพิ่มจุดเด่น อาทิ ห้องนอนเพนท์เฮาส์ยกชั้นสร้างความเป็นส่วนตัว, สระว่ายน้ำส่วนตัวพร้อมห้องอเนกประสงค์ สามารถปรับเป็นห้องทำงานส่วนตัวหรือห้องปาร์ตี้ริมสระ, ลิฟต์ภายในบ้านรองรับสังคมสูงวัย รวมทั้ง การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเข้ามาเติมเต็มการอยู่อาศัยอย่าง Application ควบคุมอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้าน หรือ Magnetic Sensor ระบบป้องกันการงัดหน้าต่างประตู เป็นต้น เพราะความปลอดภัยเป็นหนึ่งเรื่องสำคัญภายในบ้าน

  โครงการบ้านหรู เปิดใหม่ ปี 2561  

           ปัจจุบันโครงการบ้านหรู เกิดขึ้นบนทำเลต่าง ๆ ทั่วกรุงเทพ ไม่น้อยกว่า 50 โครงการ จากหลายหลากผู้ประกอบการรายเล็กรายใหญ่ สำหรับปี 2561 มีโครงการบ้านหรูเปิดใหม่เพิ่มขึ้น 6 แห่ง นอกจากทำเลกลางเมืองแล้ว ทำเลฝั่งตะวันออกของกรุงเทพดูจะเป็นหนึ่งทำเลร้อนแรงในปีนี้ รายละเอียดดังนี้

            ทำเลกลางเมือง ภาพรวมโครงการบ้านหรูใน ทำเลทองหล่อ-เอกมัย-พระราม 9 แตะราคาเริ่มต้น 30 ล้านบาท และส่วนใหญ่ มักเป็นโครงการขนาดเล็ก จำนวนไม่เกิน 30 หลังต่อโครงการ สำหรับปี 2561 นี้ มีโครงการใหม่เปิดตัวไปแล้วกว่า 3 โครงการ คือ ไพรม์ไนน์ เอกมัย จาก เอทีพลัส แอสเสท , บ้าน 365 พระราม 3 จาก แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ และ ซิลลูเอท ทองหล่อ จากการร่วมทุนของกลุ่มเปี่ยมสุข

           ทำเลฝั่งตะวันตกของกรุงเทพ โดดเด่นที่สุดใน ทำเลราชพฤกษ์-พระราม 2 ระดับราคาเริ่มต้น 20 ล้านบาท ผู้ประกอบการรายใหญ่ต่างลงโครงการแบรนด์ดังในทำเลนี้ไม่น้อย เช่น ลดาวัลย์ จากแลนด์แอนด์เฮ้าส์, นาราสิริ จากแสนสิริ, แกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด จากเอสซี แอสเสท รวมทั้ง ควอลิตี้เฮ้าส์ นอกจาก Q House Avenue แล้วยังลงโครงการบ้านหรูที่มีราคาแพงที่สุดในทำเลนี้แตะหลัก 100 ล้านบาท นั้นคือ Q.Twelve มูลค่าโครงการกว่า 1,200 ล้านบาท

           ทำเลฝั่งตะวันออกของกรุงเทพ มักเกิดขึ้นใน ทำเลพัฒนาการ-กรุงเทพกรีฑา-บางนา จะเป็นโครงการบ้านหรูราคาเริ่มต้น 20 ล้านบาท จากหลากหลายผู้ประกอบการ เช่น นันทวัน จากแลนด์แอนด์เฮ้าส์, เพอร์เฟค มาสเตอร์พีซ จากพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค, แกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด จากเอสซี แอสเสท เป็นต้น โครงการใหม่เปิดตัวในปี 2561 ที่มีระดับราคาสูงสุดในทำเลนี้ คือ บ้านแสนสิริ พัฒนาการ เริ่มต้น 65 ล้านบาท ขณะที่ ย่านกรุงเทพกรีฑา ดูจะเป็นหนึ่งทำเลมาแรงไม่น้อยในปีนี้ จากความน่าสนใจของศักยภาพทำเลด้านความคืบหน้าการลงทุนภาครัฐ ไม่ว่าจะเป็นโครงการรถไฟฟ้า การลงทุนภาคเอกชน พร้อมจุดเด่นทำเลอย่างการเดินทางเข้าออกเมืองได้ง่ายและไม่ใกลจากสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ นอกจากโครงการ พาร์ค อเวนิว ไพรเวท ราคาเริ่มต้น 27 ล้านบาท จากบริษัทในเครือโฟร์วิงส์กรุ๊ป ยังมี โครงการบ้านหรู ใหม่ล่าสุด กำลังเปิดลงทะเบียนอยู่ในขณะนี้ นั้นคือ วนา เรสซิเดนซ์ พระราม 9 – ศรีนครินทร์ ราคาเริ่มต้น 20 ล้านบาท จากแอสเซท ไฟว์ ดีเวลลอปเม้นท์ บ้านเดี่ยวหรู 3 ชั้น รองรับลูกบ้านระดับผู้บริหารและเจ้าของกิจการรุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จและมีไลฟ์สไตล์ รองรับสมาชิกครอบครัวหลายหลากช่วงวัย มูลค่าโครงการรวมกว่า 1,800 ล้านบาท

           โครงการบ้านหรูของคนกรุงเทพ แม้จะดูเป็นตลาดเฉพาะกลุ่ม (Niche Market) รองรับการอยู่อาศัยของคนมีฐานะ การเลือกอยู่อาศัยบ้านหรูกลางเมือง อาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับห้องชุดเพนท์เฮ้าส์ในทำเลเดียวกัน แต่บ้านหรูกลางเมืองยังคงมีข้อด้อยกว่าบ้านหรูชานเมืองในเรื่องขนาดที่ดิน หากมองถึงปัจจัยในการเลือกทำเลบ้านหรูชานเมืองระหว่างฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออกของกรุงเทพมหานคร คงต้องบอกตามตรงว่า ศักยภาพความเจริญของฝั่งตะวันออกของกรุงเทพมหานครค่อนข้างชัดเจน ทั้งโครงการภาครัฐและภาคเอกชน ประกอบกับความใกล้เมืองและใกล้สนามบินนานาชาติ สุดท้ายแล้ว โครงการบ้านหรูที่สามารถอยู่ได้หลากหลายช่วงวัย ตอบโจทย์การอยู่อาศัยและการใช้ชีวิตของกลุ่มเป้าหมายอย่างนักธุรกิจ,ผู้บริหาร และอาชีพรายได้สูงได้จริง โครงการบ้านหรูนั้นย่อมประสบความสำเร็จและครองใจลูกบ้านไปได้อย่างแน่นอน