มันคงจะเป็นเรื่องที่ไม่แปลกใหม่ ถ้าหากจะบอกว่านักลงทุนหรือนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในไทยมากที่สุดคือนักลงทุนจีน แต่หากลองกลับการเรียงร้อยประโยคใหม่ซักเล็กน้อย ว่า ไทย’ คือประเทศอันดับหนึ่งในเอเชียที่ ‘จีน’ เข้ามาลงทุนอสังหาฯ มากที่สุด ข้อความนี้ซ่อนความน่าสนใจไว้มากทีเดียว ถามว่าน่าสนใจอย่างไร? TerraBKK มีคำตอบในบทความนี้

            ปัจจุบันปี 2018 จีนมีประชากรทั้งหมด 1,415 ล้านคน ในจำนวนนั้นมี อภิมหาเศรษฐี ที่ครอบครองทรัพย์สินมากกว่าคนละ 1,000 ล้านดอลลาร์ (หรือคิดเป็นเงินไทยคือ 30,000 ล้านบาท) ถึง 476 คน ซึ่งทำให้จีนเป็นประเทศที่มีจำนวนประชากระดับอภิมหาเศรษฐีมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากสหรัฐอเมริกา และนอกจากนั้น ยังมีประชากรระดับ เศรษฐีทั่วไป’ ที่มีทรัพย์สินมูลค่ามากกว่า 1 ล้านดอลลาร์ขึ้นไป จำนวนถึง 1.13 ล้านคน! ลองคิดดูว่า การที่คนจีนจำนวนกว่า 1.13 ล้านคนนี้ มองว่า ‘ประเทศไทย’ เป็นอันดับหนึ่งสำหรับการลงทุนอสังหาฯในเอเชียนั้น เป็นเรื่องใหญ่แค่ไหน? TerraBKK อยากขอชี้ชวนให้ลองพิจารณาข้อมูลและสถิติที่น่าสนใจของการลงทุนอสังหาฯในต่างชาติของประชากรจีนกันก่อน

จากเว็บไซต์ juwai.com ปี 2017 มีการระบุพฤติกรรมการลงทุนอสังหาฯในต่างชาติของชาวจีนไว้ว่า ประเทศที่ชาวจีนนิยมเข้าไปลงทุนอสังหาฯ มากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ สหรัฐอเมริกา, ออสเตรเลีย และ ประเทศไทย ซึ่งแซงหน้า แคนาดา และ UK ที่เคยครองอับดับ 3 มาก่อนหน้านี้ และที่น่าสนใจคือ ในปีเดียวกันนี้ ประเทศม้ามืดที่มาแรงที่สุดกลับกลายเป็น ‘เวียดนาม’ เป็นสัญญานว่าชาวจีนจะหันมาลงทุนอสังหาฯในเอเชียมากขึ้น โดยนักลงทุนอสังหาฯชาวจีน มีเหตุผล 3 ข้อหลักๆ ที่ทำให้สนใจลงทุนอสังหาฯ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่

ชาวจีนนิยมเข้ามาท่องเที่ยวในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากขึ้น

            เป็นที่รู้กันว่าในปัจจุบัน ไม่ว่าคุณจะไปที่ไหนในทุกสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย คุณจะได้พบคนจีนอย่างน้อย 3-4 คนเสมอ ไม่เพียงแต่ประเทศไทยเท่านั้นที่เกิดปรากฎการณ์ ‘ทัวร์จีนลง’ แบบนี้ แต่ยังเกิดขึ้นในทุกประเทศที่เป็น Tourism Destination

ทั่วโลก ซึ่งแสดงให้เห็นว่าประชากรชาวจีนเริ่มมีกำลังการซื้อมากขึ้น และเริ่มขยายการท่องเที่ยวออกไปทั่วโลก โดยในแต่ละปี ชาวจีนจะเดินทางออกนอกประเทศตัวเองไปทั่วโลกจำนวนหลายร้อยล้านคน ทำให้การลงทุนอสังหาฯ ในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่เป็น Tourism Destination จึงเป็นจุดหมายการลงทุนของนักลงทุนอสังหาฯชาวจีน

สำหรับประเทศไทยเองก็เช่นเดียวกัน การซื้ออสังหาฯ โดยเฉพาะคอนโดมิเนียม เพื่อเป็นสถานที่พักผ่อนเวลาที่มาเที่ยว หรือ ซื้อเพื่อลงทุนปล่อยเช่านักท่องเที่ยวชาวจีนด้วยกัน จึงเป็นที่นิยมมากของนักลงทุนชาวจีน โดยเฉพาะในเมืองท่องเที่ยวชั้นนำของไทย อย่าง กรุงเทพฯ, ภูเก็ต, พัทยา และ เชียงใหม่ เป็นต้น

ซื้ออสังหาฯ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้ผลตอบแทน (ROI) ที่ดี

            แน่นอนว่า เมื่อมีนักท่องเที่ยวชาวจีนอยู่ในทุกที่แล้ว การลงทุนเพื่อปล่อยเช่าโดยเฉพาะกับชาวจีนด้วยกันย่อมให้ผลตอบแทนที่ดี โดยนักลงทุนอสังหาฯ ชาวจีน จะพิจารณาการซื้อคอนโดมิเนียมเพื่อปล่อยเช่าในทำเลที่เป็นที่นิยมในการท่องเที่ยวจากคนจีนด้วยกันเป็นหลัก หลังจากนั้นจึงจะมองในเรื่องของผลตอบแทนที่ได้ และปัจจัยอื่นๆ ซึ่ง เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นกลุ่มประเทศที่ตอบโจทย์ฺการลงทุนของชาวจีนได้ดีที่สุด

            โดยประเทศที่ให้ผลตอบแทนการลงทุนจากอสังหาฯ สูงที่สุดคือ อินโดนีเซีย (8.6%) ฟิลิปปินส์ (7.5%) กัมพูชา (5.3%) ไทย (5.1%) และ มาเลเซีย (4.6%) ซึ่งผลตอบแทนมากกว่าการลงทุนใน ญี่ปุ่น, UK} ฝรั่งเศส, ฮ่องกง หรือในประเทศจีนเอง

ความต้องการจากประชากรสูงวัยในจีนเพิ่มขึ้น

            มีการคาดการณ์จาก Brookings Institute,China ว่าในปี 2020 ประชากรสูงวัยในจีนจะมีมากถึง 240 ล้านคน ซึ่งสำหรับตลาดสูงวัยแล้ว การมองหาสถานที่พักผ่อนหลังวัยเกษียณในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้นเติบโตมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเมื่อหากเปรียบเทียบค่าครองชีพในเมืองแล้ว เมืองที่มีการพัฒนาทางการแพทย์เพียบพร้อมและแข็งแรงขึ้นเรื่อยๆอย่าง กรุงเทพฯและกัวลาลัมเปอร์ มีค่าครองชีพเป็นอันดับที่ 172 และ 194 ของโลก ในขณะที่เมืองใหญ่ในจีนอย่าง ปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้ มีค่าครองชีพสูงที่สุดอันดับ 18 และ 20 ของโลก ลองคิดดูแล้วกันว่าประชากรสูงวัยในจีนจะพอใจที่ไหนมากกว่ากัน

 

‘ไทยเป็นประเทศที่ จีน’ เข้ามาลงทุนอสังหาฯ อันดับที่ 1 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

            ถึงแม้ประเทศไทยจะไม่ได้เป็นประเทศที่ให้ผลตอบแทนมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สำหรับสายตานักลงทุนชาวจีน แต่กลับเป็นประเทศที่ชาวจีนนิยมมาลงทุนอสังหาฯ มากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากในเมืองใหญ่ๆของประเทศไทยมีความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐาน ยังคงมีธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ดี และยังมีความมั่นคงทางเศรษฐกิจมากกว่าหากเทียบกับประเทศอื่นๆ โดยเมืองที่ชางจีนนิยมเข้ามาลงทุนอสังหาฯ ส่วนใหญ่เป็นเมืองท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมของชาวจีน ได้แก่ พัทยา, ภูเก็ต, เชียงใหม่, กรุงเทพฯ และ เกาะสมุย ตามลำดับ

แรงจูงใจหลักที่ทำให้ชาวจีนนิยมเข้ามาลงทุนอสังหาฯ ในเมืองไทย เนื่องมาจากสามารถครอบครองกรรมสิทธิ์ห้องชุดได้ อีกทั้งความต้องการเช่าในเมืองไทยยังสูง โดยให้ผลตอบแทน (cap gain) สูงถึง 8-10% และมีผลตอบแทนจากการเช่า (rental yield) สูง 5-7% นอกจากนั้นประเทศไทยยังมีไลฟ์สไตล์และสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลาย โดยพบว่าในปี 2017 มีชาวจีนเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยช่วงวันหยุดยาวเพิ่มขึ้น 30% จากปี 2016 อีกด้วย - เทอร์ร่า บีเคเค

บทความโดย : TerraBKK เคล็ดลับการลงทุน

TerraBKK ค้นหาบ้านดี คุ้มค่า ราคาถูก