One 9 Five : คอนโดฯไฮเอนด์สุดหรู บนทำเล อโศก-พระราม 9 หลังจากที่ได้ยินชื่อคอนโดฯโครงการนี้กันมาตั้งแต่ช่วงปีที่แล้ว ตอนนี้ห้องตัวอย่างก็พร้อมเปิดให้เข้าชม เป็นที่เรียบร้อย เช่นเดียวกับยอดขายที่พุ่งไปแล้วกว่า 80% เรียกได้ว่าใครที่ซื้อไปแล้วก็เข้ามาดูห้องตัวอย่างไว้เป็นไอเดียตกแต่งห้องได้เลย ส่วนใครที่ยังลังเล และกำลังตัดสินใจซื้อช่วงนี้เป็นโอกาสของคุณ เพราะเป็นช่วงโค้งสุดท้ายที่คุณจะใช้สิทธิเลือกมุมห้องดี บนทำเลเด่นอย่าง ทำเล อโศก-พระราม 9

          พร้อมสัมผัสกับห้องตัวอย่างของโครงการ One 9 Five ที่เห็นแล้วต้องบอกเลยว่า ทีซี ดีเวลลอปเม้นท์ ทำโครงการออกมาได้ดีเลยทีเดียว ทั้งการเลือกวัสดุในห้อง รวมถึงการตกแต่งภายในที่ใส่ใจทุกรายละเอียด ตามคอนเซปต์ “Urban Midtown Oasis”

          โดยใช้บริษัทออกแบบและตกแต่งที่มีผลงานในระดับนานาชาติ อาทิ บริษัท พีไอเอ อินทีเรีย จำกัด (PIA Interior) ออกแบบตกแต่งภายใน บริษัท ลีโออินเตอร์เนชั่ลแนล ดีไซน์ กรุ๊ป จำกัด (Leo International Design) ออกแบบส่วนของพื้นที่ส่วนกลางและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ และบริษัท ฉมา จำกัด (Shma) ผู้ออกแบบภูมิสถาปัตย์ซึ่งเป็นอีกหนึ่งในจุดขายของโครงการ กับราคาเริ่มต้นที่ 3.69 ล้านบาท (เริ่มต้นประมาณ 1.4 แสนบาทต่อตร.ม.) และราคาเฉลี่ยทั้งโครงการอยู่ที่ 1.65 แสนบาทต่อตร.ม. 

          ดังนั้นวันนี้รายละเอียดศักยภาพทำเล และการเดินทางเราจะอธิบายไม่มาก แต่เราจะไปเน้นเจาะลึกกันที่ห้องตัวอย่าง เพราะอย่างที่บอกไปว่าห้องตัวอย่างที่นี่ใส่ใจทุกรายละเอียด และยังมีห้องตัวอย่างถึง 4 ห้อง โอ้โห!! เรียกได้ว่าใครชอบห้องแบบไหนสไตล์ไหน มาที่โครงการ One 9 Five ไม่ต้องดูแปลนเลยค่ะ ขึ้นไปดูห้องจริงกันได้เลย

          มาเริ่มจากศักยภาพทำเลกันก่อน สำหรับ โครงการ ONE 9 FIVE อโศก – พระราม 9 ที่ตั้งโครงการจะอยู่ติดถนนพระราม 9 ใกล้กับแยกพระราม 9 ฝั่งเดียวกับอาคารออฟฟิศอย่าง G Tower, Super Tower, Unilever

          ซึ่งย่านนี้ไม่ต้องพูดเยอะ เพราะความเจริญสูงมาก คักคักตลอดทั้งวันและยังรองรับทุกรูปแบบการไลฟ์สไตล์ใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ เพราะมีทั้งศูนย์การค้า แหล่งช็อปปิ้งขนาดใหญ่ ,โรงแรม, โรงพยาบาล, สถานฑูตเกาหลี-สถานทูตจีน อาคารสำนักงานเกรด A ,ส่วนกลางคืนก็มีตลาดรถไฟ, ร้านอาหาร และแหล่งแฮงค์เอ้าท์แถวๆรัชดา ซึ่งคุณสามารถเลือกให้บรรยากาศยามค่ำคืนสุดพิเศษได้ตามวันพิเศษของคุณ

          ทางด้านการเดินทาง ทำเลนี้เดินทางสะดวกสบายมาก ทั้งใช้รถยนต์ส่วนตัวและใช้รถบริการสาธารณะ เพราะโครงการตั้งอยู่ห่าง จากรถไฟฟ้า MRT สถานีพระราม 9 สามารถเดินมาขึ้น MRT ที่ทางออก 3 หรือออกทาง G Tower ระยะเดินไม่เกิน 5 นาทีส่วนบริเวณโดยรอบ ก็มีบริการจากวินมอเตอร์ไซค์ และป้ายรถเมล์อยู่ติดด้านหน้าโครงการเลยค่ะ

          สำหรับผู้ที่ใช้รถยนต์ส่วนตัว สามารถใช้ถนนเส้นหลักอย่าง ถนนพระราม 9, ถนนอโศก ดินแดง,ถนนรัชดาภิเษก ซึ่งถนนเหล่านี้จะเป็นเส้นทางที่เชื่อมต่อไปยังถนนเส้นอื่นๆ ได้อีก

ส่วนทางด่วน สามารถขับรถมุ่งหน้าไปแยก อสมท. และเลี้ยวขวาไปถนนเพชรอุทัยเพื่อขึ้นทางพิเศษศรีรัช ระยะทางประมาณ 600 เมตรเท่านั้น

พระราม 9 ทำเลทองนักลงทุนสร้างผลตอบแทนสูงในย่าน New CBD

          สำหรับผู้ที่สนใจจะซื้อคอนโดฯสำหรับการลงทุน ทำเลในย่าน อโศก-พระราม 9 ถือเป็น New CBD เป็นย่านธุรกิจแห่งใหม่ที่สำคัญของกรุงเทพฯ ที่กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว เชื่อมต่อกับ CBD ชั้นในอย่าง อโศก ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่เต็มไปด้วยอาคารสำนักงาน และโครงการเมกะโปรเจ็ค อย่าง เดอะ แกรนด์ พระราม 9 บนพื้นที่ 73 ไร่ มีพื้นที่ใช้สอยทั้งหมด 1.2 ล้าน ตร.ม. ประกอบด้วย จี ทาวเวอร์, เดอะ ไนน์ ทาวเวอร์ส, เดอะ ช็อปปส์ แกรนด์ พระราม9, ยูนิลีเวอร์ เฮ้าส์, เซ็นทรัลพลาซา แกรนด์ พระราม 9, เบ็ล แกรนด์ พระราม9,โรงแรมนิวเวิลด์ แกรนด์ พระราม 9 และ The Super Tower อาคารแบบ Mixed Used สูง 125 ชั้น ที่สูงสุดในอาเซียน และติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก ซึ่งจะกลายเป็นแลนด์มาร์คใหม่ของประเทศไทย โดยทั้งหมดนี้มีมูลค่าโครงการรวมกว่า 100,000 ล้านบาท รองรับคนได้สูงถึง 2-3 แสนคนต่อวัน  รวมทั้งเดินทางง่ายด้วยรถไฟฟ้าใต้ดิน ทางด่วน และเป็นเส้นทางสู่สนามบินสุวรรณภูมิ จึงเป็นทำเลยุทธศาสตร์ที่มีศักยภาพสูง และมีความคุ้มค่าทั้งสำหรับซื้อเพื่ออยู่เอง หรือเพื่อการลงทุน มีกลุ่มเป้าหมายเป็นคนไทยและต่างชาติ  อาทิ จีน ฮ่องกง สิงคโปร์ ไต้หวัน

          โดยการสร้างผลตอบแทนด้านการลงทุน คอนโดฯในโซน อโศก พระราม 9  เป็นทำเลที่ทำกำไรได้ดีจากการปล่อยเช่า  โดยอัตราค่าเช่าเฉลี่ยอยู่ที่  5% - 7% ต่อปี ซึ่งสูงกว่าค่าเช่าทำเลในเขตกรุงเทพฯชั้นใน ที่มีอัตราเฉลี่ยอยู่ที่ 3%-5% ต่อปี

One 9 Five พร้อมสร้างประสบการณ์ชีวิตเหนือระดับ “Urban Midtown Oasis”

          สำหรับโครงการ One 9 Five เป็น โครงการคอนโดมิเนียม High Rise สูง 61ชั้น จาก ทีซี ดีเวลลอปเม้นท์ ภายในมี 2 อาคาร คือ ทาวเวอร์ A ห้องพักอาศัยจำนวน 954 ยูนิต และทาวเวอร์  B ประกอบด้วยห้องพักอาศัยจำนวน 957 ยูนิต และร้านค้า 28  ร้าน บนพื้นที่ 11-1-66 ไร่  ซึ่งจำนวนยูนิตต่อชั้นสูงสุดที่ 18 ยูนิตต่อชั้น ส่วนลิฟต์โดยสารมี 6 ตัวต่ออาคาร และลิฟต์ขนของ 1 ตัวต่ออาคาร ทำให้ลูกบ้านใช้งานได้สบายๆ พร้อมมีที่จอดรถ ประมาณ 50% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) ส่วนค่าส่วนกลาง  ประมาณ 55 บาท ต่อตร.ม.  ชำระล่วงหน้า 1 ปี ณ วันโอนกรรมสิทธิ์ และเงินกองทุนส่วนกลาง 600 บาท ต่อ ตร.ม. ชำระครั้งเดียว ณ วันโอนกรรมสิทธิ์

มีห้องทั้งหมด 6 แบบ

1 Bedroom-Junior    25.5 ตร.ม. – 35.5 ตร.ม.

1 Bedroom-Deluxe   36.5 ตร.ม. – 41.0 ตร.ม.

1 Bedroom-Elegance     67.0 ตร.ม. – 69.5 ตร.ม.

2 Bedroom     55.0 ตร.ม. – 68.0 ตร.ม.

3 Bedroom     94.0 ตร.ม. – 109.5 ตร.ม.

Penthouse 194 ตร.ม.   271.5 ตร.ม.

เปิดห้องตัวอย่าง 4 Type

          สำหรับแปลนการวางตำแหน่งห้องภายในอาคาร ทั้งทาวเวอร์ A และทาวเวอร์  B การจัดวาง Type ห้องจะมีลักษณะเดียวกัน แต่ความแตกต่างกันของทั้ง 2 อาคาร จะอยู่ที่วิวภายนอกเป็นส่วนใหญ่ซึ่งจะเห็นได้ชัดเจนตั้งแต่ชั้นที่ 30 ขึ้นไป เช่น ทาวเวอร์ A ทิศใต้จะเป็นวิวเมืองฝั่งสุขุมวิทและอโศก ส่วนทาวเวอร์ B จะเห็นเป็นวิวสวนและสระว่ายน้า ฝั่งตะวันออกของทั้งสองทาวเวอร์ จะเห็นวิวสุวรรณภูมิ ส่วนทิศตะวันตกทั้งสองทาวเวอร์ จะเห็นวิว The Super Tower และฝั่งทิศเหนือของทาวเวอร์ A จะสามารถชมวิวสวนและวิวสระว่ายน้ำภายในโครงการ ขณะที่ ทาวเวอร์ B จะได้วิว ทางถนนรัชดา(รายละเอียดเพิ่มเติมสำหรับมุมห้องและวิว สามารถสอบถามได้ที่โครงการค่ะ)

          และมาถึงช่วงสำคัญกับไฮไลท์ของบรรยากาศห้องตัวอย่างทั้ง 4 Type ของโครงการ One 9 Five โดยที่โครงการนี้ในห้องมาตรฐานที่ลูกค้าได้รับจะตกแต่งแบบ Fully Fitted ประกอบด้วย ตู้ครัวบิวท์อิน เคาน์เตอร์ Top หินสังเคราะห์ เลียนแบบธรรมชาติ สีขาว อ่างล้างจาน ,เตาไฟฟ้าเซรามิกระบบ induction พร้อมเครื่องดูดควันต่อท่อออกด้านนอกอาคาร ยี่ห้อ  MEX  หรือเทียบเท่า ,ตู้เสื้อผ้าบิวท์อินซึ่งวัสดุประตูกระจก+กรอบอลูมิเนียม แบบเปิดออกในทุกห้องนอน ภายในเป็นไม้ และตู้เก็บรองเท้า นอกจากนี้ภายในทุกห้องของโครงการ ยังมีการดรอปฝ้าไว้ให้ พร้อมติดตั้งระบบปรับอากาศซ่อนใต้ฝ้าในห้องรับแขกและห้องรับประทานอาหารยี่ห้อ Daikin หรือเทียบเท่า ทั้งนี้ระบบปรับอากาศของ 1 ห้องนอน Type F - Wall Type ทั้งสองเครื่อง ส่วนห้อง 1 ห้องนอน Type E – Concealed ในส่วนของห้องนั่งเล่น, ห้องนอนเป็น Wall Type

          ส่วนห้องตัวอย่างได้มีการตกแต่งไว้อย่างสวยงาม และมีเรื่องราวเชื่อมโยงกัน ด้านในจะเป็นอย่างไรบ้างไปชมกันค่ะ

Type E : 1 Bedroom 35.50 ตร.ม.

          สำหรับห้อง Type E ขนาด 1 Bedroom 35.50 ตร.ม. ตำแหน่งของห้องจะอยู่ช่วงกลางอาคาร ซึ่งแต่ละชั้นจะมีประมาณ 4 ห้องเท่านั้น โดยจุดเด่นของห้องนี้อยู่ที่การจัดวางแปลนห้องที่เป็นสัดส่วน โดยส่วนครัว จะเป็นครัวปิด โดยใช้ประตูกระจกบานเลื่อน ป้องกันกลิ่นอาหารมาสู่โซนอื่นๆในห้อง  

        ถ้าดูจากการตกแต่งห้องตัวอย่างจะเห็นว่า ด้านขวามือจากทางเข้าประตูจะเป็นตู้ที่โครงการติดตั้งมาให้ ซึ่งภายในสามารถเก็บของและรองเท้าได้ ส่วนฝั่งซ้ายเป็นพื้นที่ส่วนนั่งเล่นตกแต่งในโทนสีดำ ลายหิน ให้รู้สึกว่าเป็นห้องสำหรับ working woman

          ติดกันเป็นส่วนห้องนอน ที่โครงการ One 9 Five ใช้กระจกบานเลื่อน 3 พับแต่งกรอบ ติดตั้งให้รางเลื่อนอยู่ด้านบนฝ้า ทำให้พื้นไม่ต้องมีราง ใช้งานได้ง่าย และที่สำคัญกระจกนี้จะกั้นเสียงรบกวนพื้นที่ส่วนนั่งเล่นออกจากห้องนอนได้ด้วย

          ภายในวางเตียงนอนขนาดใหญ่ได้และยังมีพื้นที่ด้านข้างวางโต๊ะข้างหัวเตียง ส่วนตู้เสื้อผ้าในห้อง Type นี้ โครงการติดตั้งมาให้อยู่ปลายเตียง ด้านข้างทำเป็นชั้นสำหรับวางทีวี ที่สามารถปรับเป็นโต๊ะแต่งหน้าได้

          ถัดจากห้องนอนออกไปเป็นส่วนระเบียง ถือว่าทำออกมาได้ดี โดยใช้กระจกบานเลื่อน3 พับกั้น แต่งกรอบอลูมิเนียม และส่วนกำแพงระเบียงก็เป็นกระจกเช่นเดียวกัน  ซึ่งกระจกนี้มีความพิเศษคือถ้าคุณอยู่ชั้นสูงๆ กระจกของห้องคุณก็จะมีความหนามากขึ้น เพื่อป้องกันแรงลมจากด้านนอก เป็นอีกหนึ่งมาตรฐานความปลอดภัยที่โครงการให้ความใส่ใจเป็นอย่างดี ส่วนตัวระเบียงมีความกว้างขวาง โครงการติดตั้งกรอบอลูมิเนียม บริเวณด้านบนเพื่อวาง Condensing สำหรับห้องที่มีแอร์ Wall Type ส่วนพื้นที่ด้านล่างติดตั้งปลั๊กไฟ ไว้ให้สำหรับใช้กับเครื่องซักผ้าเรียบร้อย

          และห้องสุดท้าย คือห้องน้ำ ที่นี่ตกแต่งห้องน้ำด้วยลายหินธรรมชาติโทนสีเทา  โดยแบ่งส่วนเปียก-แห้ง ด้วยห้องอาบน้ำพร้อมฉากกั้นกระจก ก๊อกน้ำผสมและ เรนเชาเวอร์ ของแบรนด์ Kohler หรือเทียบเท่า พร้อมสุขภัณฑ์ในห้องน้ำตามมาตรฐานของแบรนด์ Kohler ภายในห้องน้ำมีพัดลมระบายอากาศ

Type A : 1 Bedroom 40.50 ตร.ม.   

          สำหรับห้อง Type A : 1 Bedroom 40.50 ตร.ม. ตำแหน่งของห้องจะอยู่ช่วงกลางอาคารฝั่งซ้ายและฝั่งขวา ซึ่งแต่ละชั้นจะมี 2 ห้องเท่านั้น จุดเด่นของห้องนี้อยู่ที่พื้นที่ภายในห้องที่กว้างขวาง และชมวิวได้อย่างเต็มที่จากห้องนอนและห้องนั่งเล่น เพราะห้อง Type A ได้ถูกจัดวางแปลนห้อง ให้พื้นที่ระเบียงหันไปอยู่บริเวณช่องลมของอาคาร ทำให้ภายในห้องใช้พื้นที่ได้เต็มศักยภาพ

          โดยการตกแต่งภายในจะเน้นใช้สีทอง ให้ความรู้สึกหรูหรา ส่วนแรกจะเป็นครัวเปิด โดยที่ห้องตัวอย่างครัวจะอยู่ที่ฝั่งขวามือของห้อง อุปกรณ์ได้รับตามห้องตัวอย่าง (ยกเว้นเครื่องใช้ไฟฟ้า)

          ส่วนฝั่งซ้ายเป็นพื้นที่ห้องน้ำซึ่งเป็นห้องน้ำที่มีประตูทางเข้า 2 ฝั่ง สามารถใช้งานได้จากห้องนอน และห้องนั่งเล่น  ติดกันเป็นพื้นที่ส่วนรับประทานอาหารวางโต๊ะและเก้าอี้สองที่นั่งถัดไปเป็นพื้นที่ส่วนนั่งเล่นด้านซ้ายมือวางโซฟาขนาดกลางด้านหน้ากระจกบานเลื่อนสามพับ ที่จะกั้นพื้นที่ส่วนห้องนอนสร้างความเป็นส่วนตัว ออกจากห้องนั่งเล่น ส่วนกระจกริมหน้าต่างของห้อง Type A เป็นบานกระทุ้งสองบานอยู่ทั้งภายในห้องนอน และห้องนั่งแล่น

พื้นที่ห้องนอนภายในกว้างขวางสามารถวางเตียงขนาดใหญ่โต๊ะหัวเตียงตู้โชว์ด้านข้าง มีการติดตั้งตู้เสื้อผ้าและทำตู้บิวท์อินช่วงทางเดินไปห้องน้ำแบบ Walk-in Closet  

Type B : 1 Bedroom 41.00 ตร.ม.

สำหรับห้องนี้การจัดวางแปลนห้องจะมีลักษณะใกล้เคียงกับ

Type A : 1 Bedroom 40.50 ตร.ม. แต่แปลนมีความต่างโดยการจัดพื้นที่ห้องครัวเป็นแบบครัวปิดโดยใช้กระจกบานเลื่อนเพื่อป้องกันกลิ่นอาหารเข้ามารบกวนพื้นที่ภายนอก

          โดยส่วนแรกของห้องฝั่งซ้ายจะเป็นพื้นที่ห้องครัวซึ่งภายในมีอุปกรณ์ตามมาตรฐานของโครงการที่ติดตั้งไว้ให้และมีกระจกบานเลื่อน3 พับปิด ถัดไปเป็นพื้นที่ห้องน้ำภายในติดตั้งสุขภัณฑ์ตามมาตรฐาน ซึ่งกระจกภายในห้องน้ำมีความพิเศษคือสามารถกดเปิดเพื่อเก็บของไว้ด้านในกระจกได้ และบริเวณรอบกระจก จะมีไฟด้วย (มีติดตั้งให้ในห้องทุก Type)

          ถัดไปเป็นส่วนรับประทานอาหารที่ห้องนี้วางไว้สำหรับ2 ที่นั่ง ติดกันจะเป็นพื้นที่ส่วนนั่งเล่นโดยมีการวางโต๊ะข้างโซฟาไว้เพื่อแยกพื้นที่สำหรับส่วนนั่งเล่น

          ส่วนนั่งเล่นห้องนี้ถือว่ามีความกว้างขวางโดยสามารถวางโซฟาขนาด 4 ที่นั่ง วางโต๊ะกลางและมีชั้นวางทีวีบริเวณริมกำแพง ส่วนพื้นที่ระเบียงห้องนี้ จะเป็นประตูกระจกบานเลื่อนสามพับ เพื่อออกไปสู่ยังพื้นที่ระเบียงด้านนอก


          สำหรับห้องนอนของห้องนี้ มีประตูทางเข้าอยู่บริเวณข้างทีวีในส่วนของห้องนั่งเล่น ภายในสามารถวางเตียงขนาดใหญ่บริเวณปลายเตียงเป็นพื้นที่ของ ชั้นวางทีวีแบบติดผนัง โต๊ะเครื่องแป้งสำหรับแต่งหน้าส่วนบริเวณทางเดินไปห้องน้ำ ห้องนี้ก็ติดตั้งเป็นตู้เสื้อผ้าทั้งฝั่งซ้ายและฝั่งขวา และมีประตูทางเข้าห้องน้ำอยู่ตรงกลาง


Type D : 2 Bedroom 68.00 ตร.ม.

          ห้องนี้แปลนห้องเป็นห้องแบบ 2 ห้องนอนทำให้พื้นที่ใช้สอยส่วนกลางมีความกว้างขวาง เช่นเดียวกับพื้นที่ส่วนห้องนอนก็ยังมีความกว้างขวางอยู่สบาย ความน่าสนใจของห้อง type D ก็คือในทุกทุกห้องจะมีระเบียง มาให้ซึ่งเป็นกระจกที่มีความสูงจากพื้นถึงเพดานทำให้มีความรู้สึกโปร่งโล่งสบายนอกจากนี้ยังเป็นระเบียงที่สามารถเปิดออกไปใช้งานได้จริงอีกด้วย


          โดยส่วนแรกเป็นพื้นที่ของชั้นวางรองเท้าที่โครงการติดตั้งให้ ฝั่งซ้ายมือของห้องเป็นพื้นที่ครัวเปิดซึ่งห้องนี้ตกแต่งไว้โดยมี แพนทรีอยู่ตรงกลาง โดยบริเวณที่ถัดออกจากห้องครัวจะเป็นพื้นที่ของระเบียง ซึ่งส่วนนี้คุณสามารถใช้เป็นพื้นที่วางเครื่องซักผ้า หรือจะใช้เป็นพื้นที่ทำอาหารอย่าง เช่น บาร์บีคิว ได้เพราะจะมีประตูกระจกปิดกันป้องกันกลิ่นอยู่อีกชั้น 

          ต่อไปเป็นพื้นที่ส่วนรับประทานอาหารที่ห้องขนาด 2 ห้องนอนได้จัดโต๊ะทานอาหารแบบ4 ที่นั่งไว้สำหรับครอบครัว ส่วนพื้นที่นั่งเล่นห้องนี้ได้มีการจัดวางโซฟาขนาดใหญ่พร้อมชั้นวางทีวีที่ตกแต่งเอาไว้อย่างสวยงาม ติดกันพื้นที่ส่วนระเบียงห้องนี้ก็ใช้เป็นกระจกบานเลื่อน สามารถออกไปนั่งชมวิวได้ 

          ไปต่อกันที่ห้อง Master bedroom  ภายในมีความกว้างขวางสามารถวางเตียงนอนขนาดใหญ่ วางโต๊ะข้างหัวเตียง ชั้นวางทีวีและที่โครงการจะมีการติดตั้งตู้เสื้อผ้าไว้ให้ ก้ยังมีพื้นที่ทางเดินเหลือทำให้รู้สึกสบายๆอีกด้วย ส่วนห้องน้ำภายในห้องนี้จะมีอ่างอาบน้ำให้โดยเป็นการกั้นกระจกระหว่างพื้นที่ห้องน้ำและห้องนอนแบบ sexy Bath Room ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่โรงแรมห้าดาวเลยทีเดียวค่ะ

          สำหรับพื้นที่ของส่วนห้องนอน2 ด้านในสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุต และยังมีพื้นที่สำหรับการเดินเหลืออีกมากเลยทีเดียว ด้านข้างวางตู้โชว์ รวมถึงโต๊ะข้างหัวเตียง ด้านหน้ามีพื้นที่วางทีวี และมีการติดตั้งตู้เสื้อผ้าไว้ภายในห้องอีกด้วย และสุดท้ายที่ห้องน้ำ ด้านนอกห้องน้ำ นี้จะใช้รวมระหว่างห้องนอนสองและส่วนพื้นที่ส่วนกลางโดยภายในติดตั้งสุขภัณฑ์ตามมาตรฐานที่โครงการติดตั้งให้และยังมีพื้นที่อาบน้ำให้ด้วย

Facility จัดเต็มแบบยกภูเขามาวางไว้กลางคอนโดฯ

          เห็นห้องตัวอย่างแล้วต้องบอกเลยว่าสมกับการรอคอยจริงๆ แต่ยังไม่จบเพราะเราจะไปปิดท้ายกันที่ Facility ของโครงการ One 9 Five กันค่ะ

          สำหรับ Facility ของ โครงการ One 9 Five ออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ “Urban Midtown Oasis” โดยเน้นออกแบบเพื่อพื้นที่สีเขียวใหญ่ที่สุดใจกลางเมืองขนาด 8.6 ไร่ เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยได้ดื่มด่ำกับธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ โดยเนรมิตให้พื้นที่ในโครงการเป็นส่วนกิจกรรมพิเศษในคอนเซ็ปต์ของการเป็น Urban Oasis สำหรับผู้อยู่อาศัย อาทิ สวน Fruit Forest ที่เป็นพื้นที่พิเศษในกิจกรรมสำหรับลูกบ้านที่ชื่นชอบในการปลูกผักสวนครัวออร์แกนนิคบนพื้นที่ 1 ไร่ หรือ Community Kitchen ที่ทางโครงการจัดเตรียมไว้ ซึ่งเป็นกิจกรรมเพื่อไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยยุคใหม่อีกด้วย

          นอกจากนี้ ยังมีจัด facility อย่างเต็มรูปแบบ โดยทำให้เหมือนยกภูเขามาไว้ที่คอนโดฯนี้ อาทิ สระน้ำแบบอินฟินิตี้ขนาด100 เมตร ห้องฟิตเนตอเนกประสงค์สำหรับกิจกรรมต่างๆ จากุชซี่ สปา ห้องสมุด ห้องชมภาพยนตร์ ห้องเล่นเกมส์ ห้องโยคะ สนามกอล์ฟจำลอง สถานที่เล่นสำหรับเด็ก และห้องสังสรรค์บนชั้น 8 มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน  พื้นที่ทำงานแบบ co-working space จุดชาร์จรถไฟฟ้า เครื่องการล้างรถแบบ self-wash system

          สำหรับใครที่อ่านรีวิวนี้ และคิดว่าฉันนี่แหละคือหนึ่งในลูกบ้านของ โครงการ One 9 Five อย่ารอช้าค่ะ เพราะอย่างที่บอกไปว่าช่วงนี้จะเป็นโค้งสุดท้ายที่คุณจะใช้สิทธิเลือกมุมห้องดี บนทำเลเด่นอย่าง ทำเล อโศก-พระราม 9 ในราคาเริ่มต้นเพียง 3.69 ล้านบาท   เพราะนอกจากคุณจะได้อยู่คอนโดฯในทำเลใจกลาง New CBD แล้ว บรรยากาศในโครงการยังทำให้คุณได้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติของภูเขา ตามคอนเซปต์ “Urban Midtown Oasis”

สนใจลงทะเบียนผ่านเว็ปไซต์ http://bit.ly/2JLiQFX

หรือโทร 02 245 0999