หนึ่งใจพฤติกรรมของ Gen Y ของคนที่เกิดมาในช่วงทุนนิยมเต็มรูปแบบ คือการเบื่อหน่ายต่อรูปแบบชีวิตของคนรุ่นเก่า โหยหาประสบการณ์ หลงใหลในสิ่งใดอย่างสุดโต่ง ต้องการต้นแบบ และตั้งคำถามต่อสิ่งแวดล้อมรอบด้าน อย่างที่เราจะได้อ่านผ่านตามามากมายว่า วิถีคน Gen Y นั้นขี้เบื่อ ช่างเลือก สิ้นเปลือง เพราะมักใช้เงินไปกับประสบการณ์และความหลงใหลส่วนตัวในรูปแบบการ กิน-เที่ยว-เล่น ซึ่งถูกมองว่าพฤติกรรมเหล่านี้ทำให้เกิดผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจโลกไปมากมายเหมือนกัน

แต่รู้หรือไม่? พฤติกรรมของเหล่า Gen Y เหล่านี้เองก็กลับมีประโยชน์เช่นเดียวกัน เนื่องจากมีธุรกิจเกิดใหม่ที่เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เป็นธุรกิจที่เกิดขึ้นโดยตอบสนองความต้องการของทั้ง Gen Y แล Millennial ในยุคที่ทุกอย่างเปลี่ยนผ่านอย่างรวดเร็ว เรียกได้ว่าเป็น​ ’ธุรกิจของคน Gen Y เพื่อคน Gen Y’ อย่างแท้จริง

Café’ & Co-working Space

ธุรกิจคาเฟ่ร้านกาแฟนั้นบูมมากจนเกือบจะฟองสบู่แตกในช่วงไม่กี่ปีก่อน โดยตั้งแต่ช่วง พ.ศ.2553-2557 มีอัตราการเติบโตสูงมากคือ 14,000 ล้านบาทต่อปีใน พ.ศ.2553 และพุ่งถึงกว่า 17,000 ล้านบาทต่อปี อีกทั้งเป็นธุรกิจที่ใช้เงินทุนไม่สูงมาก ทำให้คนรุ่นใหม่ที่เพิ่งจบหรือแม้กระทั่งกำลังเรียนอยู่เปิดกันเป็นดอกเห็ด

            เมื่อ Supply ล้นตลาด ธุรกิจร้านกาแฟที่มีเพียงแค่คาเฟ่ให้นั่งจิบอย่างเดียวก็เริ่มชะลอลง ประกอบกับกระแสการทำงานแบบ mobile (เคลื่อนที่) ทำให้เกิดการแตกย่อยของธุรกิจกาแฟออกมาเป็น Co-working Space ที่เพิ่งฟังก์ช่นของร้านกาแฟเดิมเข้าไป ให้มีที่ทำงาน อ่านหนังสือ หรือประชุมให้มีกิจลักษณะมากขึ้น เพราะแต่เดิมร้านกาแฟก็มีแต่ลูกค้ามานั่งแช่กันอยู่แล้ว ซึ่ง Co-working Space ก็บูมมากเช่นเดียวกันในช่วง พ.ศ.2558-2560 จนเดี๋ยวนี้ไม่ว่าไปที่ไหนเราก็สามารถมองหา Co-working Space ได้ง่ายๆ โดยเฉพาะพื้นที่เมือง ย่านออฟฟิต และมหาวิทยาลัย

            ตัวอย่างของธุรกิจประภทนี้ก็คือ HUBBA So-working Space, Pencave Co-working space

Web Blogger & Youtuber

            ในยุคดิจิตอลแพลตฟอร์ม ที่ใครๆต่างก็มีสมาร์ทโฟนอย่างน้อยคนละหนึ่งเครื่องไว้ในครอบครอง ประกอบกับพฤติกรรมการชอบมองหา ‘ต้นแบบ’ และ’ ความช่างเลือก’ ของเหล่า Gen Y การปรากฎตัวของเหล่าต้นแบบอย่าง Blogger และ Youtuber นั้นก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าใครก็เป็นได้ เป็นง่าย เสพย์ง่าย และนิยม ทำให้คนเหล่านี้บางครั้งก็กลายมาเป็น Influencer แทนที่บุคคลมีชื่อเสียงหรือผลงานไปเสียแล้ว ที่สำคัญคือสามารถจ้างได้ในราคาที่ถูกกว่าเสียด้วย แบรนด์เครื่องสำอางค์ยี่ห้อหนึ่งจ้าง Blogger แค่เพื่อมาทดลองใช้ผลิตภัณฑ์และพูดสรรพคุณ เพียงเท่านั้นก็สามารถขายของได้แล้ว ที่สำคัญยังเกิดได้ในทุกประเภทธุรกิจ ตั้งแต่อาหาร เครื่องสำอางค์ กีฬา ฟิตเนส เสื้อผ้า ท่องเที่ยว DIY การศึกษา และอีกมากมายที่มนุษย์จะทำให้ดูกันได้

            สำหรับ Blogger & Youtuber ที่กำลังมาแรงและเป็นอาชีพที่ใฝ่ฝันของเหล่า Gen Y ในปัจจุบันก็คือการเป็น Blogger & Youtuber ด้านการท่องเที่ยวและเกมส์ ได้ทั้งเที่ยว ได้ทั้งเงินกันเลย ซึ่งก็ถูกจริตของผู้เสพย์อย่าง Gen Y เนื่องจากมักติดสินใจผ่านประสบการณ์ ซึ่งก็เป็นประสบการณ์ของเหล่า Blogger & Youtuber เหล่านั้นอีกที ทั้งการไปเที่ยวในสถานที่ยอดนิยมและสถานที่เที่ยวแบบ unseen

         ตัวอย่างของธุรกิจประเภทนี้ทำกำลังได้รับความนิยมคือ Above The mars และ HappyNancy

Hostel

            ความบูมของโฮสเทลนั้นมาพร้อมกับพฤติกรรมการท่องเที่ยวของเหล่า Gen Y และ Millennial ทั่วโลก ที่เริ่มมีการออกเดินทางท่องเที่ยวทั้งในรูปแบบเดี่ยวและกลุ่มมากขึ้น ผลสำรวจนั้นระบุว่าเหล่า Gen Y มักจะออกเดินทางท่องเที่ยวมากกว่าปีละ 2 ครั้ง โดยจะอยู่ในระยะเวลาสั้นๆ นั่นก็คือไปสั้นๆแต่ไปบ่อยๆ ทำให้งบประมาณการท่องเที่ยวในแต่ละครั้งนั้นจะค่อนข้างจำกัด ตัวเลือกอย่าง Hostel จึงเป็นที่นิยมอย่างมาก ประกอบกับนิสัยการชอบแลกเปลี่ยนกับคนอื่น การแสวงหาประสบการณ์ ซึ่งโฮสเทลนั้นสามารถตอบโจทย์ความต้องการนี้ได้เป็นอย่างดี

            เนื่องจากการทำธุรกิจโฮสเทลนั้นไม่ได้ใช้เงินลงทุนสูงมากหากเทียบกับธุรกิจโรงแรมประเภทอื่น ขอเพียงแค่ทำเลติดกับขนส่งมวลชน เดินทางง่าย ปลอดภัย และสะอาด ไม่จำเป็นต้องมีบริการอะไรมากมายเหมือนกับโรงแรม ทำให้เหล่า Gen Y เริ่มเข้ามาลงทุนในธุรกิจยี้อย่างแพร่หลาย

           ตัวอย่างธุรกิจนี้ได้แก่ Once Again Hostel และ Bed Station

Event Organization & Concert

            ช่างเป็นรูปแบบธุรกิจที่สุดแสนจะถูกจริต Gen Y เหลือเกิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดอีเว้นท์ประเภทคอนเสิร์ตต่างๆ ปัจจุบันนี้มีบริษัทออแกไนซ์หลายเจ้าที่เริ่มมาจัดคอนเสิร์ตของตัวเอง หรือแม้แต่รับจัดให้สปอนเซอร์เจ้าใหญ่ๆ จากแต่เดิมในสมัยก่อนที่จะมีเพียงบริษัทค่ายเพลงหรือสื่อใหญ่ๆเท่านั้นที่จะเป็นผู้จัดได้ ตรงกับพฤติกรรมของ Gen Y ของการหลงใหลอย่างสุดโต่งในความชอบของตัวเอง ค่าบัตรจะราคา 4-5 พันก็ยอมจ่ายหากเป็นศิลปินที่คลั่งใคล้ โดยเฉพาะแค่ภายใน พ.ศ.2560 มีคอนเสิร์ตของวงต่างประเทศที่เข้ามาจัดในเมืองไทยแล้วมากกว่า 40 วง ที่สำคัญคือบัตรคอนเสิร์ตนั้นขายดีในขนาดที่ว่า นั่งเฝ้ากน้าจอคอมเพื่อเตรียมกดบัตร แต่ก็ยัง Sold Out ภายในชั่วโมงนั้นกันเลยทีเดียว

            นอกจากนั้นยังมีคอนเสิร์ตของศิลปินไทย ที่มีทั้งเจ้าเล็กเจ้าใหญ่ต่างก็มีการจัดเทศกาลดนตรี โดยใช้วิธีการปักหมุดในพื้นที่ต่างจังหวัด ทำให้เหล่า Gen Y ขยันกันไป เพราะได้ทั้งไปเที่ยวและไปดูคอนเสิร์ตในคราวเดียวกัน

           ตัวอย่างของธุรกิจประเภทนี้ได้แก่ ZAAP, Wonderfruit, fungjai (ผู้จัด Music Festival) และ VIJI CORP (ผู้จัดคอนเสิร์ตวงต่างประเทศ)

Fashion

            ‘แฟชั่นไม่มีวันตาย มีเพียงแต่การหาย เพื่อกลับเข้ามาใหม่ คำพูดนี้เห็นทีจะเป็นความจริง เพราะไม่ว่าจะกี่ปีผ่านไป แฟชั่นนั้นก็มีหมุนเวียนกลับมาใหม่ได้ทุกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคดิจิตอลแบบนี้ที่สามารถซื้อง่ายขายคล่องกันด้วยระบบออนไลน์ การถือกำเนิดของเหล่า Fashion Designer ก็เติบโตขึ้นตามไปด้วย ธุรกิจด้านแฟชั่นที่เริ่มตั้งแต่การเป็นเจ้าของแบรนด์เสื้อผ้า, นางแบบนายแบบ, blogger, หรือเป็นเจ้าของร้าน Multi-brand เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่เริ่มฮิตในกลุ่มคน Gen Y โดยมาจากพฤติกรรมของความต้องการ ‘ดูดี’ และความหลงใหล ทำให้เหล่า Gen Y เหล่านี้เริ่มสร้างแบรนด์เสื้อผ้าของตัวเองอย่างแพร่หลาย จนปัจจุบันนี้มีแบรนด์เสื้อผ้าออนไลน์เกิดขึ้นมากมาย แบรนด์ใดที่ได้รับความนิยมจนติดตลาดแล้ว จึงจะนำขึ้นศูนย์การค้าฯ หรือมีหน้าร้าน หรือนำสินค้าเข้าไปอยู่ในร้าน Multi-brand ร้านที่รวบรวบสินค้าจากแบรนด์แฟชั่นออนไลน์ไว้ในที่เดียว โดยผู้ซื้อสามารถมาเลือกสินค้าได้จริงก่อนตัดสินใจว่าจะซื้อที่หน้าร้านหรือสั่งออนไลน์ก็ได้

           ตัวอย่างของธุรกิจประเภทนี้ได้แก่ SOS Sense of style, A.SAP และ Matchbox

 

บทความโดย : TerraBKK เคล็ดลับการลงทุน

TerraBKK ค้นหาบ้านดี คุ้มค่า ราคาถูก