ว่ากันตามตรง เศรษฐีบ้านเช่า ใช่ว่าสบายใจอย่างใครคิด ส่วนของ “เสือนอนกิน” ก็จริงอยู่ แต่ก่อนจะมองแต่ความสุขสบายปลายทาง ลองย้อนกลับมาดูระหว่างทางกันดีไหม เขาเหล่านั้นมักเจอปัญหาใดกันบ้าง TerraBKK เปิดเผย 6 เรื่องจริง ปัญหาจริง ไม่ว่าใครเข้ามาทำวงการบ้านเช่า มากน้อยช้าเร็วอย่างไร ก็ต้องเจอดีเข้ากับตัวบ้าง อ่านเป็นกรณีศึกษาก่อนคิดอยากเป็น เศรษฐีบ้านเช่า ดังนี้

  ไม่มีคนเช่า 

           เรื่อง basic ที่แสนเจ็บปวด ก็ว่าเลือกโครงการเด่นทำเลดีแล้วไฉนยังไม่มีผู้เช่า ปัญหาคือจำนวนยูนิตโครงการ สัดส่วนระหว่างคนซื้อปล่อยเช่ากับคนซื้ออยู่จริง เพราะนั้นคือคู่แข่งของคุณทั้งหมด สมมติส่วนใหญ่เขาปล่อยเช่าอยู่ที่เดือนละ 10,000 – 12,000 บาท ถ้าDemand ไม่มากพอ แล้วห้องของคุณก็ไม่ได้โดดเด่นอะไร หากคุณอยากได้ค่าเช่าดีก็ต้องใช้เวลา เรื่องจริงที่ เศรษฐีบ้านเช่า ต้องเจอคือคู่แข่งใช้วิธี ”ตัดราคา” ยอมลดค่าเช่าดีกว่าปล่อยห้องว่างๆ เหลือ 8,500 บาทต่อเดือน ถ้าทุกห้องลดราคาลงมากันหมด ลางร้ายมาเคาะประตูห้องคุณแล้ว

 ค่าเช่าไม่ cover ค่าผ่อน 

           อย่าไปเชื่อทฤษฎีมากจนเพ้อฝัน เศรษฐีบ้านเช่า ล้วนผ่านบทเรียนนี้กันมาแล้ว หลักการใช้เงินคนอื่นมาลงทุน เช่น กู้ธนาคาร คิดแบบรวดรัดง่ายๆ คือ กู้ 1 ล้านบาท ผ่อนจ่าย 7,000 บาท ถ้าลงทุนคอนโดมิเนียมราคา 2 ลบ.ตามท้องตลาด ควรปล่อยเช่าอย่างต่ำ 14,000 บาทต่อเดือนเพื่อcover เงินผ่อนแต่ละเดือน มองต่อไปว่าคนรายได้เท่าไหร่ถึงจะเช่าห้องอยู่ราคานี้ได้ นั้นคือเรื่องจริงที่ว่า ไม่ใช่ทุกแห่งจะมี Damand ที่มีกำลังจ่ายในแบบที่คุณต้องการเสมอไป รวมทั้ง ค่าส่วนกลาง ฯลฯ ที่เกิดเป็นค่าใช้จ่ายด้วย

 service ไม่จบสิ้น 

            ว่าใครไม่ได้ เพราะมันคือหน้าที่เจ้าของบ้านเช่าต้องดูแล หากเบื่อตามแก้ไขปัญหา ลองปล่อยทิ้งไว้บ้าง สุดท้ายปัญหาลามไปส่วนอื่นให้วุ่นวายได้ ทั้งหมดคือความจริงที่ เศรษฐีบ้านเช่า ต้องเจอ เช่น หลังคารั่วซึม ปล่อยทิ้งไว้ กลายเป็นต้นตอปัญหาฝาบวมตามมา เป็นต้น รวมทั้ง ผู้เช่าบางรายเจรจาขอติดตั้งโน้นนี่ เจาะผนัง ฯลฯ หากสัญญาเช่าระบุไม่ชัดเจน หรือผู้เช่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์ คิดว่าไม่มีผลต่อโครงสร้างบ้านคงไม่เป็นไร สุดท้ายบ้านเสียหายเป็นรอยเจาะ เจ้าของบ้านเช่าได้แต่นั้งทำใจ

  บ้านเน่า 

           คนอยู่บ้านเช่าย่อมไม่รักษาดูแลเหมือนอยู่อาศัยบ้านตนเอง ดังนั้น การดูแลเอาใจใส่บ้านย่อมต่างกันแน่นอน สภาพบ้านจะทรุดโทรมมากน้อยขึ้นอยู่กับความโชคดีของ เศรษฐีบ้านเช่า รายนั้น แม้มีการเก็บเงินประกันข้าวของเสียหายตั้งแต่ทำสัญญาเช่า ก็ใช่ว่าจะคุ้มทุนซ่อมแซมบ้านเสมอไป

 ผู้เช่าหนี 

          ลองสังเกตผู้เช่าให้ดี อาการส่อแววเริ่มต้นจากการจ่ายค่าเช่าล่าช้า จ่ายค่าเช่าไม่ตรงเวลา เจ้าของบ้านเช่ามือใหม่อาจจะใช้วิธีประนีประนอม ใจเขาใจเรา ช่วยเหลือกันไป ความจริงแล้ว “ความใจดี” นั้นแหละคือภัยร้ายต่อตัว เศรษฐีบ้านเช่า เสียเอง ผู้เช่าชินชากับการจ่ายค่าเช่าไม่ตรงเวลาจนกลายเป็นเรื่องปกติ อาการรุนแรงกว่านั้น คือผู้เช่าหนีหายไปพร้อมกับค่าเช่าที่ค้างจ่ายไม่พอ ยังเป็นหนี้ให้เจ้าของบ้านต้องตามจ่ายด้วย เช่น ค่าน้ำ ,ค่าไฟ , ค่าโทรศัพท์ ,ค่าอินเตอร์เน็ต เป็นต้น จะไม่จ่ายก็ไม่ได้ น้ำไฟถูกตัด สุดท้ายปัญหาก็ตกมาที่เจ้าของบ้านอยู่ดี

  คนเช่าไม่จ่าย ไม่ย้ายออก 

         กฎหมายบ้านเราคุ้มครองผู้เช่า นี่คือเรื่องจริงที่ เศรษฐีบ้านเช่า น่าจะรู้กัน บางรายเจอผู้เช่าท้าให้ไปฟ้องศาลขับไล่ เล่นเอาทำอะไรไม่ถูก ใครไม่อยากเจอแบบนี้ ลองกลับไปลงรายละเอียดปิดช่องโหว่เรื่องสัญญาเช่าให้ดี หากแก้ไขไม่ทันแล้ว ควรดำเนินการตามขั้นตอน เช่น ออกจดหมายแจ้งเตือน , ออกเอกสารยกเลิกสัญญา ไปจนถึงขั้นฟ้องศาล เป็นต้น ---TerraBKK

 

บทความโดย : TerraBKK เคล็ดลับการลงทุน
TerraBKK ค้นหาบ้านดี คุ้มค่า ราคาถูก